เจาะลึกสถิติหลังเกม “แมนยูฯ” เจ๊า “มิลาน” ยูโรปาลีก 16 ทีม นัดแรก


This image is not belong to us

เจาะลึกสถิติหลังเกมที่ทาง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ยอดทีมแดนผู้ดี ในเกมที่เปิดบ้านเจ๊า “เอซี มิลาน” ทีมชั้นนำจากแดนมักกะโรนี 1-1 ในศึก ยูโรปาลีก 16 นัดแรก

วันที่ 12 มี.ค. 64 ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำทีม โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ เปิดสนาม โอลด์ แทรฟเฟิร์ด เสมอกับผู้มาเยือนอย่าง “ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน สโมสรชั้นนำจาก กัลโช เซเรียอา อิตาลี ที่มี สเตฟาโน ปิโอลี กุมบังเหียนไป 1-1 ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปาลีก 2020-21 รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ทั้งเกมนี้ดังกล่าว เจ้าถิ่น “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จาก อาหมัด ดิยัลโล ตราโอเร แข้งดาวรุ่งค่าตัวแพงระยับ นาทีที่ 50 ทว่าอาคันตุกะ “ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน มาได้ประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+2 จาก ไซมอน เคียร์ นั่นทำให้พวกเขาได้เปรียบเมื่อคว้าอะเวย์โกล์กลับไปก่อนลงเล่นนัดที่สองในบ้านของตัวเอง

เจาะลึกสถิติหลังเกม แมนยูฯ 1-1 เอซี มิลาน

– เมื่อล้มเหลวในการคว้าชัยชนะที่บ้านของตัวเอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เลยตลอด 6 จาก 8 ครั้งหลังสุด โดยครั้งก่อนหน้านี้นั่นคือเกม ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2018-19 ที่นัดแรกแพ้ในบ้านตัวเอง 0-1 ก่อนไปพ่ายที่คัมป์นูอีก 3-0

– หลังจากทำประตูเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา อาหมัด ดิยัลโล ตราโอเร จารึกประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในการแข่งขันฟุตบอลรายการยุโรปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยอายุเพียงแค่ 18 ปี กับอีก 243 วัน

– ประตูที่ อาหมัด ดิยัลโล ตราโอเร ทำได้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นการยิงครั้งแรกให้กับสโมสรและเป็นการลงเล่นครั้งที่ 3 ให้กับทีม

– เอซี มิลาน คว้าชัยชนะเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นจากการลงเล่น 11 นัดหลังสุดกับทีมจากอังกฤษ โดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซีซั่น 2011-12 ซึ่งนอกจากนั้นเสมอ 3 และแพ้ถึง 7 เกม

– การพบกันครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคมปี 2010 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ เอซี มิลาน 4-0 ซึ่งถือว่ายังเป็นการพ่ายแพ้ที่มากที่สุดของทีมจากอิตาลีในการแข่งขันฟุตบอลยุโรป (ไม่รวมซูเปอร์คัพ)