สหพันธ์ฟุตบอลเม็กซิโก หรือเอฟเอ็มเอฟ ประกาศแยกทางกับ เกราร์โด “ตาต้า” มาร์ติโน กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ หลังตกรอบแรก ศึกฟีฟา เวิลด์ คัพ 2022 ด้วยผลต่างลูกได้เสียที่น้อยกว่า โปแลนด์
เม็กซิโก ปิดฉากรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยสถิติชนะ-เสมอ-แพ้ อย่างละ 1 เกม เริ่มจากเสมอ โปแลนด์, แพ้ อาร์เจนตินา และ ชนะ ซาอุดิอาระเบีย มี 4 แต้ม จาก 3 นัด ยิงได้ 2 เสีย 3 (-1) เทียบกับ โปแลนด์ ยิงได้ 2 เสีย 2 (0)
โดยเกมล่าสุดพวกเขาออกนำซาอุดิอาระเบีย 2-0 จากลูกยิงของ เฮนรี มาร์ติน น.47 และหลุยส์ ชาเวซ น.52 ซึ่งถ้าจบสกอร์นี้เม็กซิโกจะเข้ารอบ แต่แล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+5 กลายเป็นตัวแทนจากทวีปเอเชียได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2
จากชัยชนะในสกอร์ดังกล่าวเป็นเหตุให้ทัพ “จังโก้” หยุดสถิติเข้ารอบน็อกเอาท์ไว้ที่ 8 สมัยติดต่อกัน โดยครั้งสุดท้ายที่ทีมชาติเม็กซิโกตกรอบแรก คือ ปี 1978 (ถูกแบนปี 1990)
เกราร์โด มาร์ติโน อดีตเทรนเนอร์ บาร์เซโลนา กล่าวว่า “ผมขอรับผิดชอบต่อผลการแข่งขันวันนี้ สัญญาของผมสิ้นสุดลงตั้งแต่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบเกม และไม่มีอะไรต้องสะสางอีกแล้ว”
“เราเหนือกว่าชัดเจน และสร้างโอกาสได้มากมาย แต่เราไม่สามารถยิงประตูได้ตามต้องการ นั่นคือสาเหตุที่เราเสี่ยงบุกเพื่อประตูที่ 3 และเราเติมกองหน้าอีก 2 คน เรารู้ว่า โปแลนด์ เสียใบเหลืองน้อยกว่า และเรากำลังจะกลับบ้าน ดังนั้นมันมีความจำเป็น ณ เวลานั้น”
“แต่เราทำไม่ได้ และผมไม่คิดว่าเราตกรอบหลังจบ 2 แมตช์แรกจนถึงวันนี้ ผมคิดว่าเราทบทวนเกมนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วยมุมมองแบบเป็นกลาง นี่คือความจริง เราจำเป็นต้องเสี่ยง เพราะเราจะตกรอบ ฟุตบอลโลก” นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์ ทิ้งท้าย
ทั้งนี้ เกราร์โด มาร์ติโน รับงานคุมทีมชาติเม็กซิโก มาตั้งแต่ปี 2019 หลังผ่านประสบการณ์ระดับนานาชาติ พา ปารากวัย และ อาร์เจนตินา ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ศึกโคปา อเมริกา ปี 2011, 2015 และ 2016 ตามลำดับ
โดย บิ๊กบอสวัย 60 ปี คุม แอตแลนตา ยูไนเต็ด แฟรนไชส์เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ สหรัฐอเมริกา เป็นสโมสรสุดท้าย พร้อมกับคว้าแชมป์ เอ็มแอลเอส คัพ ปี 2018 อีกด้วย
