ชนะในบ้านซะที !!

ก่อนแข่งเกมนี้…มีสองประเด็นที่ติดตามแพ้วิลล่า 7-2 มันคืออุบัติเหตุหรือเจตนาวันนี้เป็นนัดแก้มือ… ซาดิโอ มาเน มีข่าวลือมาก่อนว่าน่าจะพักข้างสนาม

เรื่องที่สำคัญสุดต่อเกมวันนี้คือ “ความเชื่อมั่น” ของทีมอย่าลืมว่าพึ่งแพ้เรอัล มาดริด มาแบบสู้ไม่ได้ในครึ่งแรกการเล่นในแอนฟิลด์นั้นย่ำแย่มาก (บังเอิญเกิดยุคโควิดไร้แฟนบอล)แพ้ต่อเนื่องและยิงประตูจาก โอเพ่น เพลย์ ในเกมลีกไม่ได้นานถึง 12 ชั่วโมง 44 นาที 

1 แทกติกสองทีม

ทีมเยือนวิลลา ไม่มี แจค กรีลิช ส่วน บาร์คลีย์​สำรองมาพักหนึ่งละ

แบ๊กโฟร์กับประตูชุดที่รัดกุม มาร์ติเนส, แคช, มิงส์​, คอนซา, ทาร์เกต

กลางคู่ใช้ ลุยส์ กับ นาเคมบา กลางรุก ตราโอเร, แมกกินส์ และ เทรเซเกต์

หน้าเป้า วัตกินส์ เล่นระบบ 4-2-3-1

ส่วนเจ้าบ้าน พัก มาเน ตามข่าว เป็น ฟีร์มีโน, โชต้า, ซาลาห์

แดนกลาง มิลเนอร์, ฟาบินโญ, จีนี หลังชุดเดิม

วิธีการเล่นชัดเจน…ลิเวอร์พูลต้องการควบคุมเกมการเล่นให้ได้

อาจจะเข้าทางหรือไม่ แต่ วิลล่า รับแล้วรอสวน ขึ้นบอลไม่ได้

ที่สำคัญสวนกลับไม่ค่อยได้ แต่ลิเวอร์พูลคุมเกมได้กลับยิงไม่ได้

โอกาสได้ลุ้นจาก ซาลาห์ ที่ มิงส์ พลาดให้ ก็ยิงออกไปหน้าตาเฉย

สุดท้ายมาตายเพราะลูกผิดพลาดทั้งระบบ

มิลเนอร์ จ่าย ให้ ฟีร์มีโน ไม่ยอมเข้ามาเล่น โดนตัดบอลได้แล้วถึง วัตกินส์

แต่ คาบัค สกัดไปเข้าทางแถวสองของ วิลลา คือ แมกกินน์

ก่อนที่ แมกกิน จะจ่ายให้ วัตกินส์ หน้าเขตโทษ ซึ่ง คาบัค ยืนห่าง

เข้ามาบลอคก็ไม่ทันละ วัตกินส์ ยิงโดนแขน เบคเกอร์ ที่ไม่ค่อยพร้อมเข้าไป

มันน่าตลกตรงที่ พอวิลล่า พลาด หงส์ลงโทษไม่ได้

แต่พอหงส์พลาด โดนลงโทษทันที

นี่คือลิเวอร์พูลปีนี้

2 Team Goal

ประตูตีเสมอ ได้จากจังหวะที่วิลล่าบุกมาฝั่ง เทร้นต์ แล้วเสียบอล

จากนั้นลิเวอร์พูลลำเลียงบอลขึ้นมาโจมตี

ฟาบินโญ, มิลเนอร์, โชต้า, รอบโบ ยิง มาร์ติเนส ปัดออกมา ซาลาห์ โหม่งซ้ำ

ใช้เวลาในการได้ประตูนี้ 16 วินาที

16 วินาที กับโอเพ่น เพลย์ ที่หายไป 5 เดือนในแอนฟิลด์

คิดเป็น 12-13 ชั่วโมงกว่าจะยิงในบ้านด้วย โอเพ่น เพลย์

ประตู 2-1 ซาลาห์, ติอาโก, ชาคิรี มีส่วนสร้างเกมเข้าไปยิง

แม้สุดท้ายกองหลังวิลล่า โหม่งมาเข้าทาง เทร้นต์ ที่ลุยไปทางซ้าย

เก็บบอลจังหวะสองแล้วซัดคมกริบเสียตาข่าย….

ทั้งสองประตูคือประตูของการเล่นทั้งทีมหรือ Team Goal

เป็นการเล่นที่เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทั้งซีซั่นครับ

3 ที่นี่….. แอนฟิลด์

ประตูล่าสุดที่ได้จาก โอเพ่น เพลย์ ในแอนฟิลด์คือ มาเน ยิงเวสต์บรอม

มาเน ยิงได้นาทีที่ 12 จากนั้นในบ้านอีก7 นัด เสมอแมนฯยูฯ 0-0

แพ้หกนัดรวดที่น่าเจ็บใจคือยิงไม่ได้เลย

นับเป็นจำนวนครั้งที่เข้าไปยิง 127 ครั้งบวกเกมนี้อีกเป็น 150 ครั้ง

จนกระทั่ง ซาลา ยิงประตูตีเสมอ 1-1 น.57

สิ้นสุดการรอคอยการเล่นในบ้าน ยิงได้แล้ว

จากนั้น เทร้นต์ มาเพิ่มลูกสองของตัวเองในปีนี่และเป็นประตูชนะ

เทรนต์ ยิงเด็ดขาด ต่อหน้า แกเรธ เซาธ์เกต ที่มานั่งชมเกมในแอนฟิลด์

สรุปมาดู ไทรอน มิงส์, คอนซา, วัตกินส์, บาร์คลีย์ (สำรอง) มั้ง555

ชัยชนะครั้งแรกในรอบห้าเดือนนับจาก 16 ธ.ค. (ชนะสเปอร์ส2-1)

ที่สำคัญชนะจากการที่โดนยิงนำก่อน…เป็นเรื่องที่ดี

และสองประตูที่ได้มาจาก โอเพน เพลย์ ที่หลายคนมีส่วนร่วมกับการยิง

4 แจ๊ค กรีลิช มีผล

การขาด แจ๊ค กรีลิช ไปจากทีมแอสตัน วิลล่า ตั้งแต่ 13 ก.พ.

นัดเสมอไบรท์ตัน 0-0 ซึ่งกรีลิช ออกจากสนามตั้งแต่ น.21

ก่อนเจอลิเวอร์พูล 7 นัด ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ สาม

เก็บได้ 8 จาก 21 เกมรุกยิงได้ 7 ลูกจากสี่เกม

เพราะยิงไม่ได้ สามเกม รวมเกมที่เตะเลสเตอร์ เป็น 8

เท่ากับ 24 แต้มเก็บได้ 8 ตัวเลขชัดเจนว่า “มีผล”

เชิงคุณภาพสิ่งที่เห็นคือ ขาดตัวเชื่อมเกมรุก

ขาดตัวผ่านบอลได้เสีย

ขาดตัวยิงฟรีคิกขาดตัวเรียกฟาวล์ เพื่อเอาฟรีคิก

ขาดตัวกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมเพราะ กรีลิช “ขาใหญ่” ในทีม

เมื่อมานับเกมที่เจอลิเวอร์พูลเป็นนัดที่ 9 ที่ไม่มี กรีลิช

ชัดเลยครึ่งแรกทำเกมรุกได้2 ครั้งยิงเข้าไปหนึ่ง

แม้ตามเชิงเล่นสวนกลับ แต่เอาจริงๆแทบไม่ได้ลุ้น

ถ้ามี กรีลิช จะน่ากลัวกว่านี้แน่นอน

ครึ่งหลังยิ่งชัด สร้างโอกาสประปราย

5 var….. !!

วีเออาร์ เอามาใช้เพื่อ…”ช่วยตัดสิน”

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าช่วยการตัดสิน โดยเฉพาะการตัดสินที่ผิดพลาดของผ.ต.ส.

จากสี่กรณี อย่างที่รู้กัน ได้ประตูจากผิดกติกา, จุดโทษ, ใบแดงจากการเล่น,

คาดโทษผิดตัว…เหล่านี้ล้วนเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาตลอดก่อนยุควีเออาร์

ดังนั้นการเข้ามามีบทบาทตรงนี้เพื่อช่วยขจัดความเคลือบแคลงในการตัดสิน

คราวนี้เขาก็ใช้กันมาก่อนพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่บอลฟีฟา คอนเฟเดอเรชั่น

บอลโลก, บอลลีกอื่นๆ พรีเมียร์ลีกมาทีหลังก็อยากทำให้มันเด่นกว่า

มีการเน้นจับล้ำหน้าด้วยกราฟฟิก สามมิติ เพิ่มเข้าไป

หากมีการได้ประตูแล้ว เกิดล้ำหน้า วีเออาร์ มาช่วย

เอาง่ายๆตามหลักการนะครับ วีเออาร์ มาช่วยกำจัด เหตุการณ์ที่ไม่ชัดเจน

เหตุการณ์ที่ผู้ตัดสิน ทำผิดพลาดในสนาม วีเออาร์ เพลย์ภาพมาคือ “ชัดเลย”

คุณตัดสินผิดพลาด เราช่วยคุณได้

คราวนี้ปัญหามันเกิดขึ้นตรงที่ เข้ามาช่วยแล้วสร้างความ “สับสน”

สร้างความไม่แน่ใจ เคลือบแคลงใจ คือใช้แล้วก็ไม่รู้ว่ามันชัดมั้ย ใช่มั้ย

ทั้งแฟนบอลผู้เสียประโยชน์ ,ทีมที่เสียประโยชน์, สื่อ, นักวิเคราะห์

เอาหลักๆนะครับ คนไม่เกี่ยวข้องคือ นักวิเคราะห์คืออดีตนักเตะเก่า

สื่อมวลชนก็คอลัมนิสต์จากน.ส.พ. สื่อหลักของอังกฤษ

ทุกคนมองว่า วีเออาร์ มาทำให้สับสน และไม่ช่วยในบางกรณีเช่น “ล้ำหน้า”

โดยเฉพาะการลากเส้นกราฟฟิก สามมิติ นี่แหละ

1 ใช้เวลานานกว่าจะลากเส้น ตั้งฉากจนล้ำหน้า

การใช้เวลานานแสดงว่า….การล้ำหน้านั้นไม่ชัดครับ

2 หลายเกมเหตุการณ์เดียวกัน แต่ไม่เช็ค ไม่มีวีเออาร์

3 คนเปิดบอล…ก็สำคัญ

ถ้าคนวิ่งออกตัวพร้อมกันกับคนเปิดบอล

วีเออาร์ วัดยังไง

เกมนี้ล่าสุดเหมือนกันครับ เทร้นต์ คนเปิดบอล มองไม่เห็นภาพลูกบอล

เห็น โชต้า วิ่งระยะเดียวกันกับกองหลังวิลล่า

มองด้วยตาเปล่า “ไม่ล้ำ” ถ้าตีเส้น กราฟฟิก เมื่อไหร่มันใจเลยว่า “ล้ำ”

ทิม เชอร์วูด ตั้งคำถามว่า ในเมื่อคุณไม่เห็นภาพจังหวะเปิดบอลของ เทร้นต์

คุณจะตีเส้นล้ำหน้าเพื่ออะไร เพราะมันก็สับสนกำกวมเหมือนกัน

เขาไม่เห็นด้วยกับกฏล้ำหน้า

คหสต ของผมคือเมื่อเจอจังหวะที่สร้างความสับสน ดูไม่ชัด

วีเออาร์ หมดประโยชน์ ครับ เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น

คุณเรียกวีเออาร์มาใช้ มันต้องได้คำตอบอย่างน้อยไม่เกิน60วินาที

ถ้าเอามาใช้แล้วทำให้คนไม่เห็นด้วย สับสนกับการใช้ ดูวุ่นวาย ยุ่งยาก

คำตอบได้ช้า

อย่าใช้ดีกว่า….พอใช้แล้วบางทีมโดนอยู่ฝั่งเดียว

จะมีข้อครหาได้ว่า พรีเมียร์ลีกทำตัวเป็น deep state 

ส่วนชัยชนะของลิเวอร์พูล ว่ากันเฉพาะเรื่องฟุตบอล

การไม่ชนะในแอนฟิลด์ 5 เดือน ตั้งแต่ 16 ธ.ค. คือเรื่องน่ากังวลที่สุด

แพ้หกนัดรวดเป็นซีรีส์ ต่อให้ไม่มีแฟนบอล ทีมก็ต้องปรับตัว

ดังนั้นการชนะวิลล่า 2-1 คือสิ่งที่ดีสุดในการได้สามแต้ม

ความมั่นใจในการเล่นจะยังคงมีอยู่

สร้างเกมรุกบุกแทบตาย เล่นแล้วไม่ชนะ

ยิงเป็น 100 ครั้งในหกเกมที่แพ้รวด แต่ไม่ได้สักลูก

ความมั่นใจเกมรุกนั้นหายไปแน่นอน…

ดังนั้นการชนะเกมนี้ ความมั่นใจจะยังคงมีอยู่กับทีม

แฟนหงส์ คาดหวังว่า ชนะได้แล้วในแอนฟิลด์

น่าจะส่งผลถึงเกมกลางสัปดาห์กับเรอัล มาดริด

ทีมจะลงสนามด้วยความมั่นใจมากขึ้น

เพื่อสู้กับสกอร์ 2-0 ที่ต้องการได้หรือไม่