“ศศลักษณ์ ไหประโคน” วิงแบ็กซ้าย “ทีมชาติไทย” ออกมาเปิดเผยว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อโอกาสลงสนาม ไม่กดดันถูกคาดหวังแทน “ธีราทร บุญมาทัน” ที่ถอนตัวออกไป
วันที่ 2 มิ.ย. 64 ศศลักษณ์ ไหประโคน วิงแบ็กทีมชาติไทย เปิดใจถึงความคาดหวังจากแฟนบอลช้างศึก เกี่ยวกับการก้าวขึ้นมาทดแทนตำแหน่งของ ธีราทร บุญมาทัน ที่ถอนตัวจากทีมชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทั้งนี้ ศศลักษณ์ ไหประโคน วิงแบ็กสารพัดประโยชน์ วัย 25 ปี เพิ่งบรรลุข้อตกลงย้ายจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปเป็นนักเตะใหม่ของชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึกเคลีก เกาหลีใต้ ด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน โดย ศศลักษณ์ ไหประโคน ถือว่าเป็นนักเตะที่รักษามาตรฐานการเล่นและโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนพัฒนาฝีเท้าแบบก้าวกระโดด และก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้สำเร็จ
ล่าสุด ศศลักษณ์ ไหประโคน ออกมากล่าวว่า “ตอนนี้สภาพร่างกายของผมดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เรามาอยู่ที่นี่ โค้ชนิชิโนะและทีมงานวางโปรแกรมซ้อมที่ทำให้สภาพร่างกายของนักเตะดีขึ้น บรรยากาศในทีมตอนนี้ดีมากครับ ทุกคนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะอย่างที่รู้ว่าทีมเราขาดนักเตะตัวหลักถึง 3 ราย ก็พยายามใช้ทีมเวิร์คของพวกเราเข้าสู้ครับ”
“เกมอุ่นเครื่อง 3 นัดที่ผ่านมา ผมคิดว่าเป็นแมตช์ที่ทำให้พวกเราได้ทดลองทีม ทดลองตัวผู้เล่นมากกว่า โค้ชนิชิโนะต้องการดูศักยภาพของนักเตะแต่ละคนว่าใครเหมาะสำหรับวิธีการเล่นแบบไหน แต่พวกเราพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อให้พร้อมที่สุดก่อนเข้าสู้ทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก”
“ส่วนตัวผมคิดว่ายังต้องปรับอีกหลายอย่างให้เข้ากับสิ่งที่โค้ชต้องการ เพื่อที่จะได้เป็นตัวเลือกแรกๆ ในการลงสนาม ช่วงอุ่นเครื่องที่ผ่านมาผมคิดว่าโค้ชยังไม่ได้ใส่แท็คติกอะไรมาก แต่หลังจากนี้จะมีการใส่รายละเอียดวิธีการเล่นแบบเข้มข้นอย่างแน่นอนครับ”
“โค้ชนิชิโนะเน้นไปที่เรื่องทีมเวิร์คสำคัญสุด โค้ชเข้าใจว่าทีมเราต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่าง เช่น โควิด-19 ดังนั้นการเป็นหนึ่งเดียวกันในทีมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับการแข่งขันครั้งนี้”
“ผมยังไม่รู้ว่าโค้ชจะตัดสินใจเลือกใช้ใครในตำแหน่งนี้ แต่ตัวผมเองจะพยายามเตรียมความพร้อมให้พร้อมที่สุด ไม่ว่าโอกาสนั้นจะมาถึงตอนไหน มันไม่สำคัญ ตัวเราเองต้องพร้อมที่สุดในการลงสนามครับ”
“ผมใช้คำพูดเหล่านั้นเป็นแรงผลักดันตัวเองมากกว่าครับ พยายามเรียนรู้ในทุกๆ เรื่องอยู่แล้ว ไม่ว่าผมจะเผชิญกับปัญหาอะไร ส่วนตัวผมเองก็พอรู้มาบ้างว่ามีแฟนบอลคาดหวังเรื่องนี้กับผม ลึกๆ แล้วผมรู้สึกดีใจมากกว่าครับ แต่ไม่ได้กดดันตัวเอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าเวลาของตัวเองจะมาถึงตอนไหน”
“ส่วนความคาดหวังส่วนตัว ผมต้องการเป็น 1 ใน 23 นักเตะ สำหรับลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ครับ จะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ เตรียมพร้อมตัวเองให้พร้อมลงสนามมากที่สุด”
สุดท้าย ศศลักษณ์ เผยถึงโอกาสการลุ้นเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายของทีมชาติไทยกับโปรแกรมอีก 3 นัดที่เหลือว่า “แม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก แต่พวกเราจะพยายามทำให้ได้ เพื่อความสุขของแฟนบอลชาวไทยทุกคนครับ” โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ของทีมชาติไทย.