“มาดามวิ” โต้ลั่น ต้มไปเกาหลี ปธ.บอลทีมดังยันเข้าใจกันผิด หลังถูกแจ้งจับ

งานเข้า “มาดามวิ” ประธานสโมสรฟุตบอลดังแดนอีสาน “อุดร เอฟซี” ถูกกลุ่มคนงานแจ้งตำรวจ จับ อ้างโดนตุ๋นจะพาไปทำงานเกาหลีใต้ หลงเชื่อยอมจ่ายค่าหัวคนละ 2 หมื่นบาท สุดท้ายอดบินแถมขอเงินคืนไม่ได้ เจ้าตัวโต้ลั่นไม่ได้จัดหางาน เป็นแค่คนกลางระหว่างแรงงานกับนายจ้างชาวเกาหลีเท่านั้น เตรียมเปิดแถลงข่าวชี้แจ้งข้อเท็จจริง

คนงานแจ้งจับ “มาดามวิ” ประธานทีม “ยักษ์แสด” หลังอ้างจะพาไปทำงานเกาหลีใต้ แต่พอเสียเงินแล้วไม่ได้ไป ขณะที่เจ้าตัวชี้แจงเป็นเรื่องเข้าใจกันผิด เตรียมเปิดแถลงข่าวอีกครั้ง เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 ม.ค. นายวัชรดนัย ศิริสุขอภิรัมย์ อายุ 40 ปี ชาว จ.อุดรธานี และนายเด่นชัย แก้วมุงคุณ ชาว จ.หนองคาย พร้อมพวกรวม 9 คน เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.อริสรา ชะมูล อายุ 41 ปี หรือมาดามวิ ประธานสโมสรฟุตบอลอุดร เอฟซี ฉายาทีมยักษ์แสด ทีมฟุตบอลในลีก T 2 ของไทยพรีเมียร์ ลีก ในข้อหาฉ้อโกง และผิด พ.ร.บ.จัดหางาน

นายวัชรดนัยอ้างว่า ตนเป็นช่างเชื่อม เคยไปทำงานที่เกาหลีใต้ แบบถูกต้อง ผ่านสำนักงานจัดหางานเป็นเวลา 5 ปี หลังหมดสัญญากลับมาเมืองไทยและว่างงาน ต่อมาวันที่ 11 พ.ย. มีเพื่อนชักชวนไปทำงานเกาหลีใต้อีกครั้ง บอกว่า น.ส.อริสรา หรือมาดามวิ ผู้บริหารทีมฟุตบอลชื่อดังสามารถพาไปได้ ตนสนใจโทรศัพท์ไปพูดคุย น.ส.อริสราอ้างว่าทีมฟุตบอลที่ดูแลอยู่ได้รับหนังสือเชิญไปดูงานที่ประเทศเกาหลีใต้ และจะพาพวกตนเดินทางไปด้วยในนามทีมฟุตบอล แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการคนละ 2 หมื่นบาท มีผู้สนใจกว่า 60 คน ได้จัดตั้งไลน์กลุ่มนัดประชุมที่สำนักงานสโมสรฟุตบอลดังกล่าว มีนายจ้างจากเกาหลีมาประชุมด้วย เมื่อจ่ายเงินแล้ว สุดท้ายไม่ได้เดินทางทั้งที่มีเอกสารสัญญาจ้าง ใบเสร็จรับเงิน การโอนเงิน คลิปการประชุม ข้อความแชต เป็นหลักฐาน เหตุเกิดเดือน พ.ย.65-9 ม.ค.66

นายวัชรดนัยให้การอ้างต่อว่า มีการนัดประชุมกลุ่มในวันที่ 18 พ.ย. มีนายลีโอ นายจ้างชาวเกาหลีใต้ และล่ามแปลภาษามาร่วมประชุมด้วย ในที่ประชุมบอกว่าสามารถเดินทางเข้าเกาหลีใต้ เพราะมีหนังสือเชิญในนามทีมฟุตบอล มีวีซ่า 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถเข้าประเทศได้ มีงานเกษตรและโรงงานรองรับ มีสัญญาจ้างแน่นอน หากใครสนใจให้โอนเงินก่อนวันที่ 20 พ.ย. คนละ 2 หมื่นบาท เป็นค่าที่พัก และค่าทำวีซ่า เมื่อได้ทำงานแล้วจะหักค่าแรงวันละ 500 บาท ถ้าเข้าเกาหลีไม่ได้ จะคืนเงินให้ทุกคน ผู้เข้าร่วมประชุมหลงเชื่อ คนที่อยู่ใกล้ให้ส่งเอกสารมาที่สำนักงานสโมสรฟุตบอล ส่วนคนอยู่ไกลให้ส่งทางไปรษณีย์ มีใบเสร็จรับเงินให้ด้วย หลังโอนเงินแล้ว ยังนัดประชุมที่สำนักงานสโมส 0รฟุตบอล เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. คนที่อยู่ไกลประชุมออนไลน์ มีบันทึกคลิปเอาไว้ พอประชุมเสร็จยังได้นัดหมายการเดินทาง

ผู้เสียหายอ้างอีกว่า ต่อมา น.ส.อริสรา แจ้งว่าคนที่จะเดินทางไปจะต้องตรวจ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) หรือระบบอนุมัติการเดินทางออนไลน์สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเข้าประเทศเกาหลีใต้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เพื่อวัตถุประสงค์ในการท่องเที่ยว เยี่ยมชม การเข้าร่วมกิจกรรม หรือประชุม ธุรกิจ ยกเว้นวัตถุประสงค์ทางพาณิชย์ หากตรวจไม่ผ่านจะคืนเงิน กลุ่มแรก 15 คนนัดบินวันที่ 23 ธ.ค. เมื่อถึงเวลาปรากฏว่าบินไม่ได้ เพราะยังตรวจ K-ETA ไม่เสร็จ ได้แจ้งเลื่อนไปบินกับกลุ่ม 2 วันที่ 9 ม.ค. แต่พอถึงวันนัดหมาย ไม่มีใครได้บินแม้แต่คนเดียว สอบถามบอกว่าจะคืนเงิน แต่นัดแล้วกลับเลื่อนนัด ยังไม่ได้เงินคืนจนถึงวันนี้ ตอนประชุมบอกว่าไปแบบมีวีซ่า ไม่ได้ไปแบบผีน้อย มีนายจ้างเกาหลี มีล่าม มีงานโรงงานกิมจิ โรงงานสาหร่าย งานอ๊อกเชื่อมไปกับสโมสรฟุตบอล มีบัตรเชิญ การันตีเข้าได้แน่นอน ทุกคนโอนเงิน 2 หมื่นบาทเป็นค่าดำเนินการ

“เมื่อเข้าไปทำงานแล้ว เขาจะหักเงินค่าแรงวันละ 500 บาท สุดท้ายไม่ได้บิน ล่าสุดบอกว่านายลีโอ นายจ้างเกาหลียกเลิกไม่รับแรงงานแล้ว แปลว่าแม้จะเข้าไปได้ ต้องไปเป็นผีน้อยหางานทำเอง ส่วนผลตรวจ K-ETA ผ่าน 25 คน ในจำนวนนี้มีแค่ 5 คน มีความ ต้องการจะเดินทางไปเกาหลี แต่ถูกเรียกเงินเพิ่มอีกคนละ 8,000 บาท น.ส.อริสราพาทั้ง 5 คนบินเข้าประเทศเกาหลี และบอกว่าหากใครสนใจมาสมัครได้ จะพาคนที่ผ่าน K-ETA บินไปอีก พวกผมและเพื่อนรวม 9 คน ไม่เชื่อถือและไม่ไปแล้ว ได้ขอเงินคืน แต่ น.ส.อริสราไม่ยอมคืนให้เลยต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดี สาเหตุที่พวกผมหลงเชื่อว่า น.ส.อริสรา พาเข้าเกาหลีได้จริง เพราะเป็นผู้บริหารทีมฟุตบอลชื่อดัง มีหนังสือเชิญ ทุกคนมีความฝัน มีความหวัง บางคนลาออกจากงานเก่า เตรียมบินไปทำงาน แต่สุดท้ายโดนหลอก” นายวัชรดนัยกล่าว

พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.อริสรา รวม 9 คน สอบปากคำเสร็จแล้ว 2 คน และนัดสอบปากคำในวันที่ 28 ม.ค. อีก 4 คน จากนั้นจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ แม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะโทร.ติดต่อผู้เสียหายว่าจะคืนเงินให้ แต่ยังมีความผิด พ.ร.บ.จัดหางาน มาตรา 91 “ผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่า สามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงิน หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง” เป็นความผิดต่อรัฐ คดีนี้รัฐเป็นผู้เสียหาย จะได้ประสานเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดอุดรธานี เข้าตรวจสอบ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ด้าน ว่าที่ ร.ท.อนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางานจังหวัดอุดรธานี ให้ข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์เพิ่มเติมว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนมากนัก ต้องรอให้ตำรวจประสานข้อมูลมาให้ครบถ้วนก่อน หากผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ดังกล่าวจริง และหากไม่มีใบอนุญาตจัดหางาน จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.จัดหางาน มาตรา 91 ตรี มีโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง น.ส.อริสรา ชะมูล หรือมาดามวิ ประธานสโมสรฟุตบอลอุดร เอฟซี ผู้ถูกกล่าวหาเพื่อขอคำชี้แจง น.ส.อริสราให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนไม่ได้จัดหางาน แต่เป็นเพียงแค่สื่อกลางระหว่างแรงงานกับนายจ้างชาวเกาหลีใต้ ที่มาให้ตนช่วยประกาศหาแรงงานที่ต้องการไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ พวกที่ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจ K-ETA จะไม่สามารถไปเกาหลีได้ บริษัททัวร์จะคืนเงินให้ภายใน 45-90 วัน ตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนคนลงทะเบียนผ่าน สามารถเดินทางไปทำงานได้ตามปกติแบบไปท่องเที่ยว ไปกันเอง เพียงแต่ให้ตนเป็นคนหางานให้ มีนายจ้างเกาหลีชื่อ นายลีโอ ยอง ประสานมา คนที่ไปแจ้งความเคยเป็นผีน้อยมาแล้ว ลงทะเบียนอย่างไรก็ไม่ผ่าน ส่วนคนที่ไม่เคยไปทำงานเกาหลีผ่านทุกคน ตนก็ไปส่งที่เกาหลีแล้วเพิ่งจะกลับมา

“พวกที่ไม่ผ่าน 10 กว่าคน ต้องการเงินคืน แต่เราต้องหักค่าดำเนินการ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าลงทะเบียน และรอเงินจากบริษัททัวร์จะจ่ายคืน ตนแจ้งข้อมูลเหล่านี้กับแรงงานดังกล่าวไปแล้ว แต่ไม่ยอมรับฟัง มาบังคับให้คืนตอนนี้ เรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิด ยืนยันไม่ได้จัดหางาน ไม่ได้บีบให้มาสมัคร แต่จัดหาคนไปท่องเที่ยว ทำงานแค่ 90 วัน แล้วกลับมา ตอนนี้ดิฉันอยู่กรุงเทพฯ พาทีมฟุตบอลมาแข่ง เสร็จแล้วจะกลับไปแถลงข่าวอีกครั้ง” น.ส.อริสรากล่าว