เนย์มาร์ จัดการซัดประตูและจ่ายให้เพื่อนยิงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยพาทีมชาติบราซิล บุกเอาชนะ ปารากวัย 2-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ เมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ ช่วงเช้าวันพุธที่ 9 มิถุนายน เจ้าถิ่น ปารากวัย สะดุดเจ๊ามา 3 เกมติดต่อกันหลังออกไปเสมอกับ อุรุกวัย 0-0 ทำให้ทีมรั้งอันดับที่ 4 ของตาราง
ฝั่ง บราซิล บราซิล ชนะมา 6 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการหลังเปิดบ้านเชือด เอกวาดอร์ 2-0 ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก นัดล่าสุด ทำให้ทีมรั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนในเวลานี้ โดยทาง ตีเต้ กุนซือใหญ่จัดแนวรุกลงสนามครบครันทั้ง ริชาร์ลิซอน, กาเบรียล เชซุส, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ เนย์มาร์
เปิดฉากได้แค่ 5 นาทีเป็น บราซิล ที่ชิงออกนำได้ก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ กาเบรียล เชซุส กระชากบอลทางฝั่งขวาแล้วตบมาหน้าประตู จังหวะแรก ริชาร์ลิซอน ยิงไม่ดีบอลเลยมาตกหน้า เนย์มาร์ จากนั้นกัปตันทีมแซมบ้าจับบอลลงหนึ่งจังหวะก่อนจะยิงยัดเสาแรกพาทัพเซเลเซา ออกนำ 1-0
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครั้งแรก ริชาร์ลิซอน ส่งบอลเข้าประตูจากจังหวะหลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายเต็มข้อ ทว่าผู้กำกับเส้นยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปเสียก่อน และหมด 45 นาทีแรก บราซิล บุกนำ 1-0
นาที 69 ริชาร์ลิซอน กระชากจากครึ่งสนามมาถึงในกรอบเขตโทษก่อนจะจิ้มด้วยซ้ายแต่ กุนตาโว่ โกเมซ ตามมาสไลด์บอลบล็อกเอาไว้ได้ทัน
นาที 87 เกมบุกของ ปารากวัย บ้าง และคราวนี้ อัลแบร์โต้ เอสปิโนล่า ได้จบสกอร์ แต่บอลยังไปเข้ามือของ เอแดร์ซอน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บราซิล มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะ เนย์มาร์ ผ่านบอลมาให้ กาเบรียล บาร์โบซ่า เอี้ยวตัวแปด้วยซ้ายส่งบอลเสียบเสาสอง และจบเกมด้วยชัยชนะของทีมเยือน 2-0 ส่งผลให้ บราซิล คว้าชัย 6 เกมรวด รั้งจ่าฝูงของตาราง ส่วน ปารากวัย มี 7 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ปารากวัย : อันโตนี่ ซิลวา,โรเบิร์ต โรฮาส(อัลแบร์โต้ เอสปิโนล่า น.61), กุสตาโว โกเมซ, จูเนียร์ อลอนโซ่, โอมาร์ อัลเดเรเต้, กัสตัน ฆิเมเนซ(กาเบรียล อวาลอส น.61), อังเคล การ์โดโซ่(อันโตนิโอ บาเรย์โร่ น.80), ซานติอาโก้ อาร์ซาเมนเดีย, มาติอัส บิยาซันติ(ออสการ์ โรเมโร่ น.73) , อังเคล โรเมโร่(บราเรียน ซามูดิโอ น.80), มิเกล อัลมิร่อน
บราซิล : เอแดร์ซอน, ดานิโล่, เอแดร์ มิลิเตา, มาร์กินญอส, อเล็กซ์ ซานโดร, เฟร็ด(ลูกัส ปาเกต้า), กาเซมิโร่, ริชาร์ลิซอน(กาเบรียบ บาร์โบซ่า น.82), กาเบรียล เชซุส(เอแวร์ตอน น.82), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่(ดั๊กลาส ลุยซ์ น.73), เนย์มาร์
Add friend ที่ @Siamsport