มันจบแล้วครับ ESL


มันจบแล้วครับ ESL

เสียงเพลง…We’ll Keep the Blue Flag Flying High ดังสนั่นหน้า เดอะ บริดจ์ ก่อนเกมเชลซี ปะทะ ไบรท์ตัน แฟนเชลซี มารวมตัวประท้วงหลักพันคนเพื่อกดดันให้สโมสรถอนตัวออกจากการแข่งขันEuropean Super League หรือ ESL

ไม่นานหลังจากรวมตัวของแฟนบอล….ข่าวเชลซี ประกาศขอถอนตัวจาก ESL หลุดออกมาทุกสื่อในอังกฤษและทั่วยุโรป แว่วๆว่า แมนฯซิตี้ และ แอตเลติโก มาดริด, บาร์เซโลน่า

มันจบแล้วครับ ESL

จะเป็นอีกสองสามทีมที่แจ้งถอนตัว 

เท่ากับว่าจาก 12 ทีมกำลังจะเหลือ 9

ผมเขียนเรื่องนี้สองสามวันติดๆ และต้องขอบคุณลูกเพจ คอบอลตัวจริง

 “เม้นต์” อย่างมีความรู้ ความเข้าใจอย่างยิ่ง นั่นเท่ากับ “แลกเปลี่ยน” กันสนุก 

ที่สำคัญ “ลูกเพจ” หลายท่านเอา คอลัมน์ เก่าที่ผมเขียนในเพจ Jackie เมื่อ 8 พ.ย. 2561 มาแชร์ให้หลายคนอ่านว่า ผมเคยเขียนรายงานและวิเคราะห์ตามประเด็นข่าวไปก่อนแล้ว

เรื่อง “ซุปเปอร์ ลีก” ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องที่แปลกใจสำหรับผม เพราะภาพมันโดดเด่นมาตั้งแต่ยุค 90 ยิ่งบอลอังกฤษปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการ “สิทธิประโยชน์” 

จากฟุตบอลลีกเดิม ยกระดับเป็น พรีเมียร์ลีก + ลีกรองสามระดับ ช่วงเวลาเดียวกันกับที่ฟุตบอลถ้วยยักษ์ยูโรเปี้ยน คัพ เดิมปรับชื่อหรือ  rebranding เป็น ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก พร้อมทั้งเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน แต่เดิมที่ใช้ “แชมป์” เท่านั้นไปแข่งและเตะสองนัดน้อคเอาต์ตกรอบมาเป็น แบ่งกลุ่ม + นอคเอาต์ (เหมือนบอลโลก) พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนทีมเข้าไปแข่งขันโดยคัดเลือกผ่าน “อันดับในลีก” 1-2-3-4 (เริ่มปี 1997) จนถึงวันนี้ 32 ทีมกำลังจะเป็น 36  ทีมในปี 2024

ปี1992 คือปีแรกทีผมทำงานเป็นนักข่าวพร้อมคุณฉุย  สมศักดิ์ สงวนทรัพย์ เราคุยเรื่องการเปลี่ยนแปลงฟุตบอล…ตอนนั้นมีสองเรื่องที่เราเชื่อ 

1 ในบอลโลกรอบสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชนะควรได้ สามแต้ม 

ก่อนหน้านั้น ชนะ ได้สองแต้ม  เสมอหนึ่ง..เล่นสามนัดเสมอสามนัดอาจเข้ารอบ

แชมป์โลก1982 อิตาลี เสมอสามเกมแรก และเป็นแชมป์ ซึ่งระบบเดิมนั้นมี “ซูเอี๋ย” กันได้

ถ้าชนะได้สามและเสมอ 1 มันมีความแตกต่าง บอลจะสนุกขึ้น

ผมกับคุณฉุย ออกภาคสนามไปสัมภาษณ์ เซปป์ แบลตเตอร์ เลขา ฟีฟา ซึ่งมาเยือนเมืองไทย เราถาม แบลตเตอร์ ว่าเป็นไปได้มั้ย ชนะได้สาม ไม่ใช่สองแต้ม แบลตเตอร์ ตกใจ เล็กน้อย แต่ก็ตอบว่าเป็นไปได้

2 ลีกยุโรป ผมกับคุณฉุยเชื่อว่า ต้องมี คิดว่าอาจจะเป็นลีกที่เตะกลางสัปดาห์ โดยทีมผ่านคัดเลือกเข้ามาแล้วเล่นแบบเหย้าเยือนช่วงกลางสัปดาห์ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบ 11 ทีมคิดกันตอนนี้คือแยกตัวออกมาเลย

เวลาผ่านไปเร็วมาก…ไม่ได้บอกว่าผมกับคุณฉุย คิดถูก มันก็มาจากการเป็นแฟนบอลและพอเป็นนักข่าวเรานำข้อมูลมาวิเคราะห์สถานะการณ์ คาดการณ์ อะไรกันไปจากข้อมูล นั่นแหละครับ

มันจบแล้วครับ ESL

อย่างไรก็ตาม…เรื่อง  ESL มีทั้งคนเห็นด้วยไม่เห็นด้วย

ผมเขียนไปสองวันแล้ว มุมธุรกิจ เขาก็มองได้ว่าการแยกออกมาได้ผลประโยชน์มากกว่าเล่นกับยูฟา มันไม่ใช่เรื่องผิดนะครับ 

ส่วนมุมคนคัดค้านที่มันมากมายทั่วยุโรป เขาไม่ได้มองเรื่อง “เงิน” หรือ “ธุรกิจ” 

เขามองเรื่องฟุตบอลอาชีพเป็นเรื่องของ “วัฒนธรรม, ขนบและประเพณี” 

โดยมีคนทุกกลุ่มเกี่ยวข้อง

สโมสร, ผู้บริหาร, เจ้าหน้าที่รัฐ, โค้ช, นักเตะ, พนักงานลูกจ้าง แน่นอน แฟนบอล

มันก่อร่างสร้างตัวแบบนั้นมานาน…จนเหมือนบอลอาชีพเป็น “ส่วนสำคัญของแผ่นดิน” แต่ละประเทศในยุโรปไปแล้วครับ

นั่นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม นายกรัฐมนตรี อังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน ไม่เห็นด้วยกับการแยกไปตั้งลีกของทีมจากอังกฤษ เขาจึงเรียกประชุมตัวแทนจากสมาคมฟุตบอล, พรีเมียร์ลีก และตัวแทนแฟนบอล พร้อม ร.ม.ต. กีฬา ก่อนได้ข้อสรุปว่า…

รัฐบาลอังกฤษจะทำทุกทางเพื่อหยุดการตั้ง ESL ขึ้นมา

คิดดูขนาดฝ่ายค้านพรรคแรงงาน และพรรค เสรีประชาธิปไตย 

ยกมือสนับสนุน การออกมาเทค แอ๊กชั่น ของ นายกฯอังกฤษ

โดย นาย จอห์นสัน ระบุออกมาสองเรื่อง

1 legislative option หมายถึงหาทางเลือกเชิงกฏหมายเพื่อหยุดการแยกไปตั้งลีก

2 ศึกษาโมเดล 50+1 ของบอลเยอรมัน เพื่อนำมาใช้ในอังกฤษ ป้องกันนักลงทุนข้ามชาติมากอบโกย กับทีมบอลซึ่งถือว่าเป็นทุนวัฒนธรรมกีฬาอังกฤษ

หัวส่าย…หางกระดิกครับ

มันจบแล้วครับ ESL

จากนั้น….ข่าวการถอนตัวจาก ESL  ของเชลซี เกิดขึ่้นก่อนเกมเริ่ม 45 นาที 

ตามด้วยแมนฯซิตี้ 

คำถามคือว่า….ทำไมแฟนบอลอังกฤษ,สื่อ, สโมสร, ผ.จ.ก. , นักฟุตบอลหลายคน ขนาด เจมส์ มิลเนอร์​ พูดเมื่อวานหลังเสมอลีดส์ว่า “ไม่เห็นด้วยกับการตั้งลีกนี้”

 รวมทั้งระดับผู้บริหารประเทศ และทั้งทวีปยุโรปต่างออกโรงมาคัดค้านกันมากมาย 

ผลโหวตแฟนบอลทุกสำนักในอังกฤษ “ไม่เอา” ESL เฉลี่ย 90% 

ทำไมละครับ…มันก็แค่ทีมบอลธรรมดา ที่เขาทำธุรกิจรูปแบบบริษัท จำกัด

แต่ทีมบอลที่เราตามดูกันในวงนอกโดยไม่ได้เกิดที่นั่น…

พวกเขาใช้เวลาสร้างมาด้วยระยะเวลาหลักร้อยปี 

ด้วยรากฐานที่มั่นคงจนเป็นเหตุผลที่สำคัญดังนี้….

1 สมบัติของชาติ..จอห์นสัน พูดเลยว่าฟุตบอลอาชีพมันคือเรื่องของ  local, community, city, nationท้องถิ่น,​ชุมชน, เมือง และชาติ….ชัดนะครับ

2 ฟุตบอลมีเจ้าของร่วม…

 ฟุตบอลเป็นเรื่องของทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่ใช่ “เจ้าของทีม” แต่ผู้เดียวแม้เจ้าของทีมจะมีสิทธิ์ขาดในการบริหารจัดการทีม นั่นคือกลไก ทว่าทีมฟุตบอลก็ประกอบด้วย ผู้คนที่เกี่ยวข้องมากมาย ทั้งโค้ช, นักเตะ เจ้าหน้าที่รัฐ,ภาคเอกชน….

ที่สำคัญคือแฟนบอล ที่อยู่กับทีมมานาน เป็นเจ้าของร่วมที่มีพลังปราศจากแฟนบอล…ฟุตบอลไม่เหลืออะไร

3 พีระมิด ฟุตบอล

การดูบอลของคนนอกเกาะอังกฤษ อาจมองแค่ทีมดัง

แมนฯยูฯ, ลิเวอร์พูล, เชลซี, ทอปซิกส์….

แต่บอลอังกฤษมีโครงสร้างใหญ่โตถึงระดับ 20 ดิวิชั่น

มีทีมบอลเป็นหมื่นๆทีม…. ลีกอาชีพ 4 ดิวิชั่น กึ่งอาชีพ1 อีก 16 ดิวิชั่นคือสมัครเล่น

ทุกเมือง ทุกท้องถิ่นมีทีมบอลสมัครเล่นกันทั่วเกาะอังกฤษ 

มีซันเดย์ ลีก (เตะช่วงเช้า)บอลสมัครเล่นที่น่าภูมิใจ 

เหล่านี้คือ “รากหญ้า”ฟุตบอล และเป็น ฐานอันแน่นหนาของ พีระมิดฟุตบอล 

ฐานแน่น…ยอดก็ก่อตัวได้มั่นคง

มันจบแล้วครับ ESL

ข้อนี้ เหมือนกันทั้งยุโรปครับ 

ไม่นับผลที่สังคมได้รับเรื่อง เศรษฐกิจ, การท่องเที่ยว, กระแสเงิน……

ฟุตบอลอาชีพสร้างหลายสิ่งหลายอย่างให้ชุมชนของพวกเขามาช้านาน

มันรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น…

ความคิดในการแยกตัวออกไปจัดตั้งลีกของทีมแบรนด์ดัง 

เท่ากับว่า…พวกเขาไม่แยแส ไม่สนใจรากฐานฟุตบอลของประเทศ

ไม่แคร์สังคม ส่วนร่วมว่ากันแบบนั้น

ไม่แปลกที่ แฟนบอลทั่วประเทศจึงออกมาเรียกร้อง ติดป้ายด่าเจ็บๆคันๆ

แล้วพอกระแสสังคมคนทุกภาคส่วนจนถึงชนชั้นผู้นำประเทศ ออกมาคัดค้าน

ข่าวเชลซี, แมนฯซิตี้ แจ้งถอนตัว จึงเกิดขึ้นในเวลา48 ชั่วโมง

มีข่าวว่า แอต.มาดริด และบาร์เซโลนา ที่โจน ลาปอร์ต้า ระบุว่า…

ถ้าสมาชิกสโมสรบาร์ซ่า (socio)โหวตแล้วไม่ให้แยก…บาร์ซ่าก็ถอนตัว

 

เป็นเงื่อนไขที่เปิดไว้ก่อนเซ็นสัญญาก่อตั้ง ลีกใหม่

มาทรงนี้ก็ชัดว่ารู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง 

น่าจะหายไปสี่ทีมเหลือ 8 ทีม เท่านั้น

มันจบแล้วครับ ESL

กลายเป็นยังไม่เริ่มก็จบแล้ว…

นี่คือ “พลัง” ของทุกคนที่มีส่วนร่วมในเกมฟุตบอลออกมาคัดค้าน

นำโดยแฟนบอลทั่วประเทศอังกฤษ ทั้งทีมที่เกี่ยวข้องและทีมที่ไม่เกี่ยวข้อง…..

จนเป็นภาพของพลังการต่อสู้อย่างยิ่งใหญ่

เสียงโห่ร้องของแฟนเชลซี หน้าสนาม ป้ายขอบคุณ โรมัน อบราโมวิช ที่ตัดสินใจรวดเร็วเด็ดขาดตามสไตล์ เสี่ยหมี…..คือภาพที่สื่อ, ทีวี, นักวิจารณ์ 

แม้กระทั่ง เกลน ฮอดเดิล อดีต นักเตะและผ.จ.ก เชลซี บอกว่าชื่นใจ

เขาไม่ได้ชื่นใจเพราะ เชลซีถอนตัว

เขาชื่นใจเพราะแฟนเชลซีคือหัวหอกนำขบวนประท้วงสโมสรที่เข้าร่วมจัดตั้งลีก

หลายคนในทวิตเตอร์ “ค่อนแคะ”ว่า คนที่ต่อต้านการแยกไปตั้งลีกของทีมดัง

คือคนที่เสียประโยชน์ …..คงหมายถึงยูฟา

ถ้านับยูฟา ว่าเสียประโยชน์ ก็ต้องรวมแฟนบอลเชลซี,ลีดส์, แฟนหงส์, แฟนผี, แฟนปืน, แฟนสเปอร์ส และบรรดาสโมสรหลายทีมที่ออกมาต่อต้าน, แกรี เนวิลล์, เจมี คาร์ราเกอร์, อลัน เชียเรอร์..,นักวิเคราะห์บอล, สื่ออังกฤษจนถึงนายกรัฐมนตรี อังกฤษ ที่ต้องเรียกประชุมด่วน

คนเสียผลประโยชน์….ทำไมดูเยอะจัง

เออ..ทำไมเป็นแบบนั้น

คิดสิ…คิด

การติดตามฟุตบอลอาชีพฟากยุโรป

จึงไม่ใช่ดูแค่ โค้ชจัดใครลงเล่น 

ผลแข่งเป็นไง

ใครได้ถ้วย

มันคือการศึกษาถึงเรื่องราว เชิงประวัติศาสตร์ 

การหล่อหลอม, ผสมผสานรวมเป็นสถาบันฟุตบอลอาชีพ

อย่างเข้าใจและลึกซึ้ง

ไม่งั้นจะตื้นเขินในการเป็นแฟนบอล

ฟุตบอลอาชีพจึงไม่ใช่เรื่องแค่ “ทีมบอล”, แฟนบอล, โค้ชบอล

 

ไม่ใช่เรื่องแค่ “การแข่งขัน”

ไม่ใช่เรื่องแค่ “ธุรกิจเงินทอง”

ฟุตบอลคือเรื่องที่ใหญ่กว่าที่กล่าวมา เพราะมันประกอบด้วยทุกฝ่ายมารวมตัวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คือเป็น solidarity ที่แข็งแกร่งจนเป็นพันธะเหนียวแน่นมานานกว่าร้อยปี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “แฟนบอล” หรือ  supporter คำที่มีความหมายมากกว่า “แฟนคลับ”

คือตัวสร้างพันธะให้เกิดขึ้น เป็นลูกค้าที่จงรักภักดีต่อ “แบรนด์” สโมสร มาตลอดทั้งชีวิต

คือตัวสร้างบรรยากาศ,ให้ตื่นเต้น, กดดัน, เร้าใจ, รักทีมอย่างไม่มีเงื่อนไข

โดยความรู้สึกเหล่านี้กลายเป็น “คุณค่า” ที่เงินก็ซื้อไม่ได้ 

มันจบแล้วครับ ESL

ธุรกิจฟุตบอลแตกต่างจากธุรกิจแขนงอื่น

มันต้องการ….การแข่งขันและคู่แข่งขัน 

มันต้องการ….การมีส่วนร่วมและโตไปด้วยกัน

ที่สำคัญ….ฟุตบอลอาชีพคือธุรกิจ ที่ต้องการ การแบ่งปัน….

fooball is sharing และ  football without fan is nothing 

เพื่อนผมแฟน นอตติงแฮม ฟอเรสต์ เป็นผู้กำกับหนังมีชื่อในวงการ

เป็นแฟนสตาร์ซอกเกอร์ ยาวนาน ตั้งแต่พี่ โย่ง 

คุยกันเรื่องนี้แล้ว ขอหยิบยกทัศนะของเขามาจบเรื่อง  ESL 

“ฟลอเรนติโน เปเรส, จอห์น เฮนรี, โจล เกลเซอร์ และพรรคพวก

“ประเมินราคาแฟนบอลต่ำเกิน”

จะมองเห็นแฟนบอลเป็นแค่ “เบี้ย” เป็น cash cow ไม่ได้

เพราะที่เกิดขึ้นคือ “เบี้ยล้อมขุน”

เห็นภาพชัดเลย….ว่าพลังแฟนบอลที่แท้จริงนั้นมากมายขนาดไหน

European Super League จึงเป็นลีกที่ยังไม่ทันเริ่มก็จบการแข่งขันแล้ว

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร

Add friend ที่ @Siamsport