เงื่อนไขเดียว! หงส์ต้องชนะ ไร้ทางเลือกจัด3ประสานประจัญบานเบิร์นลี่ย์ ‘ขุนค้อน-ไก่’ดิ้นต่อลุ้นชิงโควตาตะลุยยุโรป – หนังสือพิมพ์แนวหน้า

วันพุธ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันพุธนี้ 3 เกมสำคัญในการรลุ้นไปตะลุยฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี ที่เพิ่งโกงตายบุกชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน มาได้ในวินาทีสุดท้ายของเกม 2-1 จะเล่นเกมเยือนอีกครั้งด้วยการไปลุยถิ่นเทิร์ฟ มัวร์ ของ เบิร์นลี่ย์ เวลา 02.15 น.

เจอร์เก้น คล็อปป์ ทางเลือกในการจัดทีมเริ่มน้อยลงเพราะ ดีโอโก้ โชต้า อ็อปชั่นสำคัญในเกมรุกเจ็บต้องพักในซีซั่นนี้ไปแล้ว แต่กุมชะตาการลุ้นท็อปโฟร์อยู่ในมือตัวเอง ข้อแม้ก็คือต้องเอาชนะเกมที่เหลือให้ได้ทั้งหมดในสองเกมต่อจากนี้ เกมนี้คาดว่าจะยึดแกนหลักชุดเดิมเปลี่ยนแค่จุดเดียวคือการส่ง จอร์จินโญ่ไวจ์นัลดุม ลงไปคุมแดนกลางร่วมกับ ฟาบินโญ่ และธีอาโก้อัลคันทาร่า ทำให้ เคอร์ติส โจนส์ ต้องหลุดไป แนวรุกใช้โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่ เป็นสามประสานเหมือนเดิม

เจ้าถิ่น เบิร์นลี่ย์ เพิ่งพ่ายคารังให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด แบบหมดสภาพนักศึกษา 0-4 แต่กุนซือ ฌอน ไดซ์ ยังยืนยันเต็มที่ทุกเกมที่เหลือแม้ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว นัดนี้ไม่มี ร็อบบี้ เบรดี้ และเควิน ลอง ที่มีอาการบาดเจ็บ ในรายของ นิค โป๊บ นายด่านมือหนึ่งยังไม่ฟิต ทำให้ ไบลีย์ พีค็อก-ฟาร์เรลล์ ยังคงได้ลงเฝ้าเสาต่อไป ที่เหลือไม่มีใครบาดเจ็บ ยึดแผนการเล่นเดิม 4-4-2 นำโดย จอช บราว์นฮิลล์, แจ็ค คอร์ก, แอชลีย์ เวสต์วู้ด, ดไวท์ แม็คนีล, คริส วู้ด และมาเตจ์ วีดร้า

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม เบิร์นลี่ย์ (4-4-2): ไบลีย์ พีค็อก-ฟาร์เรลล์, แมทธิว ลอว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี,ชาร์ลี เทย์เลอร์, จอช บราว์นฮิลล์, แจ็ค คอร์ก, แอชลีย์ เวสต์วู้ด,ดไวท์ แม็คนีล, คริส วู้ด และมาเตจ์ วีดร้า

ลิเวอร์พูล (4-3-3): อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, รีห์ส วิลเลี่ยมส์, แนต ฟิลิปป์ส, แอนดรูว์โรเบิร์ตสัน, ธีอาโก้ อัลคันทาร่า, ฟาบินโญ่, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม,โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม ลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่าในการดวลกัน 5 ครั้งหลังสุด ชนะ 3 เสมอ 1 แต่การเจอกันหนล่าสุดเมื่อ 21 มกราคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า เบิร์นลี่ย์ บุกไปเฉือน 1-0 หยุดสถิติไม่แพ้ใครในแอนฟิลด์ของ “หงส์แดง” เอาไว้ที่ 68 เกม อีกทั้งการเจอกันเมื่อซีซั่นก่อนก็เป็นการเจอกันนัดที่ 37ของฤดูกาลเหมือนกับปีนี้ ก็เสมอกัน 1-1 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสชนะในบ้านทั้งซีซั่นอย่างเจ็บแสบ

ขณะที่ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ต้องชนะให้ได้ทั้งหมดในสองเกมที่เหลือ และลุ้นให้ทีมอื่นที่เบียดๆ กันมาแพ้ให้หมด จะบุกไปเยือน “เดอะ แบ๊กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนที่ตกชั้นไปแล้ว

เกมนี้ เดวิด มอยส์ กุนซือเวสต์แฮม รอเช็คความฟิตมานูเอล ลานซินี่ และอาร์ตูร์ มาซูอากู ข่าวดีคือการได้ เดแคลน ไรซ์หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาพร้อมช่วยทีม คาดว่าจะได้คุมแดนกลางร่วมกับ โทมัส ซูเช็ค แนวรุกวาง จาร์ร็อด โบเว่นประสานงานกับ เจสซี่ ลินการ์ด, ซาอิด เบนราห์ม่า โดยมี มิคาอิลอันโตนิโอ ยืนหน้าเป้า

เจ้าถิ่นนั้น สปิริตทีมยังยอดเยี่ยมเล่นเต็มร้อยเสมอเกมนี้ไม่มีสองผู้เฒ่า บรานิสลาฟ อีวาโนวิช และโรเบิร์ตสน็อดกราสส์ ที่มีอาการบาดเจ็บ มีแววว่า แซม อัลลาไดซ์ต้องเลือกทีมชุดเดิม พร้อมส่งกองหน้าร่างใหญ่อย่าง เอ็มบานดิอักเน่ ลงมาค้ำหอก มี กราดี้ เดียงกาน่า, แมตต์ ฟิลิปป์ส และมาเตอุส เปเรยร่า ทำเกมสนับสนุน

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด เวสต์แฮม ชนะ ได้ 2 เสมอ 2 และเวสต์บรอมวิช ชนะ 1 เจอกันในฤดูกาลนี้ที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม “ขุนค้อน” เฉือน 2-1

อีกคู่ที่น่าสนใจในการลุ้นไปยุโรป เวลาเที่ยงคืน “ไก่เดือยทอง”ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ในทางทฤษฎียังพอมีลุ้นคว้าอันดับ 4 อยู่แต่ต้องลุ้นให้ทีมที่เบียดกันมาแพ้หมด จะเปิดบ้านเจอกับแอสตัน วิลล่า

นัดนี้ สเปอร์ส ไม่มี เบน เดวีส์ และแซร์ก โอริเย่ร์ สองฟูลแบ๊กที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ จาเฟ็ต ทานกานก้า จะได้ลงประจำการแบ๊กขวาต่อไป ตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไร ไรอัน เมสันจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โจวานี่ โล เซลโช่ คุมแดนกลางร่วมกับ ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบี๊ยค แนวรุกใช้ แกเร็ธ เบล, เดเล่ อัลลี่ และซน ฮึง มิน เป็นสามประสานอยู่ด้านหลังหน้าเป้า แฮร์รี่ เคน

ทีมเยือน “สิงห์ผงาด” ที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว เกมล่าสุดบุกไปนำ คริสตัล พาเลซ ถึงสองครั้งสองครา แต่สุดท้ายแพ้3-2 นัด ยังไม่มี แมตตี้ แคช และมาห์มู้ด ฮัสซาน เทรเซเกต์ที่บาดเจ็บ อาห์เหม็ด เอล โมฮามาดี้ จะได้รับโอกาสลงเล่นต่อไปในรายของ แจ็ค กรีลิช สภาพร่างกายยังไม่สมบูรณ์เต็ม 100 ทำสองนัดที่ผ่านมาของถูกส่งลงสำรอง น่าจะได้ลงตัวจริงทันที ประสานงานเกมรุกกับ แบร์กตรองด์ ตราโอเร่ และโอลลี่ วัตกิ้นส์

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม สเปอร์ส ไม่แพ้ให้กับแอสตัน วิลล่า ในการเจอกัน 6 ครั้งหลังสุด แถมยังเป็นการเอาชนะได้ทั้ง 6 ครั้งด้วย