ภาพประกอบข่าว © Matichon ภาพประกอบข่าว

ถึงเวลานี้เป็นที่แน่ชัด(จริงๆก็ชัดมาสักระยะแล้ว) ว่า ประเทศไทย จะไม่มีการถ่ายทอดสด ฟุตบอล ยูโร 2020 ที่จะเตะในปี 2021 อย่างแน่นอน

เพราะอย่างข้อมูลที่เห็นกันว่า เมื่อไล่เรียงดูข้อมูลจาก ทาง ยูฟ่า เอานิ้วจิ้มไล่ลงมา T ลงมาแล้ว มีหมดทั้ง ทาจิกิสถาน ติมอร์ ตองกา โตโก ตาฮิติ และ ไม่มี ประเทศไทย เอี่ยว

ไล่เรียงข้อมูลชาติอาเซียน ปรากฎว่า มี 7 จาก 11 ประเทศที่มีถ่ายทอดสดฟุตบอล ยูโร 2020 มีเพียง ไทย ฟิลิปปินส์ ลาว และพม่า ที่ไม่มีถ่าย

ลองย้อนดูอดีต ประเทศไทยมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลระดับเมเจอร์ ทั้งฟุตบอลโลก ฟุตบอลยูโร มาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา

อย่างฟุตบอลโลก เริ่มถ่ายทอดสดในประเทศไทย (บางนัด) ตั้งแต่ปี 1970 ส่วน ฟุตบอลยูโร เริ่มมีการถ่ายทอดสดในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 1988 เป็นต้นมา

ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐซื้อ- เอกชนซื้อ แต่ในระยะหลังข้อบังคับราชการ โดย สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจ่ายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) บีบรัดกดดันภาคเอกชนที่ต้องการใช้โอกาสนี้ทำกำไรจากการขายลิขสิทธิ์กีฬาไม่น้อย

ดังจะเห็นจาก ยูโร 2000 ช่อง 3 ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมา ยูโร 2004 ช่อง 3 กับ ช่อง 7

จากนั้น ยูโร 2008 “อาร์เอส” ซื้อ และถ่ายทอดทาง ช่อง 7 และโมเดิร์นไนน์ทีวี

ยูโร 2012 “แกรมมี่” จับมือช่อง 3-5-โมเดิร์นไนน์ และดีทีวี, ยูโร 2016 “แกรมมี่” และช่อง 3

ทุกครั้ง ภาครัฐจะเข้าแทรกแซง และออกกฎระเบียบยุบยับจนทำให้ เอกชนไม่สามารถทำกำไรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย หากยังจำได้มีการหักคอจากภาครัฐเสมอๆ

แถมโลกทุกวันนี้ก็เปลี่ยนไปมาก การถ่ายทอดสดกีฬา ไม่ใช่สิ่งบันเทิงที่ผู้คนเลือกจะอดตาหลับขับตานอนอีกแล้ว เรายังมีความบันเทิงอื่นมาแบ่งช่วงเวลา 24 ชั่วโมงของมนุษย์มากขึ้น

การเลือกดูเพียงไฮไลต์ในตอนเช้าจึงเป็นทางเลือกอีกทางที่น่าสนใจ และนั่นเอง ทำให้การขายลิขสิทธิ์กีฬาคู่ค่ำหลังเข็มสั้นผ่านเลข 12 ไปแล้วจึงขายยากขึ้นเรื่อยๆ

การที่ฟุตบอลยูโร 2020 ไม่มีใครกล้าซื้อเข้ามาประเทศไทย โดยเฉพาะการที่ ยูฟ่า ตั้งราคาไว้หลัก 1,000 ล้านบาท นั้นยากจะทำกำไร ยิ่งในภาวะเช่นนี้ เศรษฐกิจฝืดเคืองอย่างรุนแรงทีวีเจ้าไหนจะสู้ไหว

เรียกว่า เกิดเซอร์ไพรส์ เจ้าไหน ซื้อลิขสิทธิ์ ยูโร 2020 มาวันพรุ่งนี้ ก็คงต้องเรียกว่า นักบุญ คงไม่ผิด เพราะ มีโอกาสขาดทุนสูงลิ่ว

ไหนจะต้องมาต่อสู้กับ บอลออนไลน์เถื่อนเป็นร้อยๆ ลิงค์ ที่รัฐบาลพร่ำบอกจะปราบ แต่สุดท้ายก็ปกป้อง เอกชนได้ไม่นาน คำค้นหา “ดูบอลออนไลน์” ก็ขึ้นอันดับ 1 ในเซิร์ชเอ็นจิ้นเสมอๆ

เวลานี้อาจจะฝากความหวังไว้ที่ uefa.tv ที่น่าจะได้รับชม แต่คงไม่ครบทุกคู่ ก็แล้วแต่บุญแต่กรรม

ไม่ต้องสงสัยด้วยล่ะครับ รัฐบาลชุดนี้ คงไม่มีเวลาพอจะสนใจควมสุขเล็กๆ น้อยๆ ของประชาชนเสียด้วยซ้ำ

เป็นอีกสถิติที่เกิดขึ้นในยุคนี้คือ เราไม่ได้ดูฟุตบอลยูโร เป็นครั้งแรกในรอบ 33 ปี

………..

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

“สรยุทธ”เสียดายไม่มีช่องไหนในไทยถ่ายศึกยูโร เผยความสุขเล็กๆยามวิกฤติ

Microsoft และคู่ค้าอาจได้รับค่าคอมมิชชันหากคุณซื้อบางสิ่งผ่านลิงก์ที่แนะนำในบทความนี้