โรเบิร์ตสันกลับมาแล้ว,ฟานไดค์ดวลลูกากู!วิเคราะห์ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี – สยามกีฬา


โรเบิร์ตสันกลับมาแล้ว,ฟานไดค์ดวลลูกากู!วิเคราะห์ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี 

     ต้องบอกเลยว่า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เตรียมเจอกับบททดสอบในเกมพรีเมียร์ลีก สัปดาห์นี้ เมื่อพวกเขาต้องรับมือกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่สนามแอนฟิลด์ ในวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคมนี้ 

     ทั้ง 2 ทีมทำผลงานได้ดีเยี่ยมไม่มีที่ติในสองแมตช์แรกเมื่อเก็บชัยได้เรียบวุธ และไม่เสียประตู ทำให้พวกเขารั้งตำแหน่งจ่าฝูงร่วม แต่ในเกมนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีผลการแข่งขันแพ้หรือชนะ มากกว่าผลเสมอ

      เชลซี และ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีเกมรุกเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ในขณะที่เกมรับก็แข็งแกร่งพอๆ กัน ฉะนั้นนี่จะเป็นแมตช์ที่จะต้องชิงไหวชิงพริบกันในทุกๆ ตำแหน่งและหากใครเป็นฝ่ายทำพลาด โอกาสที่จะเสียประตูมีค่อนข้างสูงเลยทีเดียว


1. ซิมิคาสต้องคืนตำแหน่งให้ “ร็อบโบ้”

โรเบิร์ตสันกลับมาแล้ว,ฟานไดค์ดวลลูกากู!วิเคราะห์ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี 


     สำหรับตำแหน่งแบ็กซ้ายในตอนแรกสาวก “เดอะ ค็อป” คงรู้สึกเป็นกังวลพอสมควรจากการที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน มีปัญหาบาดเจ็บในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่น แต่ คอสตาส ซิมิคาส สามารถลงมาทำหน้าที่แทนได้ดีพอสมควร

     แม้ว่าในเกมแรกที่ชนะ นอริช ซิตี้ ผลงานของ ฟูลแบ็กชาวกรีก มีปัญหาอยู่บ้างโดยเฉพาะในเรื่องเกมรับและความมั่นใจในการเล่น ทำให้โดนตำหนิพอสมควร แต่สำหรับแมตช์ที่สอย เบิร์นลี่ย์ เจ้าตัวได้รับคำชื่นชมทั้งเกมรับ และเกมรุก

     อย่างไรก็ตามตอนนี้ โรเบิร์ตสัน กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว และแน่นอนว่าคำถามก็คือเขาจะได้คืนตำแหน่งทันทีหรือไม่ ในเมื่อแบ็กซ้ายทีมชาติกรีซ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และเหมาะสมที่จะได้ลงเล่นในเกมรับมือ เชลซี

     งานนี้ดูเหมือนคำตอบน่าจะออกมาที่ “ร็อบโบ้” หวนคืนตัวจริง ส่วน ซิมิคาส ก็ต้องยอมรับสภาพ เพราะหากมองจากความเป็นจริง ดาวเตะชาวสกอตติช มีประสบการณ์ในเกมใหญ่แบบนี้ และน่าจะรับมือเกมรุกของ “สิงห์บลูส์” ได้ดีกว่า 


  

2. ฟาน ไดค์ ไม่เคยแพ้ในบ้านเกมลีก

โรเบิร์ตสันกลับมาแล้ว,ฟานไดค์ดวลลูกากู!วิเคราะห์ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี 


     สิ่งที่ ลิเวอร์พูล จะต้องระวังให้ดีๆ นั่นก็คือเกมรุกของ เชลซี โดยเฉพาะการที่พวกเขามี โรเมลู ลูกากู ยืนทำหน้าที่ล่าตาข่าย เพราะตอนนี้ “พี่ตู้” เต็มไปด้วยความมั่นใจ หลังจากเล่นได้อย่างโดดเด่นในเกมชนะ อาร์เซน่อล เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน

     ดาวเตะทีมชาติเบลเยียม เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง และรวดเร็ว  แถมยังสามารถวิ่งหาพื้นที่ว่างในการทำประตูได้อย่างชาญฉลาด และยังมีการจบสกอร์ที่เฉียบคม นี่คือสิ่งที่้เกมรับ “หงส์แดง” ต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ

     อย่างไรก็ตาม “เดอะ เร้ดส์” มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่พร้อมจะรับมือความแข็งแกร่งของ ลูกากู โดย ดาวเตะชาวดัตช์ กลับมาฟิตสมบูรณ์ และเป็นหัวใจในแนวรับที่ ลิเวอร์พูล ขาดไม่ได้ โดยเห็นได้ชัดกับผลงาน 2 แมตช์ที่ผ่านมา

     งานนี้บอกเลยว่า ลูกากู คงต้องใช้ความแข็งแกร่งให้เต็มที่เพื่อที่จะผ่าน ฟาน ไดค์ เข้าไปทดสอบความหนึบของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ซึ่งแน่นอนว่าการสู้กันของทั้งสองคนเป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะเหมือนกับการปะทะระหว่างสองยักษ์ใหญ่ในเกมรุกกับเกมรับ

     สิ่งหนึ่งที่น่าจะทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล อุ่นใจเมื่อเห็น ฟาน ไดค์ ลงคุมแนวรับก็คือ เขาไม่เคยนำทีมแพ้ในการเล่นเกมลีกที่แอนฟิลด์ ฉะนั้นสถิตินี้ สาวก “เดอะ ค็อป” คงอยากให้มันคงอยู่ต่อไปอีกนาน


  

3. โชต้า ยังคงได้รับความไว้วางใจ

โรเบิร์ตสันกลับมาแล้ว,ฟานไดค์ดวลลูกากู!วิเคราะห์ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี 


     ผลงานของ ดีเอโก้ โชต้า คงทำให้ คล็อปป์ ยากจะดร็อปเขาออกได้ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นเขาทำหน้าที่สามประสานร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในการปะทะกับ “สิงห์บูลส์”

     โชต้า แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถรวมบทหน้าเป้าได้ดีเยี่ยมไม่มีที่ติ โดย ดาวเตะชาวโปรตุกีส เป็นพวกจมูกไว วิ่งหาพื้นที่ว่างเก่ง และมีความเฉียบคมในการจบสกอร์ นั่นทำให้เขาได้รับโอกาสก่อน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในช่วงต้นซีซั่นนี้

     ยิ่งไปกว่านั้น ดาวเตะชาวโปรตุกีส ซัดประตู 2 เกมแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และเขามีโอกาสที่จะได้เป็นนักเตะคนที่ 4 ที่สามารถยิงประตูให้กับต้นสังกัด 3 แมตช์ติดต่อกัน โดยก่อนหน้านี้มีเพียง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (1994-95), แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (2013-14) และ มาเน่ (2017-18) ที่เคยทำได้

     แน่นอนว่าสถิติเหล่านี้อาจจะไม่ใช่ประเด็นหลักของ โชต้า แต่มันคงจะทำให้เขาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน และความมุ่งมั่นในการยิงประตู เชลซี ให้ได้ เพราะหากเขาทำได้ในแมตช์ต่อๆ ไป คล็อปป์ คงจะไว้วางใจให้ลงเล่นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง 

4.  มาเน่ ของแสลงสำหรับ เชลซี 

โรเบิร์ตสันกลับมาแล้ว,ฟานไดค์ดวลลูกากู!วิเคราะห์ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี 


     แม้ว่า คล็อปป์ จะมีแนวรุกให้เลือกใช้งานทั้ง โชต้า, ซาลาห์ และ ฟีร์มีโน่ ก็ตาม แต่สำหรับ มาเน่ บอกเลยว่า กุนซือชาวเยอรมัน ควรจะต้องส่งเขาลงสนามตั้งแต่นาทีแรก เพราะนี่คือผู้เล่นที่ยิงประตูในเกมพบ เชลซี มากที่สุดของสโมสรในเวลานี้ 

     จากการแข่งขันในทุกรายการ ดาวเตะชาวเซเนกัล ตะบันไป 7 ประตูจาก 17 เกมในแมตช์ที่ต้องเจอกับ เชลซี โดยมีเพียงแค่เกมที่พบกับ คริสตัล พาเลซ (12 ประตู) และ แอสตัน  วิลล่า (8 ประตู) ที่ มาเน่ ยิงประตูได้เยอะกว่าในช่วงระหว่างที่ทำมาหากินในอังกฤษ

     ดังนั้น มาเน่ จึงเป็นผู้เล่นที่ทำให้แนวรับของทีมเยือนต้องระวังอย่างมาก เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเล่นด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้แสดงออกมาให้เห็นจากฟอร์มในช่วง 2 แมตช์แรกของซีซั่นนี้ 

     ถ้าหาก อดีตดาวเตะ “นักบุญ” เซาธ์แฮมป์ตัน สามารทำให้ตัวเองมีชื่อเป็นผู้ทำประตูได้สำเร็จในแมตช์นี้ ไม่เพียงแค่เป็นการเพิ่มสถิติความโหดเวลาที่ดวลกับเชลซีเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเขามากยิ่งขึ้นด้วย 

5. แผงมิดฟิลด์พลังขับเคลื่อนของ ลิเวอร์พูล 

โรเบิร์ตสันกลับมาแล้ว,ฟานไดค์ดวลลูกากู!วิเคราะห์ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี 


     ในแผงมิดฟิลด์ถือว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความสำคัญมากๆ ของ ลิเวอร์พูล เนื่องจากพวกเขาจะได้ ฟาบินโญ่ คืนกลับสู่ทีมตัวจริงอีกครั้ง หลังจากสภาพจิตใจน่าจะกลับมาเป็นปกติจากการที่ต้องสูญเสียคุณพ่อไปแบบไม่ทันตั้งตัว

     จริงๆ แล้ว  คล็อปป์ มีผู้เล่นในแดนกลางให้เลือกใช้งานหลายคน แต่นักเตะที่จะทำให้หน้าโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ ได้ดีไม่มีที่ติสำหรับ คล็อปป์ ก็คือ ฟาบินโญ่ เท่านั้น และงานนี้เขาน่าจะได้กลับมาลงสนามเคียงข้าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม “หงส์แดง” 

     ส่วน  ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่ฟอร์มร้อนแรงเหลือเกินในสองเกมแรก อาจจะต้องเป็นตัวสำรอง เพราะแมตช์นี้มีความตึงเครียดสูงมาก ฉะนั้น คล็อปป์ คงเลือกผู้เล่นที่มีประสบการณ์อย่าง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, นาบี เกอิต้า หรือ ติอาโก้ อัลกันทาร่า เป็นตัวจริง

     สำหรับตำแหน่งนี้มีความสำคัญมากๆ เพราะถ้าแดนกลางของ “เดอะ เร้ดส์” สามารถดับรัศมีของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ จอร์จินโญ่ ได้ งานนี้มีโอกาสที่พวกเขาจะปราบทีมของกุนซือโธมัส ทูเคิ่ล ได้เลยทีเดียว


 ทอมเม้ง

โรเบิร์ตสันกลับมาแล้ว,ฟานไดค์ดวลลูกากู!วิเคราะห์ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี 

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร

Add friend ที่ @Siamsport

เพิ่มเพื่อน