พรีวิวฟุตบอลโลก 2022 กลุ่มเอฟ : ศูนย์รวมของม้านอกสายตา
ถ้าหากไม่นับ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ในกลุ่มเอฟ ของฟุตบอลโลกครั้งนี้ ต้องบอกว่าเป็นศูนย์รวมของทีมม้านอกสายตาแทบทั้งสิ้น
อย่าง “ตาหมากรุก” โครเอเชีย คงไม่มีใครคาดคิดว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว พวกเขาจะกรุยทางไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แม้ว่าสุดท้ายจะพ่ายให้กับฝรั่งเศสไป 2-4 ได้เพียงรองแชมป์ แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาคือม้ามืดของจริง
เพียงแต่มา 4 ปีนี้ ทีมของโครเอเชียศักยภาพไม่เท่าเดิมเพราะนักเตะตัวหลักๆ หลายคนก็เริ่มอายุมากขึ้นและเริ่มโรยราลงไป ไม่ว่าจะเป็น ลูก้า โมดริช, อีวาน เปริซิช หรือเดยัน ลอฟเรน ก็ตาม
ยิ่งผลงานในยูโร 2020 เมื่อปีก่อน พวกเขาตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นภาพที่ถึงจะประสบการณ์สูงแค่ไหน แต่ถ้าขามันไม่ไปตาม มันก็มีขีดจำกัดอยู่
อีกครั้งมาในครั้งนี้พวกเขามีความกดดันที่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะหนก่อนทำไว้ดี อาจจะเป็นตัวที่ฉุดรั้งผลงานของพวกเขาเอาไว้ได้
ในขณะที่ทีมโมร็อกโก ตัวแทนจากแอฟริกา มาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน แต่ 4 จาก 5 ครั้งที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยทะลุฝ่ารอบแรกไปได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
อีกทั้งผลงานหนก่อนทีไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย ก็คงไม่แปลกที่จะถูกมองว่าเป็นม้านอกสายตาอีกหนึ่งทีม
อย่างไรก็ตามทีมนี้เพิ่งจะผ่านปัญหาภายในทีมมาได้ เพราะก่อนหน้านี้วาฮิด ฮาลิฮอดซิช กุนซือคนเก่ามีปัญหากับนักเตะหลายคนจะทำให้ ฮาคิม ซีเย็ค เคยประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปพักหนึ่ง ก่อนที่ล่าสุดทีมจะเปลี่ยนแปลงโค้ชใหม่ ให้วาลิด เรกรากุย เข้ามาทำหน้าที่ และเป็นเหมือนกาวประสานใจกับนักเตะ
นอกจากนี้ทีมโมร็อกโกชุดนี้ ยังมีผู้เล่นดาวดังหลายคนที่เล่นอยู่ในลีกยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอัชราฟ ฮาคิมี่ ปราการหลังจากปารีส แซงต์ แชร์แม็ง หรือ นุซแซร์ มาซราอุย จากบาเยิร์น มิวนิก ซึ่งถ้าประสานกับแข้งที่มีประสบการณ์เมื่อ 4 ปีก่อน ก็อาจจะทำให้ม้าตัวนี้กลับมาอยู่ในสายตาของแฟนบอลได้เช่นกัน
ด้านเจ้าภาพร่วมในอีก 4 ปีข้างหน้า แคนาดา ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี แถมมาในฐานะแชมป์โซนคอนคาเคฟอีกด้วย
ส่วนหนึ่งเพราะแคนาดาชุดนี้กำลังอยู่ในช่วงยุคทองของพวกเขา มีดาวเตะที่สำคัญกำลังขึ้นมาหลายคน ทั้งโจนาธาน เดวิด กองหน้าฟอร์มฮอตของลีลล์, ไคล์ ราริน ดาวซัลโวประจำทีม และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ อัลฟองโซ่ เดวีส์ แบ๊กจอมบุกของบาเยิร์น มิวนิก
อย่างไรก็ตามในรายของเดวีส์ อาจจะต้องลุ้นสักหน่อยว่าเจ้าตัวจะฟิตทันบอลโลกหรือไม่ หลังเพิ่งได้รับบาดเจ็บมา ซึ่งถ้ามาไม่ได้ ต้องบอกว่าเสียหายหนักมากทีเดียว
และถ้าเราบอกว่าแคนาดากำลังเข้ายุคทองของพวกเขา คู่แข่งรวมกลุ่มอย่าง “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ก็คงต้องบอกว่ายุคทองของพวกเขาใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้วเช่นกัน
เพราะบรรดาตัวผู้เล่นหลักอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, เอเดน อาซาร์, ติโบต์ กูร์ตัวส์, ดรีส์ เมอร์เทนส์ หรือโรเมลู ลูกากู วัยเริ่มเข้าสู่เลข 3 กันแล้ว และคงเหลือเวลาในฟุตบอลโลกกันอีกไม่นาน
แต่เป้าหมายของพวกเขายังคงไม่สำเร็จนั่นคือการคว้าแชมป์สมัยแรกให้ได้เสียที ดังนั้นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ คงจะเป็นครั้งสำคัญของพวกเขาที่มีครบทั้งประสบการณ์, ฝีเท้า หรือความมุ่งมั่นก็ตาม
ที่ผ่านมาพวกเขาเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อปี 2014 ก่อนจะมาคว้าอันดับ 3 ได้เมื่อ 4 ปีก่อนที่รัสเซีย ในขณะที่ครั้งนี้รอบแรกเองก็ถือว่าไม่หนักมาก ดังนั้นแอบลุ้นว่าจะเข้ากรุยทางไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้เลย
แน่นอนว่าในกลุ่มเอฟ ทีมเต็งที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปได้คงต้องยกให้เบลเยียม ที่ถ้าไม่ประมาทอย่างน้อยน่าจะเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มได้เลย (แต่อาจจะไม่ชนะรวดทุกนัดแค่นั้น) ในขณะที่โครเอเชียคงต้องลุ้นหนักหน่อย เพราะทั้งแคนาดา หรือโมร็อกโก น่าจะมาสู้แบบสุดใจขาดดิ้นเช่นกัน
แต่ถึงแม้ว่ากลุ่มนี้จะมีแต่ม้านอกสายตาสำหรับแฟนบอล ทว่ามันก็น่าดู เพราะแสดงว่าทุกทีมมันสามารถสู้กันได้อย่างสูสี โดยเฉพาะบนเวทีฟุตบอลโลกแล้วด้วย
ฉะนั้นห้ามละสายตาโดยเด็ดขาด
โปรแกรมกลุ่มเอฟ
23 พฤศจิกายน โมร็อกโก พบ โครเอเชีย
23 พฤศจิกายน เบลเยียม พบ แคนาดา
27 พฤศจิกายน เบลเยียม พบ โมร็อกโก
27 พฤศจิกายน โครเอเชีย พบ แคนาดา
1 ธันวาคม โครเอเชีย พบ เบลเยียม
1 ธันวาคม แคนาดา พบ โมร็อกโก