ลิเวอร์พูล ไร้ซึ่งปาฏิหาริย์หลังทำได้แค่เสมอกับ เรอัล มาดริด แบบไร้สกอร์ในเลกที่สองทำให้ร่วงตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นที่เรียบร้อย เกมนี้ “หงส์แดง” น่าปวดใจยิ่งนักเพราะมีโอกาสมากถึง 15 ครั้งแต่ยิงนกตกปลาโดยเฉพาะสามประสานแดนหน้า ส่วนหนึ่งต้องชม ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวาร “ราชันชุดขาว” ที่โชว์เซฟหลายครั้ง เรามาดูผลงานลูกทีมแต่ละคนของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในเกมนี้กัน
อลีสซง เบ็คเกอร์ 7
เป็นค่ำคืนที่เงียบสำหรับ อลีสซง แต่เมื่อถึงเวลาต้องเซฟก็ยังเชื่อใจได้ วิ่งออกมาป้องกันลูกยิงของ วินิซิอุส ได้ดี แล้วยังตามไปตะปบบอลก่อน เบนเซม่า จะได้ซ้ำ
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 9
เกมรับที่เป็นจุดอ่อนเกมนี้ไม่มีให้เห็น ขณะที่เกมบุกโดดเด่นมาก ประสานงาน โม ซาลาห์ ไหลลื่น สร้างโอกาสมากที่สุดในทีม 6 ครั้ง น่าเสียดายที่ไม่มีแอสซิสต์เพราะแนวรุกยิงทิ้งหมด
นาธาเนียล ฟิลลิปส์ 7
ผลงานเริ่มดีต่อเนื่อง ชิงจังหวะโหม่งเคลียร์บอลได้ดีและมีความมั่นใจในการพาบอลขึ้นหน้า มีเสียท่าให้ เบนเซม่า ครั้งหนึ่งแต่โดยรวมน่าประทับใจ เก็บสถิติตัดบอล 4 เคลียร์บอล 2
โอซาน คาบัค 6.5
ช่วงต้นเกมเป็นคนโยนบอลสุดสวยให้ มาเน่ หลุดเดี่ยวแต่น่าเสียดายไม่ได้ประตู มีเคลียร์บอลพลาดแต่ยังแก้ตัวบล็อกลูกยิง โมดริช ได้ทัน ต้นเกมอาจจะปั่นป่วนอยู่บ้างแต่พอเริ่มจับทางได้ก็ไม่มีอะไรพลาด
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 6
เสียใบเหลืองง่ายจากการเถียงผู้ตัดสิน เติมเกมรุกตลอด สร้างโอกาสได้ถึง 4 ครั้ง แต่มีหลายครั้งที่เกมรุกขาดๆเกินๆ เช่น มีหลุดเข้าเขตโทษดันปล่อยบอลจนเด้งออกหลัง
ฟาบินโญ่ 6.5
ทำได้ดีในการช่วยเซนเตอร์ป้องกันเกมบุกของ มาดริด แต่เป็นเกมที่เขาจ่ายเสียค่อนข้างง่าย ก่อนถูกถอยให้ไปเล่นเซนเตอร์แบ็กในครึ่งหลัง
เจมส์ มิลเนอร์ 7.5
เกือบทำประตูได้จากกยิงไกลแต่ กูร์กตัวส์ ซูเปอร์เซฟ เคลื่อนที่ไปทั่วสนาม ขยันสมเป็นกัปตันทีม ลงไปช่วยสกัดบอลสำคัญตัดหน้าเบนเซม่า
จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม 6.5
เริ่มต้นเกมดูเงียบที่สุดในแผงมิดฟิลด์ แต่เวลาผ่านไปมีส่วนร่วมกับเกมบุกมากขึ้น มีโชว์พลิกบอลสุดสวยก่อนจ่ายให้ มาเน่ แต่ช็อตที่เข้าตามากที่สุดกลับเป็นครึ่งแรกที่มีโอกาสทองยิงในเขตโทษแต่ข้ามคานอย่างน่าผิดหวัง
ซาดิโอ มาเน่ 5
เปิดเกมมาด้วยการจ่ายให้ ซาลาห์ หลุดเดี่ยว, ปั่นป่วน บัลเบร์เด้ ได้ดีระดับหนึ่ง, ต้นเกมโดดเด่นมากแต่เล่นไปเล่นมาเจอจังหวะนรกเหมือนเดิมโดยเฉพาะจังหวะสุดท้าย
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 6
น่ายิงได้ตั้งแต่ต้นเกมหลังมีโอกาสหลุดเดี่ยว แถมก่อนหมดครึ่งแรกก็มีโอกาสทองแต่ยิงข้ามคาน จังหวะการเคลื่อนที่หลายครั้งค่อนข้างดีเหลือแค่การจบสกอร์ที่ไม่ได้ดั่งใจแฟนหงส์
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ 6
ครึ่งแรกยังไม่เด่นเท่าไหร่ ครึ่งหลังเริ่มมีบทบาทขึ้น โอกาสดีที่สุดของเขาคือลูกยิงติดเซฟในครึ่งหลัง และอีกนาทีถัดมาก็ได้โหม่งหลุดกรอบ ซึ่งโดยรวมปัญหาก็คือการจบสกอร์เหมือนเพื่อนร่วมทีม
ผู้เล่นสำรองที่ลงสนาม
ติอาโก้ อัลกันตาร่า 5 (แทน เจมส์ มิลเนอร์ น.60)
ไม่ได้สร้างอิมแพ็คกับเกมเท่าไหร่
ดีโอโก โชต้า 6 (แทน โอซาน คาบัค น.60)
มีโอกาสได้โหม่งเสาไกลครั้งหนึ่ง และได้หลุดไปยิงติดบล็อกเข้าข้างตาข่าย
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน – (แทน ซาดิโอ มาเน่ น.82)
เซอร์ดาน ชากิรี่ – (แทน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.82)
Add friend ที่ @Siamsport