มติสภากีฬาโรงเรียนอาเซียนลบตะกร้อออกจากกีฬาบังคับ


สภากีฬาโรงเรียนแห่งอาเซียน มีมติปรับปรุงชนิดกีฬาบังคับโดยเปลี่ยนจากกีฬา เซปักตะกร้อ เป็น กีฬาบาสเกตบอล และให้มีผลบังคับใช้ในการแข่งขันอาเซียนสกูลเกมส์ ครั้งที่ 14 ณ ประเทศบรูไนดารุสซาลาม เป็นต้นไป ส่งผลให้ บรูไน ไม่บรรจุกีฬาเซปักตะกร้อทันที ด้าน อธิบดีกรมพลศึกษา ได้เสนอให้ที่ประชุมร่วมเป็นสมาชิกของสหพันธ์กีฬาโรงเรียนนานาชาติ (ISF) และสหพันธ์ฟุตบอลโรงเรียนแห่งเอเชีย (ASFF)

ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา เข้าร่วมการประชุมวิสามัญสภากีฬาโรงเรียนแห่งอาเซียน ครั้งที่ 2 ประจำปี 2023 โดยมี นายปณิธาน หงษ์ทอง ผู้อำนวยการกลุ่มกีฬาขั้นพื้นฐาน และ นายพรหมพร พจนานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มกีฬาระหว่างประเทศ เข้าร่วมการประชุม ที่อินโดนีเซีย ซึ่งในที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบในเรื่องต่างๆ ดังนี้

1. การยกเว้นค่าธรรมเนียมสมาชิกรายปี ระหว่างปี 2020 – 2022 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19

2. การปรับปรุงระเบียบการแข่งขันอาเซียนสกูลเกมส์ ได้แก่ การนับอายุนักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขัน โดยให้นับตามปี ค.ศ. ของการแข่งขันแทนการนับตามวัน การปรับปรุงชนิดกีฬาบังคับ โดยเปลี่ยนจากกีฬาเซปักตะกร้อ เป็นกีฬาบาสเกตบอล โดยให้มีผลบังคับใช้ในการแข่งขันอาเซียนสกูลเกมส์ ครั้งที่ 14 ณ ประเทศบรูไนดารุสซาลาม เป็นต้นไป และประเทศเวียดนามในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ครั้งที่ 13 กำหนดให้มีการประชุมหัวหน้าคณะนักกีฬา ระหว่างวันที่ 7 – 9 กรกฎาคม 2566 ณ เมืองดานัง ทั้งนี้ ที่ประชุมขอให้เวียดนามพิจารณาจัดการแข่งขันอาเซียนสกูลเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 6 – 21 สิงหาคม 2566 ซึ่งเวียดนามจะรับไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

3. อธิบดีกรมพลศึกษาเสนอให้ที่ประชุมกำหนดทิศทางในการพัฒนากีฬาโรงเรียนให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น และกล่าวเชิญชวน ประเทศอาเซียนสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหพันธ์กีฬาโรงเรียนนานาชาติ (ISF) และสหพันธ์ฟุตบอลโรงเรียนแห่งเอเชีย (ASFF) เพื่อให้แนวทางการทำงานระดับนานาชาติสอดคล้องกันอย่างเป็นระบบ

4. ประเทศบรูไนดารุสซาลามในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันอาเซียนสกูลเกมส์ ครั้งที่ 14 กำหนดชนิดกีฬาที่จะจัดการแข่งขัน ได้แก่ กรีฑา ว่ายน้ำ แบดมินตัน บาสเกตบอล เนตบอล ปันจักสีลัต และ วูซู