หงส์อัดเรือ3-1 คว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์

วันอาทิตย์ ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 03.19 น.

การแข่งขันฟุตบอลคอมมิวนิตี้ ชิลด์ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยมในเลสเตอร์ในวันเสาร์ที่30ก.ค.2565 หงส์แดงของเยียร์เก้น คล็อปป์ขาดผู้เล่นหลักคือดิเอโก้ โซต้า,อเล็กซ์ อ๊อกเลด แชมเบอร์เลนและอาลีซง เบ็คเกอร์ ส่ง11คนแรกคืออาเดรียน นายทวารสเปน,เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน,จอร์แดน เฮนเดอร์สันกัปตันทีม, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า,โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, หลุยส์ ดิอาซ

ฝั่งเรือใบเป๊ป กวาร์ดิโอล่าจัดเต็ม11คนคือเอแดร์ซอนนายทวาร, ไคล์ วอล์คเกอร์,รูเบน หลุยส์ ดิอาสกัปตันทีม, นาธาน อาเก้, ชูเอา กานเซโล่ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ เอร์นานเดซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิง ฮาแลนด์, แจ็ค กรีลิช


เริ่มแค่ 3 นาที ฟาบินโญ่ จ่ายบอลให้ ซาลาห์ เลี้ยงลุยตัดเข้าเขตโทษด้านขวาไปยิงด้วยซ้าย แต่บอลก็ไม่ตรงกรอบไปเข้าตาข่ายด้านข้าง   นาทีที่ 8 เป็นโอกาสของ แมนฯ ซิตี้ เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ได้ลุยมาตะบันด้วยซ้ายระยะ 18 หลา แต่บอลไปแฉลบเท้า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ พุ่งเข้าตาข่ายด้านข้างทั้งสองทีมก็เปิดเกมแลกกันสนุกเลย นาทีที่ 21 หงส์ออกนำ 1-0 เมื่อ ซาลาห์ ได้บอลทางกราบขวาแล้วไหลคืนสั้นๆ ให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วิ่งมายิงแบบเฉือนๆ บอลไปแฉลบหัว อาเก้ ให้มันโด่งหนีมือ เอแดร์ซอน ไปอีก ลูกเลยเข้าประตูไปนาทีที่ 25 เรือใบ มีลุ้นทวงคืน เมื่อบอลจาก ริยาด มาห์เรซ ให้ เดอ บรอยน์ หลุดไปในเขตโทษทางขวาแล้วหลอกยิงที่เสาแรกทันทีแต่บอลก็ไปเข้าตาข่ายแทน

ช่วงที่เหลือครึ่งแรกบอลก็อยู่ในการครอบครองของซิตี้ทั้งหมด และมีโอกาสเข้ามาในกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังไม่ลงล็อกในจังหวะสุดท้าย หมด 45 นาทีแรกเป็น ลิเวอร์พูล นำ 1-0

 แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนผู้เล่นรายใหม่อย่าง จูเลียน อัลวาเรซ ลงมาเช่นเดียวกับ ฟิล โฟเด้น โดยถอดเอา ริยาด มาห์เรซ และ แจ็ค กรีลิช ออกไป ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็ส่ง ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าตัวใหม่ลงมาแทน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในนาทีที่ 59 หงส์แดง มีโอกาสทองที่จะหนีห่างในนาทีที่ 64 เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไหลทะลุช่องให้ ดาร์วิน นูนเญซ หลุดเดี่ยวไปพยายามจะชิพให้ข้ามตัวผู้รักษาประตู แต่บอลไปติดหน้า เอแดร์ซอน ที่ออกมาปิดมุมได้เร็วนาทีที่ 70 แมนฯ ซิตี้ ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ หยอดเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ โฟเด้น สอดมากระโดดยิงทีแรกไปตรงตัว อาเดรียน ปัดออกมา นายทวารชาวสเปนพยายามตามไปตะครุบ แต่ โฟเด้น ก็ยังไปงัดไว้ทำให้ลูกกระดอนมาเข้าทาง อัลวาเรซ ยิงจ่อๆ ตุงตาข่ายไปเลย แม้ทีแรกไลน์แมนจะยกธงล้ำหน้าแต่พอเช็กวีเออาร์แล้วก็ให้เป็นประตู

นาทีที่ 83 ลิเวอร์พูล มาได้จุดโทษ เมื่อ ซาลาห์ เปิดจากด้านขวาไปเสาไกลให้ นูนเญซ โหม่งไปติดแขน รูเบน ดิอาส ที่ยื่นออกมา ทีแรกผู้ตัดสินปล่อยเกมเล่นต่อจนมีสัญญาณจึงออกไปดูจอวีเออาร์แล้วเป่าฟาวล์ ก่อนที่ ซาลาห์ จะรับหน้าที่สังหารเรียดเข้ามุมเสาขวามือ แม้ เอแดร์ซอน จะพุ่งถูกทางก็ไม่ถึง หงส์แดง นำ 2-1 หงส์มีโอกาสที่จะได้เพิ่มในนาทีที่ 87 จากลูกเตะมุมสั้น เจมส์ มิลเนอร์ เปิดโค้งไปเข้าหัว นูนเญซ โหม่งสะบัดหลุดเสาไกลออกไปช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 7 นาที ล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 94 หงส์แดง หนีห่าง 3-1 เมื่อตัดบอลจาก เรือใบ ได้ตรงกลางสนาม ซาลาห์ หยอดจากมุมเขตโทษด้านขวาลึกไปเสาไกลให้ โรเบิร์ตสัน สอดมาโหม่งตั้งเข้ากลางถึง ดาร์วิน นูนเญซ โน้มตัวโขกจ่อๆ ตุงตาข่ายจบเกม ลิเวอร์พูลชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-1 คว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นครั้งที่ 16