“นิธิชัย แช่มช้อย”ควักเงินล้านผุด”ภูริอะคาเดมี่”ที่ราชบุรี – สยามกีฬา


อยากให้ชีวิตเป็นเช่นไรต้องลิขิตเอาเองสำหรับมนุษย์ปุถุชนทั่วๆไปชีวิตนักเตะหลายๆรายที่สมัยยังมีเรี่ยวแรงมีกำลังแต่ไม่เก็บหอมรอมริบเอาไว้พอถึงวันที่เลิกราจำใจต้องแขวนสตั๊ด มีหลายต่อหลายคนทีเดียว ที่ชีวิตไม่ต่างจาก หมาล่าเนื้อ ที่ไม่มีเงินเก็บ

    หลายคนเลิกราไปแล้วเลือกจะยังคงอยู่ในวงการลูกหนังไทยต่อไป บ้างก็ทำงานเป็นโค้ชบ้างทำอะคาเดมี่ลูกหนังของตัวเองแล้วแต่จะเลือกแบบไหนบางคนที่มีงานประจำทำหรือทำธุรกิจส่วนตัวของตัวเองหรือครอบครัวก็สบายไป

    ขอหยิบยกเรื่องราวของอดีตนักเตะรายหนึ่งมานำเสนอที่ปัจจุบัน เจ้าตัวยังคงโลดแล่นอยู่บนผืนสนามหญ้า มีกลิ่นสาปลูกหนังแต่ไม่ใช่ในฐานะโค้ชรับจ้างแต่เลือกที่จะทำอะคาเดมี่ลูกหนังของตัวเอง “เจ้ารุต” มารุต แช่มช้อย หรือที่วันนี้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น นิธิชัย แช่มช้อย

    “เจ้ารุต” ถือเป็นลูกหม้อของ “ห้างขายยา” โอสถสภา เพราะเล่นให้มาตั้งแต่ระดับเยาวชน โดยเคย ได้แชมป์ถ้วยพระราชทาน ก. 2 สมัย , ถ้วยพระราชทานควีนสคัพ กับ “ห้างขายยา” ถึง 3 สมัย และยังเคยเล่นฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเซีย อย่าง เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก และ เอเอฟซีคัพ กับ โอสถฯ มาแล้ว

    นอกจากนี้ยังเคยเล่นกับ ตำรวจ, เมืองทอง ยูไนเต็ด , ภูเก็ต เอฟซี , อยุธยา เอฟซี ,ศุลกากร ยูไนเต็ด ,กระบี่ เอฟซี , ราชวิถี

    “เจ้ารุต” ยังเคยเป็นโค้ชของ ราชวิถี เอฟซี,เดฟโฟ เอฟซี มาแล้ว นอกจากที่มีดีกรีโค้ช ซีไลน์เซนส์ ติดตัวแล้ว ยัง เป็นโค้ชเยาวชนสโมสร ผ่านการเรียนโค้ชสำหรับเยาวชน ระดับสูง สโมสรบาเยิร์น มิวนิค เคยเป็นวิทยากร ของกรมพลศึกษา ในการอบรมโค้ช ระดับ ทีไลน์เซนส์ และทำทีมเยาวชนให้กับ สโมสร นครปฐม ยูไนเต็ด มาก่อนหน้านี้ โดยจบ ป.ตรี ม.ศรีปทุม, ป.โท ม.ธุรกิจบัณฑิตย์

    อย่างที่รู้ดีว่า “เจ้ารุต” เลือกจะทำอะคาเดมี่ของตัวเอง เพื่อได้ยังอยู่กับฟุตบอลที่ตัวเองรักและสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวจาก อะคาเดมี่ลูกหนังที่เขาทำมาแล้ว 7 ปี ชื่อ ภูริ อะคาเดมี่ นอกจากเจ้าตัวจะเป็นวิทยากร สอนเอง แล้ว ยังมี อรุณ ตุลย์วัฒนางกูร เป็นทีมงานในฐานะแม่ทัพใหญ่ ในการสอนซึ่งนั่งเป็นประธานเทคนิคของอะคาเดมี่  

    ล่าสุด “เจ้ารุต” เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ในช่วง โควิด -19 ระบาดเปิดการสอนไม่ได้ เขาจึงใช้เวลาดังกล่าว ทำสนามของตัวเอง ขึ้นมา จากเดิมที่ต้องไปเช่าตากสถานที่ต่างๆโดย ใช้ชื่อ ว่า สนามภูริ ฟุตบอล แคมป์ ที่เจ้าตัวควักกระเป๋าลงทุนไปนับล้านบาท และแล้วเสร็จแล้วบางส่วน เปิดทำการสอนได้แล้ว

    เป็นลักษณะของ แคมป์ฟุตบอลเพื่อรองรับการพัฒนาเยาวชน สู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ บนเนื้อที่ 2 ส่วนกว่า 20 ไร่ ทั้งสนามหญ้าจริง, สนามหญ้าเทียม ขนาด 7 คน 9 คน โดยอยู่ระหว่าง เร่งดำเนินการสนามขนาดมาตรฐาน 11 คนเป็นศูนย์ฝึกฟุตบอลอาชีพ ครบวงจร ฝึกสอนทักษะฟุตบอลแก่เยาวชนทั่วไป

    มีทั้งศูนย์ฝึกฟุตบอลเยาวชนอาชีพของสโมสรโปลิศ เทโร เอฟซี เตรียมพร้อมสร้างเยาวชนสู่ทีมชุดใหญ่มีพันธมิตรกับทีมสโมสรฟุตบอลต่างประเทศ ผ่านทางสโมสรโปลิศ เทโร เอฟซี อย่างสโมสรเจลีก สโมสรชิมิสุ เอลพลัส ที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ฟุตบอลของเยาวชนของภูริ เดินทางไปฝึกซ้อมยังประเทศญี่ปุ่น และ สโมสรชิมิสุ เอลพลัส เดินทางมาอุ่นเครื่อง พร้อมเปิดคลินิกฟุตบอลให้ความรู้กับเยาวชน และแลกเปลี่ยนความรู้ฟุตบอลระหว่างทีมโค้ชร่วมกัน

    เป็นที่พัก แคมป์เก็บตัวนักฟุตบอลฝึกซ้อมฟุตบอลแบบกิน นอน และการฝึกซ้อมแบบไป กลับเตรียมพร้อมพัฒนา เป็นแหล่งผลิตนักฟุตบอลเยาวชนคุณภาพ สู่สโมสรฟุตบอลอาชีพ ทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ

    สนามดังกล่าวนี้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองราชบุรี ตรงข้ามเขาแก่นจันทร์ ไม่ไกลจากสนาม มิตรผล สเตเดี้ยม ของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี บรรยากาศดี เหมาะกับการเป็นแคมป์ฝึกซ้อมและแข่งขันฟุตบอล 

    งานนี้ถือเป็นความกล้าที่น่ายกย่องของ “เจ้ารุต” อย่างแท้จริงที่กล้าลงทุนในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี จากพิษโควิด แต่เขามองว่า ทำเพื่ออนาคต อีกไม่นานโรคระบาดน่าจะหายไป แต่กับคำว่าฟุตบอล ยังคงเป็นกีฬายอดฮิตของเยาวชนไทย ทำไมตลาดอะคาเดมี่ จะไปได้สวยไม่ได้

    “เจ้ารุต” ตบท้ายไว้ว่า “คนเราหากไม่กล้าก็ไม่มีวันจะโตแน่นอน ” เยาวชนหรือผู้ปกครองท่านใดต้องการไปเรียนติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 092-791-9842 หรือที่เพจ Phuri Academy FC

 “สิงห์นก Hk vp 9”

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร

Add friend ที่ @Siamsport

เพิ่มเพื่อน