การประกาศยุติสัญญาในการปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย มีผลตั้งแต่พฤหัส ที่ 29 กรกฏาคม ที่ผ่านมา ระหว่างสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ว่าจ้าง กับ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก ต่อวงการกีฬาไทยในขณะนั้น ด้วยเหตุที่ว่า กระแสความสนใจของวงการ พุ่งเป้าไปที่การทำผลงานของนักกีฬาไทย กับโอลิมปิก “ โตเกียว 2020”
ขณะที่การอยู่หรือไป ของ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ก็มีกระแสออกมาอยู่ตลอดเวลา หลังจากจบภารกิจฟุตบอลทีมชาติไทย ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบที่ 2 โซนเอเชีย เมื่อผลงานตลอด 3 เกม ซึ่งแข่งกันไปในเดือน มิถุนายน ที่สหรัฐอาหรับ เอมิเรสต์ “ช้างศึก”ทีมชาติไทยย ทำได้เมื่อจบทัวร์นาเมนต์นี้ ด้วยการจบผลงาน ที่อันดับที่ 4 ไม่ ผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีม สุดท้ายของเอเชีย
ผลงานของฟุตบอลทีมชาติไทย ในศึกคัดฟุตบอลโลกรอบ ภายใต้ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย จากการลงเตะไป 8 นัด คือ การชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 3 มี 9 คะแนน ส่วน อันดับ1 ในสายคือ สหรัฐอาหรับ เอมิเรสต์ ที่มี 18 คะแนน , เวียดนามอันดับสอง ที่มี 17 คะแนน มาเลเซียอันดับสาม ที่มี12 คะแนน ,ไทยอันดับ 4 ที่มี 8คะแนน และ อินโดนีเซีย รั้งท้าย มี1 คะแนน
ฟางเส้นสุดท้ายของฟุตบอลทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของอากิระ นิชิโนะ ที่เคยสร้างชื่อพาทัพ“ซามูไรบูลส์” ทีมชาติญี่ปุ่น ไปฟุตบอลโลกที่รัสเซียมาแล้ว ในปี 2018 คือ 3 เกม ของทีมชาติไทย ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ คือ 3 มิถุนายน เสมอกับ อินโดนีเซีย 2- 2 , 7 มิถุนายน แพ้ให้กับสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ 3-1 และ 15 มิถุนายน แพ้ให้กับมาเลเซีย 0-1
การพลาดโอกาสเข้าสู่รอบ 12 ทีม สุดท้ายของ”ช้างศึก”ทีมชาติไทย กลายเป็นประเด็นของการถูกโจมตีหรือซักฟอก ต่อการทำผลงานของกุนซือสัญชาติญี่ปุ่น นับตั้งแต่การพานักฟุตบอลทีมชาติไทย ร่วม 40 ชีวิตเดินทางสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เพื่อไปคัดตัวกันหน้างาน ที่กลายเป็นปัญหาต่อการโฟกัส ผู้เล่นในที่สุด
หรือ แม้แต่การจัดหาล่ามมาทำหน้าที่ โดย “ นิชิโนะ” เอง ก็กลายเป็นว่ากุนซือญี่ปุ่นสอบไม่ผ่าน กับปัญหาเหล่านี้ จนทำให้การสื่อสารภายในทีมมัปัญหา ปัจจัยเหล่านี้กลายเป็นตัวฉุดรั้งมาถึงผลงานฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบสองไปในที่สุด
เส้นทางของ” อากิระ นิชิโนะ” ต่อการทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย คือ การเข้ารับงานสืบต่อจาก ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ในเดือนกรกฎาคม 2562 หรือปี 2019 ความโดดเด่นในผลงานด้วยการพาทีมชาติญี่ปุ่น ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย คือ ใบเบิกทางสำคัญ ที่ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประเมินว่า ” อากิระ นิชิโนะ” คือคนที่ใช่ สำหรับฟุตบอลทีมชาติไทย
อย่างไรก็ตามผลงานของ อากิระ นิชิโนะ ตลอด 2 ปี ของการทำหน้าที่ คุมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ และชุดอายุไม่เกิน 23 ปี คือนับตั้งแต่ กรกฎาคม 2562 จนถึง กรกฎาคม 2564 กลายเป็นว่าผลงานของเขา ไม่สามารถสร้างแรงฉุดรั้งได้มากพอ เพื่อที่เฮดโค้ชรายนี้ จะได้ทำหน้าที่พิสูจน์ฝีมือตัวเอง
นับตั้งแต่ความล้มเหลวของฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งจบผลงานที่รอบแรกซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ และจบผลงานที่รอบ 8 ทีม สุดท้ายในฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ในปี 2019 จนมาถึงฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบ 2 ที่เพิ่งจบทัวร์นาเมนต์ ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ การทำได้เพียง 1 คะแนน ใน 3 เกม สุดท้าย คือบทบทส่งท้ายต่อการทำหน้าที่กุนซือ ของอากิระ นิชิโนะ ให้สิ้นสุดลงในที่สุด