วันเสาร์ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
กาเบรียล เฆซุส
ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หวนกลับมาลงสนามฟาดแข้งกันอีกครั้ง โดยในวันเสาร์ที่ 1 ต.ค. นี้ จะมีลงสนามฟาดแข้ง 7 คู่ บิ๊กแมทช์จะอยู่ในเกม ลอนดอน ดาร์บี้แมทช์ ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล จ่าฝูงของตารางจะเปิดสนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมรับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์เริ่มฟาดแข้งในเวลา 18.30 น. เป็นต้นไป
“ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล จ่าฝูงของตารางที่มีอยู่ 18 คะแนนจากการชนะ 6 แพ้ 1 เกมนี้ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของทีม สภาพทีมจะยังไร้ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, รีสส์ เนลสัน และเอมิล สมิธ โรว์ ที่บาดเจ็บ ส่วนโธมัส ปาร์เตย์ ไปเดี้ยงตอนวอร์มจากเกมทีมชาติ ต้องรอเช็คความฟิต เช่นเดียวกับ โอเล็คซานเดอร์ ชินเชนโก้ และคีแรน เทียร์นีย์ นอกนั้นตามรายงานไม่มีปัญหาอะไร อาจจะต้องโยกเอา ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ไปยืนแบ๊กซ้ายจำเป็น พร้อมส่ง อัลเบิร์ต แซมบี้ โลก็องก้า ไปคุมแดนกลางร่วมกับ กรานิต ชาก้า แนวรุกได้ มาร์ติน โอเดการ์ด ฟิตกลับมาบัญชาการประสานงานกับ บูกาโย่ ซาก้า, กาเบรี่ยล มาร์ติเนลลี่ และกาเบรี่ยล เฆซุส
ทางฝั่งทีมเยือน “ไก่เดือยทอง” ของอันโตนิโอ คอนเต้กุนซือชาวอิตาเลียน ที่เวลานี้เป็นหนึ่งในสองของทีมที่ยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ ชนะ 5 เสมอ 2 เกมนี้สภาพทีมจะยังไม่มี ลูคัส มูร่า ที่บาดเจ็บ ในรายของ เบน เดวีส์ และเดยัน คูลูเซฟสกี้ต้องรอทดสอบความฟิต หากลงไม่ได้ เคลมองต์ ล็องเล่ต์ จะได้ลงคุมแนวรับ ส่วนเกมรุกเป็นโอกาสของ ริชาร์ลิซอน ที่เหลือถือว่าพร้อมทุกตำแหน่ง นำโดย โรเบิร์ต เบนตานคูร์, ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ค, แฮร์รี่ เคน และซอน เฮือน มิน ที่คืนฟอร์มยิงทั้งสโมสรและทีมชาติ
สำหรับสถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ เรียกได้ว่าบ้านใครบ้านมัน สเปอร์ส ชนะ 3 ส่วน อาร์เซน่อล ชนะ 2
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม อาร์เซน่อล (4-2-3-1) :แอรอน แรมส์เดล, เบน ไวท์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรี่ยลมากัลเญส, ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ, กรานิต ชาก้า, อัลเบิร์ต แซมบี้โลก็องก้า, บูกาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรี่ยลมาร์ติเนลลี่ และกาเบรี่ยล เฆซุส
สเปอร์ส (3-4-2-1) : ฮูโก้ ญอริส, คริสเตียน โรเมโร่, เอริค ดายเออร์, เคลมองส์ ล็องเล่ต์, เอแมร์ซอน รอยัล, โรดริโก้เบนตานคูร์, ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ค, ไรอัน เซสเซญง, ริชาร์ลิซอน, ซอน เฮือน มิน และ แฮร์รี่ เคน
ขณะที่ “หงส์แดง” “ลิเวอร์พูล จะเปิดรัง แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “นกนางนวล” ไบร์ทตัน” แอนด์ โฮฟอัลเบี้ยน ในเวลา 21.00 น. โดยเกมนี้ เจ้าถิ่น ที่รั้งอันดับ 8 ของตาราง 6 นัด เก็บได้เพียงแค่ 9 คะแนนเท่านั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีมยังคงไม่มี นาบี เกอิต้า, อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เคอร์ติส โจนส์ และแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่บาดเจ็บ แต่จะได้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ กลับมาเป็นตัวเลือกในแนวรับ คอนสแตนตินอส ซิมิกาส จะลงประจำการแบ๊กซ้าย ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่อาจจะยังไม่ฟิตเต็มร้อยน่าจะนั่งสำรองไปก่อน ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ คุมแดนกลางร่วมกับ ฟาบินโญ่ และธีอาโก้ อัลคันทาร่า สามแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และหลุยส์ ดิอาซ เป็นตัวยืนอีกรายต้องแย่งกันระหว่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ดาร์วิน นูนเญซ และดีโอโก้ โชต้า
ฝั่งทีมเยือน “นกนางนวล” ไบร์ทตัน ที่เสียกุนซือคนเก่งอย่าง แกรห์ม พ็อตเตอร์ ไปให้กับเชลซี ใช้เวลาในช่วงพักเบรกทีมชาติเฟ้นหาผู้จัดการทีมคนใหม่ และไปได้ โรแบร์โต้เด แซร์บี้ เทรนเนอร์หนุ่มชาวอิตาเลียนเข้ามาคุมทีม เกมนี้ถือเป็นการประเดิมสนามของเขา แต่ยังไม่มี ยาคุบ โมเดอร์ มิดฟิลด์หน่วยก้านดีที่บาดเจ็บ ส่วน เอน็อค เอ็มเวปู ก็ไม่เจ็บมาจากเกมทีมชาติ ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าจะใช้ระบบ 3-5-2 นำโดย โซลลีย์ มาร์ช, ปาสกาล กรอส, อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์, มอยเซส ไซเซโด้, เลอันโดร ทรอสซาร์, เดนิซอุนเดฟ และแดนนี่ เวลเบ๊ค
สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล เคี้ยวยากพอสมควรเอาชนะได้ 2 เสมอ 2 และไบร์ทตัน ชนะ 1
ทางด้าน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ภายใต้การคุมทัพของ แกรม พ็อตเตอร์ จะบุกไปเยือนถิ่น เซลส์ เฮิร์ส พาร์ค ของ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ในเวลา 21.00น. เกมนี้ได้รับข่าวดีเมื่อ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์คนสำคัญหายเจ็บกลับมาซ้อมได้แล้ว เช่นเดียวกับ เอดูอาร์ เมนดี้ ส่วน คริสเตียน พูลิซิซ ต้องรอทดสอบความฟิต ที่เหลือถือว่าพร้อมมาในระบบ 3-4-3 มัตเตโอ โควาซิซ คุมแดนกลางร่วมกับเมสัน เม้าท์ โดยมี รีซ เจมส์ และเบน ชิลเวลล์ เป็นวิงแบ็กสองฝั่ง สามแนวรุกวาง ไค ฮาแวร์ตซ์ ประสานงานกับ ปีแอร์-เอเมอริค โอบาเมยัง และราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ส่วนเจ้าถิ่น “ปราสาทเรือนแก้ว” ที่อยู่ในโซนท้ายตาราจากผลงานชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 2 มี 6 คะแนน ทีมของปาทริค วิเอร่า จะไม่มี แจ็ค บัตแลนด์, เจมส์ ทอมกิ้นส์ และเจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ที่บาดเจ็บ ไม่ได้ส่งผลอะไรอยู่แล้ว เพราะขุมกำลังหลักถือว่าอยู่กันครบไม่มีใครเจ็บเพิ่มหรือติดโทษแบน ยึดระบบการเล่นเดิมคือ 4-3-3 นำทัพโดย เจฟฟรีย์ ชลุปป์, ชีค ดูคูเร่, เอเบเรซี่ เอเซ่, จอร์แดน อายิว, ฌอง-ฟิลิปป์มาเตต้า และวีลฟรีด ซาฮา