เติมสีสันในจาน! กลุ่มสีอาหารมากประโยชน์ เพิ่มภูมิต้านทานได้ตลอดชีวิต

น่าสนุกไม่น้อยเลยนะคะ ที่เราจะได้เลือกสีอาหารที่แตกต่างกันมาผสมอยู่ในจานอาหารเดียวกัน นอกจากจะสนุกแล้วยังได้รู้อีกด้วยว่าผัก ผลไม้เหล่านี้ ที่แบ่งตามกลุ่มสีมีประโยชน์อย่างไร?

กลุ่มสีอาหารเสริมภูมิ เพิ่มความสนุกสีสัน ให้มื้ออาหาร

  • อาหารสีเขียว ผักผลไม้ที่มีสีเขียวมีสารสำคัญ เช่น คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll), แคโรทีนอยด์ (Carotenoid),ลูทีน (Lutein),ซีแซนทีน (Zeaxanthin) อาทิ
    • แอปเปิ้ลสีเขียว
    • ต้นบรอกโคลี
    • คะน้า
    • อะโวคาโด
    • กะหล่ำปลีสีเขียว
    • แตงกวา
    • ผักโขม

เปิดตำรับยาสมุนไพรจีน! “เหลียนฮัว ชิงเวิน” แก้หวัด-ต้านโควิด19

กลุ่มอาหารลด อาการท้องอืด ขับลม อาหารไม่ย่อย เพิ่มประสิทธิภาพลำไส้ให้สมดุล

  • อาหารสีแดง ที่ล้วนอุดมไปด้วย ไลโคปีน (Lycopene),เบตาไซซีน (Betacycin),เควอซิทิน (Quercetin),เฮสเพอริดิน (Hesperidin)และสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin)ฯลฯ ตัวอย่างผลไม้และผักสีแดง เช่น
    • สตรอว์เบอร์รี่
    • เชอรี่
    • แครนเบอร์รี่
    • ราสเบอร์รี่
    • ทับทิม
    • องุ่นแดง
    • แตงโม
    • ดอกกระเจี๊ยบ
    • มะเขือเทศ
    • บีทรูท
    • พริกแดง
    • หอมแดง
  • อาหารที่สีม่วงและสีน้ำเงิน เต็มไปด้วยสารสำคัญ คือ แอนโทไซยานิน (Anthocyanin)และสารกลุ่มฟีนอลิก (Phenolic acid) ผลไม้และผัก ที่มีสีม่วงและสีน้ำเงิน ได้แก่
    • องุ่นสีม่วง
    • บลูเบอร์รี่
    • แบล็กเบอร์รี่
    • ลูกพรุน
    • มะเขือม่วง
    • กะหล่ำปลีสีม่วง
    • มันสีม่วง
    • ข้าวเหนียวดำ
    • ข้าวลืมผัว
  • อาหารสีเหลืองและสีส้ม อุดมด้วยสาร แคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มวิตามินเอ ,สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids),และวิตามินซี (Vitamin C) เช่น
    • ส้ม
    • กล้วย
    • เสาวรส
    • แคนตาลูป
    • มะละกอ
    • สับปะรด
    • แครอท
    • ฟักทอง
    • มันเทศ
    • ข้าวโพด
    • มันฝรั่งหวาน
    • พริกสีเหลือง
  • อาหารสีขาว ผักผลไม้ที่มีสีขาวมีสารสำคัญ คือ เบต้า กลูแคน (Beta glucan) ซึ่งพบมากในเห็ด และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids)  ผลไม้และผักที่มีสีขาวเช่น
    • ลูกแพร์
    • น้อยหน่า
    • ลิ้นจี่
    • มังคุด
    • หัวไชเท้า
    • ดอกกะหล่ำ
    • ขิง
    • กระเทียม
    • เห็ด

วิตามินต้านหวัดและโควิด19 (ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง เนื่องจากขนาดปกติที่ควรได้รับตามความต้องการต่อวันในคนสุขภาพดีนั้นแตกต่างกันออกไป)

วิตามินซี  เนื่องจากวิตามินซี ช่วยการทำงานของเม็ดเลือดขาวและช่วยกระบวนการทำลายเชื้อโรค ซึ่งสามารถได้จากอาหารและผลไม้ทั่วไป เช่น ฝรั่ง ส้ม เชอร์รี่ เบอร์รี่ต่างๆ กีวี มะขามป้อม พริกหวาน บรอกโคลี ผักคะน้า ผักปวยเล้ง เป็นต้น

  • ในเด็กอายุ 1-8 ปี ควรได้รับ 25-40 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ช่วงอายุ 9-18 ปี ควรได้รับ 60-100 มิลลิกรัมต่อวัน
  • อายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับ 85-100 มิลลิกรัมต่อวัน

วิตามินดี นอกจากช่วยดูดซึมแคลเซียมแล้ว แต่ยังมีบทบาทกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวโมโนไซต์และมาโครฟาจซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สำคัญในการช่วยลดการอักเสบ ต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่ปกติแล้วเราสามารถรับวิตามินดี ได้จากปลาต่างๆ  

  • นม
  • ไข่แดง
  • ชีส
  • ตับปลา
  • ตับสัตว์
  • เห็ด

ผักและผลไม้ลดอาการบวมโซเดียม ขับปัสสาวะ รักษาสมดุลน้ำในร่างกาย

สังกะสี มีส่วนช่วยดูแลสุขภาพผิวพรรณ ผม ขน เล็บ และระบบสืบพันธุ์แล้ว ยังมีส่วนกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวหลายชนิด การรับประทานเสริมในผู้ที่สุขภาพดี แนะนำ 15-45 มิลลิกรัมต่อวัน อาหารที่อุดมด้วยสังกะสี เช่น  

  • หอยนางรม
  • เนื้อสัตว์และเครื่องใน
  • สัตว์ปีก
  • ปลา
  • ไข่
  • นม
  • เมล็ดฟักทอง
  • ธัญพืชต่างๆ

กรดไขมันโอเมก้า 3 ปกติแล้วจะช่วยเสริมสร้างเซลล์ประสาทในสมอง จอประสาทตา เสริมสร้างการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ลดการอักเสบซ่อนเร้นที่เกิดจากความเครียด ยังมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว แนะนำให้รับประทาน 500-1,500 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งปกติเราสามารถได้รับจากแหล่งอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง ได้แก่

  • ปลาและอาหารทะเล
  • น้ำมันปลา
  • ถั่วต่างๆ
  • น้ำมันพืช

โปรตีน ช่วยสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันและสารภูมิคุ้มกันต่าง ๆ สามารถได้รับจากเนื้อสัตว์

  • ไข่ นม (พร่องหรือขาดมันเนย)
  • ชีส (เลือกชนิดที่ไขมันต่ำ)
  • เต้าหู้ ถั่วเหลือง
  • ถั่วต่าง ๆ เมล็ดพืชต่าง ๆ 

โพรไบโอติกส์ และ พรีไบโอติกส์ ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย โดยแหล่งอาหารที่ดีที่มีจุลินทรีย์สุขภาพ ได้แก่

  • โยเกิร์ตและนมเปรี้ยว
  • ธัญพืช
  • ข้าวโอ๊ต
  • ถั่วเมล็ดแห้ง
  • กล้วย
  • หัวหอมใหญ่
  • กระเทียม
  • หน่อไม้ฝรั่ง 

ทั้งนี้อาหารนับเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันแต่ปัจจัยสำคัญคือการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ สวมใส่หน้ากากอนามัย ในพื้นที่แออัด ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อช่วยเสริมภูมิห่างไกลหรือลดความรุนแรงของโรคโควิดได้ตลอดชีวิตค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช,คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

“วิตามินเสริม” จำเป็นต่อร่างกายแค่ไหน ทำไมใครๆ ก็กิน

ยา วิตามิน อาหารเสริม รู้ชัดตัวไหน “ควร – ไม่ควร” กินคู่กัน