เซาธ์แฮมป์ตัน
นักบุญ แพ้มา 7 จาก 10 นัดหลังสุดในลีก ซึ่งเท่ากับจำนวนที่พวกเขาแพ้จากการเล่น 26 เกมแรกของฤดูกาลนี้
ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิ่ล กุนซือชาวออสเตรียยังไม่แน่ว่าจะใช้งาน เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ผู้รักษาประตู และ สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ได้หรือไม่ ซึ่งถ้ารายแรกไม่ไหวก็จะเป็นโอกาสของ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ที่ได้เล่นตัวจริงครั้งแรกในปีนี้
ทั้งสองที่มีปัญหาบริเวณหลัง และเข่าตามลำดับเพิ่งจะกลับมาซ้อมได้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้เอง ขณะที่ วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้ ผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าไปเรียบร้อยแล้ว
ลิเวอร์พูล
ถ้า หงส์แดง แพ้ในเกมนี้จะเป็นการยกแชมป์พรีเมียร์ลีก ให้ แมนฯ ซิตี้ ในทันที แต่พวกเขาก็ชนะ 18 จาก 19 นัดในซีซั่นนี้ที่พบกับทีมอันดับครึ่งล่างของตาราง โดยเสียแต้มเพียงเกมเดียวในนัดออกไปเสมอ เบรนท์ฟอร์ด 3-3 เมื่อเดือนกันยายน
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันยืนยันว่าจะไม่มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในเกมนี้ หลังทั้งสองได้รับบาดเจ็บเข่า และโคนขาหนีบตามลำดับมาจากนัดชิงเอฟเอ คัพ แต่ก็มีความมั่นใจว่าทั้งสองจะกลับมาฟิตทันนัดปิดซีซั่นกับ วูล์ฟส์ รวมถึงนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก
สำหรับ ฟาบินโญ่ ที่เจ็บไปก่อนหน้านี้ก็จะชวดเกมนี้เช่นกัน ขณะที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ซึ่งเป็นตะคริวมาจากเกมวันเสาร์ก็น่าจะได้พัก
11 ตัวจริงตามคาด
เซาธ์แฮมป์ตัน (4-4-2) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ – ไคล์ วอล์คเกอร์ ปีเตอร์ส, ยาน เบดนาเร็ค, โมฮัมเหม็ด ซาลิซู, โรแม็ง แปร์โรด์ – เนธาน เร้ดมอนด์, เจมส์ วอร์ด เพราส์, โอริโอล โรเมว, โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ – อาร์มันโด้ โบรย่า, เช อดัมส์
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาลีสซง เบ็คเกอร์ – โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป, อิบราฮิมา โกนาเต้, คอสตาส ซิมิกาส – นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์, เคอร์ติส โจนส์ – ดีโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, หลุยส์ ดิอาซ
ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน