นับเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ในระดับหนึ่งได้เหมือนกัน หลังจากที่ รูเบน ดิอาส กองหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2020-21 จากทางสมาคมนักข่าวสายฟุตบอลของอังกฤษ (เอฟดับเบิ้ลยูเอ) จนทำให้เขาถือเป็นแนวรับคนแรกที่ได้รางวัลอันทรงเกียรตินี้
สิ่งที่น่าทึ่งมากกว่านั้นก็คือแม้ว่าจะต้องชิงชัยกับ 2 แนวรุกชื่อดังระดับโลกอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีม และ แฮร์รี่ เคน กองหน้า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แต่หลายคนก็ยังเทคะแนนเสียงให้กับ ดิอาส อยู่ดี เพราะผลงานของเขามันสุดยอดมากๆ ทั้งที่เพิ่งย้ายจาก เบนฟิก้า มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน
ที่จริงผลงานของ ดิอาส มันยอดเยี่ยมจนถึงระดับที่กูรูหลายคนมองว่าเขาจะได้รางวัลส่วนตัวที่ถูกมองว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอลเมืองผู้ดีอย่างรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ด้วยซ้ำ และหากเจาะลึกลงไปแล้วนั้นมันก็จะพบว่ามันไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมนักวิเคราะห์หลายคนคิดอย่างนั้น
ในขณะที่แนวรุกของ แมนฯ ซิตี้ ผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง หรือในตอนที่ เดอ บรอยน์ โชว์ลีลาการแทงทะลุช่องได้อย่างแม่นยำนั้น ดิอาส คือคนที่ช่วยเฝ้าหลังบ้านให้กับทีมได้เป็นอย่างดีจนมีส่วนทำให้ทีมของกุนซือ โจเซป กวาร์ดิโอล่า เล่นเกมบุกได้อย่างสบายใจเฉิบ โดยแนวรับชาวโปรตุกีสมีความสำคัญมากๆ จนถึงขนาดเป็นคนที่บล็อกลูกยิงได้มากที่สุดของทีมในซีซั่นนี้หากนับเฉพาะในศึก พรีเมียร์ลีก หลังทำไป 22 ครั้ง
ไม่เพียงแค่นั้น เขายังเป็นอันดับ 1 ของทีมในหลายด้านด้วย อย่างเช่นการเคลียร์บอลพ้นพื้นที่อันตรายที่ทำได้ 88 ครั้ง หรือการโหม่งเคลียร์บอลที่ทำไป 47 หน นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่ชนะในจังหวะดวลลูกกลางอากาศสูงเป็นอันดับ 2 ของทีมด้วย หลังจากทำได้ถึง 61 ครั้ง และเขาก็เป็นนักเตะที่ผ่านบอลเข้าเป้ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของ แมนฯ ซิตี้ เช่นกัน ด้วยจำนวน 2,438 หน
ผลงานของ รูเบน ดิอาส ในการเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาล 2020-21
– บล็อกลูกยิง 22 ครั้ง (อันดับ 1 ของทีม)
– เคลียร์พ้นพื้นที่อันตราย 88 ครั้ง (อันดับ 1 ของทีม)
– โหม่งเคลียร์ 47 ครั้ง (อันดับ 1 ของทีม)
– ชนะการดวลลูกกลางอากาศ 61 ครั้ง (อันดับ 2 ของทีม)
– ผ่านบอลเข้าเป้า 2,438 ครั้ง (อันดับ 2 ของทีม)
อีกหนึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่ ดิอาส มีต่อ แมนฯ ซิตี้ อย่างมากก็คือความแตกต่างกันระหว่างตอนที่มีเขากับตอนไร้เงาของเจ้าตัว เวลาที่ไม่มี ดิาส ลงช่วยทีมนั้น แมนฯ ซิตี้ มีเปอร์เซ็นต์ชนะในลีก 66.7 เปอร์เซ็นต์ แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ตัวเลขที่แย่เท่าไหร่ แต่ แมนฯ ซิตี้ จะทำผลงานได้ดีขึ้นไปอีกในตอนที่มี ดิอาส ลงสนาม เพราะพวกเขาจะชนะมากถึง 71 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน
ด้วยเหตุนี้ แมนฯ ซิตี้ จึงมีค่าเฉลี่ยการเก็บแต้มต่อเกมได้สูงถึง 2.3 แต้มต่อนัดเวลาที่มี ดิอาส ลงช่วย ในทางกลับกัน ตอนไร้เงาของเขาทีมของ กวาร์ดิโอล่า เก็บแต้มไปได้เฉลี่ย 2.0 แต้มต่อนัด และที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อเกม เพราะเวลามี ดิอาส ยืนเฝ้าแนวหลัง แมนฯ ซิตี้ เสียประตูเพียง 0.7 ลูกต่อนัดเท่านั้น ส่วนตอนที่เขาลงเล่นไม่ได้นั้นทีมเสียไปถึง 1.8 ลูกต่อเกมเลยทีเดียว
ผลงานของ แมนฯ ซิตี้ ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020-21 ระหว่างมีกับไม่มี ดิอาส
มี ดิอาส | ไม่มี ดิอาส | |
31 | จำนวนนัด | 6 |
0.7 | ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อ 1 นัด | 1.8 |
71.0% | เปอร์เซ็นต์ชนะ | 66.7% |
2.3 | ค่าเฉลี่ยการได้คะแนนต่อ 1 นัด | 2.0 |
มาถึงตรงนี้บางคนอาจจะสงสัยว่า ดิอาส ซีซั่นนี้ กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เวอร์ชั่นฤดูกาล 2018-19 ที่ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ใครเก่งกว่ากัน หลังจากที่ตอนนั้น ฟาน ไดค์ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนทำให้ได้ยอมรับมากขึ้นว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ในด้านการเคลียร์บอลนั้น ฟาน ไดค์ เวอร์ชั่นฤดูกาล 2018-19 ถือว่าเหนือกว่าเยอะ เพราะเขาทำได้ 5.2 ครั้งต่อเกม ขณะที่ ดิอาส ทำได้ 2.8 ครั้งต่อนัด แต่นอกเหนือจากด้านนั้นแล้วก็ไม่มีจุดไหนเลยที่ ดิอาส จะแพ้ดาวเตะชาวดัตช์แบบขาดลอย แถมในด้านการขวางลูกยิงกับการผ่านบอลเขายังทำได้ดีกว่า ฟาน ไดค์ นิดหน่อยด้วยซ้ำ
เทียบผลงานในลีกของ ดิอาส ฤดูกาล 2020-21 กับ ฟาน ไดค์ ฤดูกาล 2018-19
ดิอาส ฤดูกาล 2020-21 | ฟาน ไดค์ ฤดูกาล 2018-19 | |
0.7 | ค่าเฉลี่ยสกัดโดนบอลต่อ 1 เกม | 1.0 |
1.1 | ค่าเฉลี่ยการตัดบอลแบบไม่ต้องพุ่งเสียบต่อ 1 เกม | 1.1 |
2.8 | ค่าเฉลี่ยการเคลียร์บอลต่อ 1 เกม | 5.2 |
0.7 | ค่าเฉลี่ยการบล็อกต่อ 1 เกม | 0.5 |
93.2% | เปอร์เซ็นต์ผ่านบอลเข้าเป้า | 89.7% |
เรียกได้ว่าผลงานของ ดิอาส คู่ควรกับการทำให้เขาได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจากทางสมาคมนักข่าวสายฟุตบอลของอังกฤษแล้ว และมันจะไม่แปลกเลยถ้าเขาจะได้รางวัลนี้ในสาขาของ พีเอฟเอ ไปด้วยในอนาคต
– เด็กเกร็ดบอล –
Add friend ที่ @Siamsport