ซึ่งเรื่องนี้ก็ส่งผลกระทบต่อบรรดาชาติต่างๆมาก โดยเฉพาะบราซิล ที่มีแข้งตัวหลักค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีกถึง 9 ราย ไม่ว่าจะเป็น อลิสสัน เบคเกอร์, โรแบร์โต ฟีร์มิโน และฟาบินโญ 3 แข้งจากลิเวอร์พูล, เอแดร์ซอน กับกาเบรียล เชซุส ของแมนฯ ซิตี้, เฟร็ด กองกลางแมนฯ ยูไนเต็ด, ติอาโก ซิลวา ของเชลซี และราฟินญา ของลีดส์ ยูไนเต็ด
สาเหตุที่ทางพรีเมียร์ลีกได้ลงมติเห็นพ้องต้องกันก็เพราะถ้าบรรดานักเตะบินไปเล่นให้กับทีม “เรด ลิสต์” กลับมาสู่สหราชอาณาจักรก็ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ถึงจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
การกักตัว 14 วันนั้นคือปัญหาของบรรดาทีมพรีเมียร์ลีกที่อย่างน้อยๆ บรรดาแข้งต่างๆจะอดลงสนามอย่างน้อยๆ 2 เกมแน่นอน ส่วนบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ที่ได้ไปเล่นบอลยุโรปจะชวดเล่นถึง 3 เกม ทำให้ทางพรีเมียร์ลีกจึงเลือกตัดสินใจแบบนี้
จากเรื่องดังกล่าวทำให้บราซิล, เม็กซิโก, ปารากวัย และชิลี ต่างก็เรียกร้องให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สั่งห้ามนักเตะจากชาติของพวกเขาลงเล่นให้กับหลายทีมในเกาะอังกฤษเป็นเวลา 5 วัน ตามกฎ “5 วัน” โดยกฎดังกล่าวเป็นกฎที่ “ฟีฟ่า” เคยตั้งเอาไว้ โทษฐานที่ทีมเหล่านั้นไม่ปล่อยนักเตะมารับใช้บ้านเกิดในโปรแกรมเกมทีมชาติ
สำหรับกฎ “5 วัน” นั้น เป็นกฎที่ฟีฟ่า ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยปกป้องไม่ให้เหล่าทีมชาติถูกสโมสรเอาเปรียบมากเกินไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้บางครั้งเหล่าสโมสรหาข้ออ้างถอนตัวนักเตะจากทีมชาติแบบไม่จำเป็น
โดยกฎนั้นระบุว่าหากนักเตะคนไหนไม่โดนปล่อยไปเล่นกับทีมชาติแล้วล่ะก็ แข้งคนนั้นๆก็มีโอกาสที่จะถูกสั่งห้ามลงช่วยต้นสังกัดเป็นเวลา 5 วัน นับตั้งแต่วันที่จบโปรแกรมเกมทีมชาติในช่วงนั้นๆ
ถ้าโดนลงดาบจริงๆ ทีมที่โดนผลกระทบเต็มๆ ก็คือ “หงส์แดง” เพราะมี 3 แข้งหลักอย่าง ฟีร์มิโน, ฟาบินโญ และอลิสสัน จะอดช่วยทีมในการไปเยือน ลีดส์ (12 ก.ย.) เช่นเดียวกับ “ยูงทอง” จะอดใช้งานของราฟินญา ในเกมพบลิเวอร์พูล ขณะที่แมนฯ ซิตี้ จะอดใชงาน เอแดร์ซอน, เชซุส ในเกมออกไปเยือนเลสเตอร์ ซิตี้
ด้านเชลซี จะอดใช้งานติอาโก ซิลวา ปราการหลังวัย 36 ปี ในเกมพบแอสตัน วิลลา (11 ก.ย.) และยังจะรวมไปถึงเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับเซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (14 ก.ย.) เช่นเดียวกับ “ปิศาจแดง” จะอดใช้งาน เฟร็ด เกมพบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (11 ก.ย.) และเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่พบยัง บอยส์ (14 ก.ย.)
อย่างไรก็ตาม มีเพียงแค่เอฟเวอร์ตันที่ไม่โดนร้องเรื่องนี้ หลังไม่ยอมให้ ริชาร์ลิสัน ไปคัดบอลโลกเช่นกัน ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะว่า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เพิ่งยอมปล่อยกองหน้าวัย 24 ปีไปเล่นในศึกโอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ “ฟีฟ่า” ยังนิ่งไม่มีท่าทีที่จะตอบรับต่อคำร้องของบราซิล และเพื่อนร่วมทวีปอเมริกาใต้อีก 3 ชาติ
เพราะกฎนี้ไม่ได้มีตายตัว อยู่ที่ “ฟีฟ่า” ว่าจะลงดาบหรือไม่
แม้ว่าจะตีข่าวใหญ่โตว่าจะโดนแบน แต่ดูท่าทีสุดท้ายแล้วน่าจะรอด!!
มะระหวาน