“อัซซูรี” คืนชีพ – ไทยรัฐ


โชว์ฟอร์มได้น่าสะพรึงเลยทีเดียวสำหรับ “อัซซูรี” ทีมชาติอิตาลี ในศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย ลงเล่นไป 2 นัดเก็บ 6 คะแนนเต็มตบเท้าเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นทีมแรก

อิตาลี ลงสนามในฐานะเจ้าภาพร่วมลงเตะนัดเปิดสนามด้วยการไล่ถล่ม ตุรกี ไปยับเยิน 3-0 ก่อนนัดล่าสุดลูกทีมของโรแบร์โต มันชินี ก็ยังยอดเยี่ยมไล่อัด สวิตเซอร์แลนด์ ไปยับเยิน 3-0

ผ่านไป 2 นัด อิตาลี ยิงได้ 6 ประตูและยังไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว เรียกได้ว่าเป็นผลงานมาสเตอร์พีซเลยทีเดียวของทีมชาติอิตาลี

จากผลงานที่ผ่านมาบรรดาบริษัทพนันถูกกฎหมายต่างหั่นราคา อิตาลี ซิวแชมป์ยูโร 2020 กันยกใหญ่ ทั้งๆที่ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม อิตาลีถือว่าเป็นม้านอกสายตา

จะว่าไปก่อนหน้านี้ อิตาลีก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนลุยยูโร 2020 ลงเล่น 8 นัดล่าสุดชนะรวดยิงได้ถึง 25 ประตูและไม่เสียประตูเลย

ที่บอกว่าเป็นม้านอกสายตานั้นก็เพราะแม้ว่าฟอร์มจะร้อนแรงขนาดไหน แต่ขุมกำลังยังค่อนข้างเป็นรองเมื่อนำมาเทียบกับบรรดาเต็งแชมป์อย่าง ฝรั่งเศส, อังกฤษ, เบลเยียม, โปรตุเกส, สเปน และเยอรมนี

จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำมั้ยทางบรรดากูรูกูรู้ถึงได้มองข้ามอิตาลีให้เป็นตัวเต็งคว้าแชมป์ในอันดับท้ายๆ

โดยขุมกำลังของอิตาลีชุดนี้แทบจะไม่มีนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์อยู่ในทีมเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งแตกต่างจากทัพ “อัซซูรี” ชุดก่อนๆ ที่จะมีบรรดานักเตะระดับโลกติดอยู่ในทีมด้วยเสมอ

จะว่าไปในฐานะที่เป็นหนึ่งในสาวกของอัซซูรี บอกตรงๆ กางรายชื่อผู้เล่นเรียกได้ว่ารู้จักชื่อยังไม่ถึงครึ่งทีมเลย แตกต่างจาก 10 ปีที่ผ่านมา คลอดโผออกมาแทบจะจำชื่อได้ทุกคน

ก่อนหน้านี้ 5 ปีที่ผ่านมาหลายคนเรียกว่าเป็นยุคตกต่ำของทีมชาติอิตาลีหลังจากอกหักพลาดไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียเป็นเจ้าภาพ

เรียกได้ว่าการตกรอบไม่ได้ไปเล่น “ฟุตบอลโลก 2018” คือจุดเปลี่ยนสำคัญของอิตาลีเลยทีเดียว

แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการเข้ามาของโรแบร์โต มันชินี กุนซือชาวอิตาเลียน ซึ่งเป็นคนเปลี่ยนแปลง อิตาลีชุดนี้จากทีมที่ย่ำแย่กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งได้

ช่วงแรกๆอาจจะดูทุลักทุเลไปบ้างกับการเข้ามาคุมทัพ แต่พอปรับนู่นปรับนี่ อิตาลี ก็เข้าที่เข้าทาง มันชินีคุมทัพอิตาลีมาทั้งหมด 34 นัด ชนะถึง 25 นัด เสมอ 7 นัด แพ้เพียงแค่ 2 นัด ยิงได้ 85 ประตู เสียไป 14 ประตูเท่านั้น

จุดเด่นของมันชินี คือการให้โอกาสนักเตะที่มีฝีเท้าดีๆ ที่หลบซ่อนตัวอยู่สโมสรเล็กๆ อย่าง อตาลันตา, โตริโน หรือซาสซูโอโล ไม่ว่าจะเป็น อันเดรียส เบลอตติ, โดเมนิโก เบร์ราร์ดี และมานูเอล โลคาเตลลี ซึ่งทั้ง 3 ก็กลายเป็นตัวหลักของทีมชาติชุดนี้ เช่นเดียวกับ มัตเตโอ เพสซินา, ราฟาเอล โตลอย ก็ถือว่าขยับขึ้นมาติดทีมบ่อยครั้งขึ้น

มาผนึกกับแข้งมากประสบการณ์อย่าง เลโอนาร์โด โบนุชชี, จอร์จิโอ คิเอลลินี, มาร์โก แวร์รัตติ, จอร์จินโญ, เฟเดริโก เคียซา, ชิโร อิมโมบิเล ก็ทำให้ทีมน่ากลัวขึ้น

โดยเฉพาะเกมรุกที่มันชินีหาจุดลงตัว

จนตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรุกสุดอันตราย ส่วนเกมรับไม่ต้องพูดถึงมันแข็งแกร่งเป็นสไตล์ของอิตาลีอยู่แล้ว ซึ่งส่วนประสานที่ลงตัวทำให้ อิตาลี กลับกลายเป็นทีมที่น่ากลัวอีกครั้ง

ตอนนี้ ยูโร 2020 เพิ่งผ่านไปแค่ 2 นัด หนทางยังอีกยาวไกลที่จะก้าวไปถึงแชมป์

แต่บอกได้เลยว่าตอนนี้ “อิตาลี” คืนชีพกลับมาเป็นยอดทีมของโลกอีกครั้งอย่างเต็มตัว!!

มะระหวาน