วงการฟุตบอลไม่มีวันเงียบเหงาแม้ฟุตบอลไทยลีกจะต้องหยุดพักกันไป แต่ฟุตบอลในระดับทีมชาติจะกลับมาลงสนามฟาดแข้งแทนในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์ของ “ฟีฟ่า เดย์”
“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ก็เช่นกัน
พวกเขามีโปรแกรมเข้าแคมป์เก็บตัว ที่โรงแรม ซัมมิท วินด์มิลล์ กอล์ฟ เรสซิเดนซ์ ในระหว่างวันที่ 11-15 พ.ย. พร้อมกับมีเกมอุ่นเครื่องกับทีมรวมดาราไทยลีก ในวันเสาร์ที่ 14 พ.ย. ที่ราชมังคลากีฬาสถานด้วย
ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่คาดว่า จะกลับมาแข่งกันได้อีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า หลังจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เบาบางลง
“อากิระ นิชิโนะ” กุนซือเลือดซามูไรของทีมชาติไทย ได้ประกาศรายชื่อ 23 ขุนพลนักเตะทีมชุดนี้ออกมาอย่างเป็นทางแล้ว
มีนักเตะซุปเปอร์สตาร์อย่าง “เจ้าตังค์” สารัช อยู่เย็น กับ “เจ้านิว” ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ สองคู่หูมิดฟิลด์ที่โชว์ฟอร์มสุดสะเด่าจนพา “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ผงาดครองตำแหน่งจ่าฝูงในฟุตบอลไทยลีก
นอกจากนี้ มานูเอล ทอม เบียรห์, ทริสตอง โด และ ฟิลิป โรลเลอร์ ก็จะอยู่ในทีมชุดนี้
รวมถึงยังมี 5 นักเตะหน้าใหม่ ที่ได้รับโอกาสติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรกอย่างณัฐวุฒิ สุขสุ่ม, สิทธิโชค ภาโส, ธณชัย หนูราช, เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม และ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ด้วย
นิชิโนะ ให้เหตุผลของการเลือกตัวผู้เล่นว่า พิจารณาจากหลายเงื่อนไข ทั้งในส่วนของผลงานในช่วงหลัง และสภาพร่างกาย
ครั้งนี้ทีมชาติไทยถือเป็นทีมที่มีการผสมผสานสายเลือดใหม่กับพวกจอมเก๋าเยอะพอสมควร
ฟอร์มการเล่นหรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ของนักเตะในเกม เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และชวนให้ต้องติดตามอย่างยิ่ง
ซึ่งแน่นอนว่าบรรดาแฟนๆสาวกทีมชาติไทยจะไม่พลาดการชมเกมการฟาดแข้งสดๆ แบบเต็มอรรถรสเสมอเหมือนอยู่ในสนามได้เช่นเดิม
ข้ามฝากมาถึงฟุตบอลโต๊ะเล็ก หรือฟุตซอล กำลังมีทัวร์นาเมนต์ใหญ่เช่นกันในเดือน พ.ย. รายการ “พีทีที ไทยแลนด์ ไฟว์ 2020” ซึ่งกำหนดเกมดวลแข้งในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย.ที่สนามบางกอก อารีนา หนองจอก โดยที่ผ่านมามียอดทีมดังของหลายทวีปเดินทางมาร่วมประชันเพลงแข้ง แต่ในปีนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก
ทำให้ไม่สามารถเชิญทีมต่างชาติเข้ามาร่วมการแข่งขันได้เหมือนเช่นทุกปี จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่ ด้วยการใช้ทีมภายในประเทศแทน ประกอบด้วย ทีมชาติไทย ชุดเอ แชมป์เก่า 2 สมัย ภายใต้การคุมทัพของ “ปูลปิส” โฆเซ มาเรีย เมนเดส กุนซือชาวสเปน ที่ต้องการทดสอบทีม รวมถึงตัวผู้เล่นก่อนลุยศึกชิงแชมป์เอเชียปีหน้า
ขณะที่ทีมชาติไทย ชุดบี จะได้ “โค้ชหมี” รักษ์พล สายเนตรงาม กุนซือแบล็กสตีลในลีกอินโดนีเซีย เข้ามาคุมทัพ ส่วนทีมออลสตาร์ไทยลีก เป็นการดึงเอาสุดยอดนักเตะจากทุกสโมสรที่ทำผลงานได้ดีในลีกมารวมกัน มี “โค้ชเอก” วิศาล ไหมวิจิตร อดีตโค้ชทีมชาติ และกรมทางหลวงรับ หน้าที่คุมทีม และสุดท้ายทีมออลสตาร์บราซิล ซึ่งเป็นสุดยอดนักเตะบราซิเลียนที่ค้าแข้งอยู่ในลีกมารวมตัวกัน โดยมีคาร์ลอส เซซาร์ นูเนซ กาโก กุนซือชาวสเปนของทีมพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี รับหน้าที่คุมทัพ
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันจะออกสตาร์ตวันที่ 19 พ.ย. เวลา 14.40 น. โดยไทยบี พบ ออลสตาร์ บราซิล จากนั้นเวลา 17.00 น. ไทย เอ พบ ออลสตาร์ไทยลีก ต่อด้วยวันที่ 21 พ.ย. เวลา 13.00 น. ออลสตาร์บราซิล พบ ออลสตาร์ไทยลีก ส่วนเวลา 15.40 น. ไทยบี พบ ไทยเอ และส่งท้ายวันที่ 22 พ.ย. เริ่มเวลา 12.30 น. ออลสตาร์ไทยลีก พบ ไทยบี เวลา 15.10 น. ไทย เอ พบ ออลสตาร์บราซิล
โดยทั้งฟุตบอลอุ่นเครื่อง “ฟีฟาเดย์” และ ฟุตซอล “พีทีที ไทยแลนด์ ไฟว์ 2020” ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดให้ชมทั้ง 2 ทัวร์นาเมนต์
สำหรับฟุตซอลแฟนโต๊ะเล็กสามารถที่จะเข้าชมการแข่งขันที่สนามได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย จำกัดจำนวนการเข้าสนามไม่เกิน 2,500 คน.
ทีมข่าวกีฬาไทยรัฐ