3สิ่งแฟนลิเวอร์พูลอยากเห็นหลังผ่านเบรกทีมชาติ

เปิด 3 สิ่งที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล คงอยากเห็นหลังทีมรักกลับมาฟาดแข้งหลังผ่านช่วงเบรกทีมชาติไปแล้ว

   ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะกลับมาเตะกันอีกครั้งในช่วงต้นเดือนเมษายน หลังช่วงนี้ต้องหยุดพักเบรกให้กับโปรแกรมทีมชาติในยุโรปที่ลงทำศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก 

    ขณะที่ ลิเวอร์พูล จะกลับมาลงเล่นหลังเบรกทีมชาติด้วยการไปเยือน อาร์เซน่อล ในวันเสาร์ที่ 3 เมษายน ต่อด้วยไปเยือน เรอัล มาดริด ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก วันอังคารที่ 6 เม.ย.นี้ 

    “หงส์แดง” จะได้พัก 19 วันนับตั้งแต่ลงเล่นนัดล่าสุดกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน โดยบรรดา “เดอะ ค็อป” คงอยากเห็นทีมรักเจอกับ 3 สิ่งนี้หลังผ่านเบรกทีมชาติ

     1. เค้นฟอร์มใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เพื่อไปถึงแชมป์ให้ได้

    ลิเวอร์พูล ต้องเจองานหนักไม่น้อย หลังจับสลากไปเจอกับ เรอัล มาดริด ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย แม้หลายคนอาจมองว่า “ราชันชุดขาว” ไม่ได้แข็งแกร่งมากในซีซั่นนี้ก็ตาม 

    “หงส์แดง” จะต้องออกไปเยือนก่อนในเกมนัดแรกวันอังคารที่ 6 เม.ย. ก่อนกลับมาเปิดรัง แอนฟิลด์ ต้อนรับทีมจากสเปน ในวันพุธที่ 14 เม.ย.นี้ 

    แฟนบอล ลิเวอร์พูล คงหวังให้ทีมรักคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้เพื่อจะได้กลับมาเล่นถ้วยใหญ่อีกในฤดูกาลหน้า หลังโอกาสติดท็อปโฟร์ในลีกไม่ได้เป็นงานง่ายเลย

     2. กัปตันเฮนโด้คัมแบ็ก 

    จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม ลิเวอร์พูล มีอาการบาดเจ็บบริเวนโคนขาหนีบจนต้องรับการผ่าตัดไปเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 

    คาดว่า กัปตันเฮนโด้จะคืนสนามในช่วงปลายเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งทำให้ยังมีโอกาสช่วยทีมได้ทันหาก “หงส์แดง” ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก

    นอกจากนั้นการกลับมาของ เฮนเดอร์สัน จะทำให้แผงมิดฟิลด์แน่นขึ้น รวมทั้งยังอาจถอยไปเล่นเป็นเซนเตอร์แบ็กได้อีกด้วย หลังกองหลังเจ็บอยู่หลายราย

    3. เร่งเครื่องขึ้นไปติดท็อปโฟร์

    ในเวลานี้ ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 7 ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมี 46 แต้ม จากการลงแข่ง 29 นัด ตามหลัง เชลซี ทีมอันดับ 4 ซึ่งเป็นโควตาอันดับสุดท้าย ที่จะได้สิทธิ์ลุยถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า 5 แต้ม 

    คล็อปป์ ยอมรับว่า เป็นเรื่องยากสุดๆ ที่ “หงส์แดง” จะปิดฉากศึก พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2020/21 ด้วยการติดกลุ่มสี่อันดับแรก 

    อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ยังเหลือโปรแกรมให้ลงเตะอีก 9 นัด และถ้าสามารถเร่งเครื่องคว้าชัยต่อเนื่องก็ยังมีโอกาสที่จะติดอยู่ใน 4 อันดับแรกได้เหมือนกัน