ด้วยศักดิ์ศรีที่เป็นทีมแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 จึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ ยูโร 2020 ไปโดยปริยาย แต่ทัพลูกหนัง “ตราไก่” ฝรั่งเศส กลับไปไม่ได้ไกลเหมือนอย่างที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้ เพราะจอดป้ายเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น โดยพลาดท่าแพ้ สวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงดวลจุดโทษตัดสินแบบพลิกล็อก หลังเสมอในช่วงต่อเวลาพิเศษครบ 120 นาที 3-3 ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายยิงแซงพลิกขึ้นนำได้ถึง 3-1 เสียด้วยซ้ำ
แม้ว่าผู้เล่นส่วนใหญ่จะมาจากชุดที่ช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 เมื่อ 3 ปีก่อนได้สำเร็จ แต่ดูเหมือนว่าทัพลูกหนัง “ตราไก่” ในยุคปัจจุบันไม่ได้มีความกลมเกลียวเหมือนอย่างเมื่อก่อนเสียแล้ว และอาจจะมีปัญหาในเรื่องของ “สปิริต” หรือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไปด้วยเลย ซึ่งคาดว่ามาจาก “รอยร้าว” ในช่วงก่อนสู้ศึก ยูโร 2020 นั่นเอง
ในช่วงหลังจบเกมอุ่นแข้งนัดที่เปิดบ้านไล่ต้อน บัลแกเรีย 3-0 โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กองหน้าจอมเก๋าได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อในทำนองที่ว่ามีเพื่อนร่วมทีมบางคนไม่ค่อยจะจ่ายบอลให้เขาเลย แม้จะไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใคร แต่สื่อเมืองน้ำหอมได้พุ่งเป้าไปที่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าดาวรุ่งเป็นหลักเลย และดูเหมือนว่ากองหน้าวัย 22 ปีจะเกิดอาการร้อนตัวไปด้วย เพราะเคยโดนสื่อวิจารณ์ว่าชอบเก็บลูกฟุตบอลเอาไว้กับตัวเองมากเกินไป จึงได้ให้สัมภาษณ์แบบไม่สบอารมณ์ในเชิงตำหนินักเตะรุ่นพี่ว่าไม่ควรพูดเรื่องแบบนี้ออกสื่อด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ชิรูด์ เคยมีปัญหาบาดหมางใจกับ คาริม เบนเซม่า อีกรายหนึ่งด้วย เพราะเคยโดนอีกฝ่ายเอ่ยปากวิจารณ์แบบ “ยกตนข่มท่าน” ว่าเป็นเพียงแค่ “รถโกคาร์ท” ตามสไตล์การเล่นที่เชื่่องช้านั่นเอง ซึ่งแตกต่างจากตัวของเขาที่มีความเร็วเหมือนกับรถแข่งเอฟวัน ทำให้กองหน้าจอมเก๋าเหน็บแนบอีกฝ่ายกลับไปว่าคงต้องเป็นแชมป์โลกโกคาร์ทแน่ๆ เนื่องจาก ชิรูด์ มีชื่ออยู่ในทีมชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ขณะที่ เบนเซม่า ไม่ได้อยู่ในทีมชุดนั้นด้วย
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีการเคลียร์ใจกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ เบนเซม่า ถูกเรียกตัวกลับมาติดทีมชาติฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่โดนหมางเมินมาตั้งแต่ปี 2015 แต่ไม่มีใครรู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะสามารถกลับมาคบหากันแบบสนิทใจได้เหมือนเดิมด้วยหรือเปล่า
ทั้งนี้กุนซือ ดิดิเยร์ เดสชองส์ เคยยืนยันว่าเรื่องที่เหมือนจะเป็นความบาดหมางไม่ได้มีอะไรในกอไผ่ทั้งนั้น เพื่อหวังสยบ “คลื่นใต้น้ำ” ในช่วงก่อนสู้ศึกยูโร 2020 แต่สื่อในเมืองน้ำหอมกลับมีการนำเสนอเรื่องราวความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลังตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยเฉพาะเรื่องของที่พัก และข้อห้ามเรื่องการพบกับครอบครัว ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับนักเตะอยู่พอสมควร
เนื่องจาก ฝรั่งเศส ไม่ได้เป็นหนึ่งในเจ้าภาพร่วมของศึกยูโร 2020 จึงต้องเดินทางไปลงเตะในประเทศต่างๆ ตามที่กำหนดเอาไว้ในโปรแกรม ทำให้เหล่านักเตะมีปัญหาเรื่องของที่พักไปด้วย เพราะต้องเปลี่ยนที่นอนไปตามเมืองต่างๆ นั่นเอง โดย ฝรั่งเศส ได้เลือกพักที่โรงแรมแมร์ริออทในกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ด้วยเช่นกัน และทำให้พวกแข้งดังรู้สึกว่าอึดอัดจากสภาพของห้องนอนที่ไม่สามารถเปิดหน้าต่างได้
นอกจากนี้เหล่านักเตะยังรู้สึกผิดหวังกับกฎข้อห้ามของ สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส ที่ไม่ให้เจอหน้าครอบครัวในช่วงตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ เพราะยึดตามกฎกติกาในเรื่องของการป้องกันโควิด-19 นั่นเอง ซึ่งแตกต่างจากทัพลูกหนัง เบลเยี่ยม และ สเปน ที่อนุญาตให้ครอบครัวแวะมาเยือนเยี่ยมได้ทุกเมื่อ
ส่วนเรื่องของนอกสนามก็มีความวุ่นวายไม่แพ้กัน เพราะมีภาพของ เวโรนิก ราบิโอต์ คุณแม่ของ อาเดรียง ราบิโอต์ ได้เปิดศึกน้ำลายกับคุณพ่อของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และครอบครัวของ ปอล ป็อกบา โดยบอกว่าทั้งคู่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ทัพลูกหนัง “ตราไก่” ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกยูโร 2020 จากการเล่นฟุตบอลที่เห็นแก่ตัว และไม่ยอมทุ่มเทเพื่อทีมแบบเต็มที่ด้วย
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด