10 อันดับนักฟุตบอลที่ถูกเกลียดชังมากที่สุดตลอดกาล – บทความฟุตบอลต่างประเทศ

นอกจากซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงของเอซี มิลาน นักเตะที่ทำตัวให้ความคิดเห็นที่มีต่อเขาแตกแยกตลอดเส้นทางค้าแข้งของเขาแล้ว ยังมีนักฟุตบอลคนไหนอีกที่กลายเป็นที่เกลียดชังมากที่สุดตลอดกาล

           ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นนักเตะที่มีคาแรกเตอร์ที่ทำให้คนอื่นจดจำนอกจากฝีเท้าแล้วก็คือ ‘ฝีปาก’ ด้วยความเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงลิบ ความจองหองเป็นที่ 1 และไม่เคยเกรงใจใคร หรือเรียกว่า ‘มั่นหน้า’ ของเขานั่นเอง สำหรับซลาตันแน่นอนว่าจากเรื่องราวการค้าแข้งตลอด 20 ปี ที่ผ่านมา ก็พอจะบอกได้ว่าเขาเป็นนักเตะที่มั่นหน้ามั่นโหนกเป็นอันดับ 1 และเป็นเช่นนั้นเสมอมา อย่างไรก็ตามการมั่นหน้าและมั่นใจของเขามีความเป็นจริงอยู่เยอะ แม้จะไม่เต็ม 100% ก็ตาม 

           อิบราฮิโมวิช เคยประกาศกร้าวเอาไว้ว่า โรนัลโด้กับเมสซี่นั้นเก่งในระดับมนุษย์ แต่เข้านั้นเก่งในระดับ “พระเจ้า” นิสัยแบบที่ว่ามักจะทำให้เกิดความขัดแย้งในโลกของฟุตบอลมาโดยตลอดเพราะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ แต่ประเด็นคือทั้งๆ ที่สังคมของคนทั่วโลกมักไม่ชอบคนที่มีบุคลิกมั่นใจแบบสุดโต่ง ขี้คุยขี้โม้ หรือทำตัวเด่นและพูดจาขวานผ่าซากแบบนี้ แต่ซลาตันอาจะเป็นข้อยกเว้นเพราะเขามีคนรักมหาศาล แต่คนชังก็ไม่น้อย ว่าแล้ว Daily Star Sport จึงได้รวบรวม 10 นักฟุตบอลที่โดนเกลียดชังมากตลอดกาลในประวัติศาสตร์มาให้ได้รำลึกความหลังกันอีกครั้ง


– ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

This image is not belong to us

           เขาอาจคว้าแชมป์และยิงประตูได้ทุกที่ที่เขาไป แต่อิบราฮิโมวิชเป็นคนที่มีคาแรกเตอร์ที่ทำให้เกิดการแบ่งขั้วมาโดยตลอด ตั้งแต่การอ้างอิงถึงตัวเขาเองอย่างต่อเนื่องต่อบุคคลที่สามไปจนถึงความระหองระแหงของเขากับเป๊ป กวาร์ดิโอล่า และเลอบรอน เจมส์ อิบราฮิโมวิชมักจะทำให้เกิดความคิดเห็นที่แบ่งแยกเสมอ


– เซร์คิโอ รามอส

This image is not belong to us

           เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีมเรอัล มาดริด เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่แฟนๆ ทั้งรักและทั้งเกลียด โดยกองหลังจอมเก๋ารายนี้มีประวัติทางวินัยมากมาย ไม่มีผู้เล่นคนใดได้รับใบแดงมากกว่ารามอสในประวัติศาสตร์แชมเปี้ยนส์ ลีก, ลา ลีก้า และเรอัล มาดริด ซึ่งอาจสรุปได้ดีที่สุดถึงวิธีที่เขาเล่น


– หลุยส์ ซัวเรซ

This image is not belong to usThis image is not belong to us

           การทำประตูได้อย่างมากมายของหลุยส์ ซัวเรซ อาจจะมีรอยด่างจากปัญหาหลายอย่างในสนาม กองหน้ารายนี้ถูกลงโทษสามครั้งจากการไปกัดคู่ต่อสู้และการไปป้องกันไม่ให้กาน่าทำประตูในรอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 ด้วยการแฮนด์บอลโดยเจตนา แต่กาน่าก็ยิงจุดโทษพลาดและพลาดการเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

           ฟร็องก์ เลอเบิฟ อดีตกองหลังเชลซีเคยพูดถึงซัวเรซว่า “เขาเป็นคนขี้โกงและผมเกลียดวิธีการเล่นของเขา ถ้าผมเผชิญหน้ากับเขาผมจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้เขาออกจากสนาม สิ่งที่เขาทำกับกาน่าที่เวิลด์คัพ, สองครั้งที่เขากัดคู่แข่ง เขาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับเด็กรุ่นใหม่”


-อันโดนี่ กอยโคเชีย

This image is not belong to usThis image is not belong to us

           เป็นที่รู้จักในนาม  ‘The Butcher of Bilbao’ (นักชำแหละแห่งบิลเบา) เขาเคยทำให้ข้อเท้าของดิเอโก้ มาราโดน่า หักอย่างน่าสยดสยองมาแล้ว มาราโดน่ากล่าวถึงการเสียบสกัดครั้งนั้นว่า “ผมรู้สึกถึงแรงกระแทก, ได้ยินเสียงเหมือนท่อนไม้แตก” นอกจากนี้ กอยโคเชีย เคยทำฟาล์วอย่างน่าสยดสยองกับแบรนด์ ชูสเตอร์ ก่อนหน้าเหตุการณ์ของมาราโดน่า 2-3 ปีซึ่งทำให้เอ็นไขว้ของดาวเตะทีมชาติเยอรมันขาด และเจ้าตัวต้องร้างสนามไปเป็นเวลาเก้าเดือนซึ่งหมายความว่าทำให้เขาพลาดฟุตบอลโลกปี 1982 ไปด้วย


– เควิน มัสแคต

This image is not belong to usThis image is not belong to us

           อดีตนักเตะทีมชาติออสเตรเลีย เควิน มัสแคต เคยถูกมองว่า “อาจเป็นคนที่โดนเกลียดที่สุดในวงการฟุตบอล” จาก มาร์ติน เกรนเจอร์ กองหลังเบอร์มิงแฮมซิตี้ หลังจากสแตน ลาซาริดิส เพื่อนร่วมทีมของเขาโดนเสียบสกัดจากมัสกัต ส่วน คริสตอฟ ดูการ์รี่  และ เครก เบลลามี่ ทั้งคู่ใช้เวลาหลายเดือนอยู่ข้างสนามหลังจากที่พวกเขาต้องบาดเจ็บจากการเข้าสกัดของมัสแคต ทางด้าน แมทธิว โฮล์มส์ อดีตกองกลางของชาร์ลตันต้องจบอาชีพค้าแข้งของเขาหลังจากที่กระดูกหน้าแข้งหักจากการทำฟาล์วของมัสแคตในเกมเอฟเอ คัพ เมื่อปี 1998 โฮล์มส์ได้ลงสนามอีกแค่ครั้งเดียวให้กับชาร์ลตันหลังจากได้รับบาดเจ็บและเขาชนะคดีฟ้องร้องมัสแคตและวูล์ฟส์ ซึ่งทำให้เขาได้รับค่าเสียหาย 250,000 ปอนด์


– เบน แธตเชอร์

This image is not belong to us

           ในปี 2006 เบน แธตเชอร์ กองหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำฟาล์วที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ ลีก เมื่อเขากางศอกใส่หน้าเปโดร เมนเดส ของพอร์ตสมัธ จนทำให้เมนเดส หมดสติและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลังเกิดอาการชัก น่าประหลาดใจที่แธตเชอร์ได้รับใบเหลืองเท่านั้น แต่ต่อมาเขาได้รับโทษแบนแปดนัด ซึ่งในช่วงสองปีเขาโดนเอฟเอลงโทษแบนไปถึง 15 นัดเลยเดียว


– รอย คีน

This image is not belong to us

           ในฐานะนักวิจารณ์บอล แฟนๆ มีทั้งรักและเกลียดรอย คีน และมันก็ไม่ต่างกันเมื่อเขาเป็นผู้เล่น ในฐานะกัปตันทีมผู้จริงจังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คีนคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก 7 สมัยและแชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย เขาถูกไล่ออกแบบสุดฉาวในแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ปี 2001 หลังเปิดปุ่มถีบไปที่เข่าขวาของอัลฟ์-อิงเก้ ฮาแลนด์ อย่างโหดเหี้ยม  และเวลาของเขาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็สิ้นสุดลงหลังไปให้สัมภาษณ์กับ MUTV สถานีโทรทัศน์ของสโมสร และระเบิดอารมณ์โมโหอย่างรุนแรง ด่ากราดเพื่อนร่วมทีมแบบไม่ไว้หน้า 

– โจอี้ บาร์ตัน

This image is not belong to usThis image is not belong to us

           โจอี้ บาร์ตัน ถูกเอฟเอตั้งข้อหากระทำความรุนแรงสามครั้งในช่วงอาชีพการเล่นของเขา, โดนสั่งห้ามแข่งหกนัดสำหรับการทำร้ายเพื่อนร่วมทีม อุสมาน ดาโบ, โดนห้ามแข่งสามนัดสำหรับการไปชกมอร์เท่น กัมสท์ พีเดอร์เซ่น กองกลางของแบล็คเบิร์น และโดนแบน12 นัดหลังจากที่เขาโดนไล่ออกในเกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2012


-เอล ฮัดจิ ดิยุฟ

This image is not belong to usThis image is not belong to us

           อดีตกองหน้าลิเวอร์พูล, โบลตัน และ ลีดส์ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ สร้างความขัดแย้งไม่ว่าเขาจะไปที่ใด เขาถูกปรับค่าจ้างจำนวนสองสัปดาห์และถูกแบนเป็นเวลาสามเกมหลังจากถ่มน้ำลายใส่ อาร์ยัน เดอ ซูว์ ของพอร์ตสมัธ จากนั้นนีล วอร์น็อค กุนซือคิวพีอาร์ระบุว่าดิยุฟเป็น “คนตัวเล็กที่น่ารังเกียจ”  และ “ที่สุดของความต่ำช้า” รวมไปถึง “ต่ำยิ่งกว่าหนูท่อ” หลังจากไปกล่าวหาเจมี่ แม็คกี้ ว่าแสร้งทำเป็นเจ็บตอนที่กองหน้ารายนี้โดนกาแอล ฌีแว เสียบสกัดหนักจนลงไปนอนกองอยู่บนพื้นสนามด้วยความเจ็บปวด

– เอมมานูเอล อเดบายอร์

This image is not belong to us

           เมื่อเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เผชิญหน้ากับอาร์เซนอลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายจากพวกเขาไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กองหน้ารายนี้ได้มีการฉลองประตูที่น่าจดจำที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ ลีก เมื่อเขาวิ่งอย่างบ้าคลั่งจากหน้าประตูอีกฝั่งกลับมาสไลด์เข่าต่อหน้าฝั่งกองเชียร์ปืนโตเพื่อเฉลิมฉลองการทำประตูที่สามของแมนฯ ซิตี้ งานนี้ก็ทำให้เขาถูกเอฟเอตั้งข้อหาประพฤติตัวไม่เหมาะสมและโดนปรับ 25,000 ปอนด์ ในการให้สัมภาษณ์กับ SoFoot ของฝรั่งเศสเมื่อปี 2017 อเดบายอร์เล่าว่า

           “หลังจากนั้น มีคนบอกผมว่า เอฟเอของอังกฤษจะปรับเงินผม ผมเลยบอกว่า ถึงแม้ว่าผมจะต้องจ่าย 2 ล้านยูโร แต่เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่ผมต้องเจอ ผมก็จะยังคงทำอยู่ดี ผมจะไม่ไปยืนอยู่ตรงนั้นเพื่อฟังคนห้าพันคนดูถูกครอบครัวของผมเมื่อพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย”

           “ตอนที่ผมสไลด์เข่า, กางแขนต่อหน้าแฟนบอล ผมรู้สึกอยู่เหนือทุกสิ่ง แฟนบอลขว้างปาทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์, ขวดน้ำ ผมไม่กลัวและไม่หนีอยู่แล้ว ทุกอย่างมันเฉียดผม ฟิ้ว ฟิ้ว อย่างกับในหนัง มันมีความรู้สึกเหมือนอยู่ในคุกมาหลายปีแล้วจู่ๆ ก็มีคนบอกว่า ‘พี่ชาย ไปที่ประตูแล้วออกไป ตอนนี้คุณเป็นอิสระแล้ว’ นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึก นั่นคือการปลดปล่อย”