‘คล็อปป์’ชี้เหตุซาล่าห์ไม่เปรี้ยง หงส์เจ็บอื้อล้างตาไบรท์ตันเอฟเอคัพ

วันอาทิตย์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.

การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 4 ในคืนวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2023 เป็นการรีแมตช์ของ 2 ทีม ที่เพิ่งดวลกันในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ “นกนางนวลแดนใต้” ไบร์ทตัน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในเวลา 20.30 น.


เจ้าถิ่นกำลังฟอร์มดีสุดๆ จนขยับขึ้นมารั้งอันดับ 6 ของตาราง รายการนี้บุกถล่ม “สิงห์แดง” มิดเดิ้ลสโบรช์ห ขาดลอย 5-1 เกมนี้ไม่มี เลวี่ โคลวิลล์ แนวรับคนสำคัญที่บาดเจ็บ เช่นเดียวกับ ยาคุบ โมเดอร์ ส่วน อดัม ลัลลาน่า ต้องรอทดสอบความฟิต ในรายของ มอยเซส ไซเซโด้ พร้อมลงเล่นเหมือนเดิม แม้จะตกเป็นข่าวย้ายทีม มีข้อเสนอจาก เชลซีและอาร์เซน่อล แต่ไบรท์ตันก็ปฏิเสธไปทั้งหมด โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ มั่นใจว่านักเตะโฟกัสกับทีมและจะไม่ย้ายอย่างแน่นอน ที่เหลือนำโดย อเล็กซิส แม็คอลิสเตอร์, ปาสกาล กรอสส์, โซลลีย์ มาร์ช,อีวาน เฟอร์กูสัน และคาโอรู มิโตมะ

ทีมเยือนเพิ่งเสมอกับ “สิงห์บลูส์” เชลซี แบบไม่มีสกอร์ 0-0 เกมนี้ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, ดีโอโก้ โชต้า,โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, อาร์ตูร์ เมโล่ และหลุยส์ดิอาซ โดย 4 รายแรกคาดว่าจะกลับมาซ้อมได้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร มาในระบบ 4-3-3 นาบี เกอิต้า คุมแดนกลางร่วมกับ ฟาบินโญ่และธีอาโก้ อัลคันทาร่า สามแนวรุกส่งโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ประสานงานกับ ดาร์วินนูนเญซ และโคดี้ กัคโป

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด กลายเป็นไบรท์ตันที่ชนะได้ 2 เสมอ 2 และลิเวอร์พูล ชนะ 1 โดยเกมล่าสุดเพิ่งดวลกันไปเมื่อวันที่ 14 มกราคม

ไบร์ทตัน จัดหนักถล่ม 3-0

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามไบรท์ตัน (4-3-3): เจสัน สตีล, ทาริค แลมพ์ตี้ย์, ลูอิส ดังค์, อดัม เว็บสเตอร์, เปอร์วิส เอสตูปิญาน, มอยเซส ไซเซโด้,อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์, ปาสกาลกรอสส์, โซลลีย์ มาร์ช, อีวาน เฟอร์กูสัน และคาโอรู มิโตมะ

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวีน เคลเลเฮอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, โจ โกเมซ, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส, นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่,

ธีอาโก้ อัลคันทาร่า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และโคดี้ กัคโป

ก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล กล่าวถึงโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ว่า กำลังมีปัญหาในการเล่น เนื่องจากบางครั้งทฤษฎีต่างๆ ข้อมูลต่างๆ และการเปลี่ยนแปลงคู่หูในแนวรุกทำให้ ซาลาห์ ไม่สามารถผลิตสกอร์ได้เหมือนเดิม

แนวรุกตัวกลั่นชาวอียิปต์ทำได้7 ประตู จาก 19 เกม พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ โดยทำประตูได้ 23 ประตูในฤดูกาล 2021-22 แต่เขาต้องลงเล่นท่ามกลางเพื่อนร่วมทีมที่แตกต่างออกไปจากปีก่อน นับเฉพาะ 3 เกมหลัง เปลี่ยนแนวรุกทุกนัดที่เขาลงสนาม

“มันเป็นการเล่นแบบเฉพาะเจาะจง การเล่นเกมรุกที่ต้องใช้การทำงานมาก และข้อมูลจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ เราใช้สามประสานแดนหน้าคือ ซาลาห์,โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน และซาดิโอ มาเน่ กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ตรงกันกับสไตล์การเล่นที่ดุดันของลิเวอร์พูล และนำแชมเปี้ยนส์ ลีกและแชมป์พรีเมียร์ลีกมันเป็นเหมือนเครื่องจักรที่เจาะมาอย่างดีสำหรับสามประสานในแดนหน้า ทุกอย่างชัดเจนว่า ตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่” คล็อปป์กล่าว

“คุณสร้างความรู้สึกเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้มากมาย เกี่ยวกับตำแหน่งที่เพื่อนร่วมทีมของคุณว่าอยู่ตรงไหน และตำแหน่งที่จะส่งบอลโดยไม่ต้องมอง ดังนั้น ไม่เพียงแต่ ซาล่าห์ เท่านั้น แต่ทุกคนในแนวรุก ต้องให้เวลากับพวกเขา”

แต่นับตั้งแต่ที่ มาเน่ ย้ายไปบาเยิร์น มิวนิค เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซาล่าห์ ในวัย 30 ปี เล่นร่วมกับนักบอลมากมายเหลือเชื่อทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ดีโอโก้ โชต้า, โคดี้ กัคโป, หลุยส์ ดิอาซ, ดาร์วินนูนเญซ, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบิโอคาร์วัลโญ่ และอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ทำให้เกิดความสับสนในความเข้าใจซึ่งกันและกัน

สำหรับสามนักเตะแนวรุกรุ่นใหม่ที่ คล็อปป์ ค่อนข้างชอบคือ ซาลาห์, นูนเญซและดิอาซ อยู่ในสนามร่วมกันเพียง 343 นาที ด้วยกันในฤดูกาลนี้

สกอร์ที่คาด : ไบรท์ตัน 2-2 ลิเวอร์พูล