ลิเวอร์พูล เสีย 2 แต้มอีกแล้ว แถม นูนเญซ ถูกรับน้องด้วยใบแดงอีกต่างหาก !!! – Siamsport

1 ก่อนอื่นอยากให้ดูการจัดตัวผู้เล่นของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในระบบ 4-3-3

เมื่อนักเตะตัวหลักอย่าง โฌแอล มาติ๊ป, ติอาโก้ อัลคันตาร่า และโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ถูกอาการบาดเจ็บลักพาตัวไป

ขณะที่ ดิโอโก้ โชต้า กับ อิบราฮิมาโกนาเต้ ยังไม่หายเจ็บ เช่นเดียวกับ อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

ตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คพลิกโผเล็กน้อย เพราะคิดว่า โจ โกเมซ จะได้ลงคู่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แต่กลับกลายเป็น แน็ต ฟิลลิปส์ ที่ได้ลงตัวจริงอีกครั้ง หลังจากหายหน้าหายตาไปนาน

แดนกลาง ฟาบินโญ่ ยืนตัวรับ โดยกุนซือกะโปกเหล็กเลือก เจมส์ มิลเนอร์ กับ ฮาวี่ย์ เอลเลียต ลงไปเป็นตัวขับเคลื่อน

ส่วน 3 ประสานหน่วยล่าสังหาร ดาร์วิน นูนเญซ ลงตัวจริงครั้งแรกในตำแหน่งหัวหอก ขนาบข้างด้วยขีปนาวุธอย่าง โม ซาล่าห์ กับ ลุยส์ ดิอาซ

ฝ่ายผู้มาเยือน ปาทริค วิเอร่า จัดทีมด้วยสูตร 5-4-1 ทิ้ง วิลฟรีด ซาฮา เป็นกองหน้าเพียงลำพัง ชัดเจนว่าจะเล่นอย่างไร

2 พลพรรคหงส์แดงผู้อหังการเล่นในบ้านนัดแรก แถมเกมเปิดฤดูกาลเก็บได้แค่แต้มเดียว ว่าแล้วก็เปิดเกมรุกเข้ากดดันในจังหวะโลหะมรณะภาพตามสไตล์

แน่นอน พวกเขารู้อยู่แล้วว่า คริสตัล พาเลซ จะมาไม้ไหน

เวลาบุก ผังการเล่นของ ลิเวอร์พูล จึงปรับตัวเองเป็น 2-3-5

สิ่งที่ท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมเห็นคือคู่เซ็นเตอร์ฯ ดันไลน์ขึ้นสูง ฟาบินโญ่ เป็นศูนย์กลางในตำแหน่งมิดฟิลด์ โดยฟูลแบ็ค 2 ข้างอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จะหุบเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเกมตรงกลาง แล้วดันมิดฟิลด์อีก 2 คนอย่าง ฮาวี่ย์ เอลเลียต กับ เจมส์ มิลเนอร์ ขึ้นสูงแทบจะระนาบเดียวกับกองหน้าเลยทีเดียว

ริมเส้น 2 ฝั่งมี โม ซาล่าห์ กับ หลุยส์ ดิอาซ คอยกระชากลากเลื้อย เรียกว่าต้องการบุกแบบเอาตาย !!!

3 อาคันตุกะอย่าง ‘ดิ อีเกิ้ลส์’ เน้นเกมรับแบบ ‘พาร์ค เดอะ บัส’ ด้วยการถอยไปตั้งรับในแดนอย่างเดียวแบบไม่บีบขึ้นสูงมาบดบี้ด้วยนะครับ

ง่ายๆ ว่า ‘อุด’ นั่นแหละ เพื่อปิดพื้นที่หน้าประตูตัวเองให้แน่นหนามากที่สุด

เวลารับจะตั้งด่าน 2 ชั้นเรียงกันเป็นหน้ากระดาน ตรงกลาง 4 ข้างหลัง 5 มองเห็นได้อย่างชัดเจน ก่อนสวนกลับด้วยจังหวะฉาบฉวย

นี่คือสูตรสำเร็จในการกำราบ ลิเวอร์พูล ที่ทีมศักยภาพเป็นรองนิยมนำมาใช้เวลาเจอพวกพรี่ๆ โดยไม่เว้นแม้แต่ เรอัล มาดริด

รูปแบบการเล่นไม่มีอะไรซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ คือฝ่ายหนึ่งพยายามบุกแหลกแล้วแหวกจิ๊มิ ฝ่ายหนึ่งก็อุดแหลกแบบไม่คิดชีวิตเช่นกัน

ตัดสินตรงที่ใครทำหน้าที่ได้เป๊ะกว่ากัน ผลปรากฎว่า คริสตัล พาเลซ เล่นเกมรับกันได้ดีมากจนแทบจะไม่พลาดเลย พวกเขาถอยมาคุมพื้นที่พลางช่วยกันรุม ช่วยกันซ้อนอย่างอดทน มีวินัย และใฝ่คุณธรรม

เท่านั้นไม่พอ ผู้มาเยือนยังได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับเพียงน้อยนิด

กระนั้น ลิเวอร์พูล ที่ตั้งหน้าตั้งตาบุกก็ยังอุตส่าห์หาจังหวะจบได้มากมายจนน่าจะได้อย่างน้อย 2-3 ประตูในครึ่งแรก เสียแต่ว่ายิงกันไม่คม เฉพาะอย่างยิ่งดาวยิงค่าตัว 85 ล้านปอนด์

4 ดาร์วิน นูนเญซ

นับเฉพาะครึ่งแรก หัวหอกสัญชาติอุรุกวัย นักแสดงนำชายจากภาพยนตร์อีโรติกไทยเรื่องนั้น – น้องเมียพันธุ์เอ็กซ์ มีโอกาสสับไกยิงแบบควรจะตุงตาข่ายถึง 3 ครั้ง

ไม่น่าเชื่อว่าทั้ง 3 ครั้ง ผู้รับบท ‘ช่างแอร์ในตำนาน’ ผู้นี้จะยิงปลิ้น & แป้ก มันทั้ง 3 ครั้ง !!!

มิหนำยังตบะแตกในครึ่งหลัง เมื่อเขาทำการ ‘ทรีบิวต์’ ให้อดีตดาวเตะระดับโลกอย่าง ซีเนดีน ซีดาน ด้วยการเอาหัวโขกคู่แข่งแทนที่จะโขกบอลจนสถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล เลวร้ายขึ้นไปอีก เพราะทั้งตามหลังคู่แข่ง แถมเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า

5 อย่างไรก็ตาม

ลิเวอร์พูล ที่ตัวผู้เล่นน้อยกว่าก็ยังครองเกมรุกแล้วอุตส่าห์หาทางตีเสมอจนได้นะครับ

ประตูตีเสมอเกิดจากการใช้ความสามารถเฉพาะตัวของ ลุยส์

ดิอาซ ที่ลากลูกแหวกฝูงผู้เล่นของ คริสตัล พาเลซ จากวงนอกตัดในเข้าไปกระทุ้งลูกพุ่งเสียบตาข่ายเสียงดัง…สวบบบบบ !!!

มุมหนึ่งมองได้ว่าเกมรุกของหงส์แดงยังพอมีความหลากหลาย เมื่อเจาะเข้าทำด้วยรูปแบบการเล่นไม่ได้ และใช้ลูกตั้งเตะให้เป็นประโยชน์ไม่ได้ พวกพรี่ๆ เขายังใช้ความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นประเภทตีนไฟทำประตูช่วยให้รอดตายได้

แต่อีกมุมหนึ่งก็มองได้ว่าน่าเสียดาย เพราะถ้า ดาร์วิน นูนเญซ รู้จักควบคุมอารมณ์ ไม่หลงเหลี่ยมเล่ห์ของคู่ต่อสู้ ลิเวอร์พูล มีสิทธิ์พลิกกลับมาเป็นผู้ชนะได้เลย

การถูกตะเพิดออกจากสนามของกองหน้าตัวใหม่จึงถือเป็นความเสียหาย มิซ้ำยังต้องโดนแบนอีกถึง 3 นัด อดลงเล่นในศึกแดงเดือดสัปดาห์หน้าที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด รีสอร์ท แอนด์ คาราโอเกะ

รุปว่า 2 นัดแรกของฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล เก็บได้แค่ 2 แต้มเท่านั้นในเกมที่ควรจะสะสมได้ 6 แต้มเต็ม

คิดแล้วก็ตลกดีนะครับ

สมมุติว่าเกมหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นผู้มีชัยในศึกแดงเดือด พวกเขาจะมีแต้มมากกว่า ลิเวอร์พูล ทันที

แต่มันคงเป็นไปได้ยากมากๆ เพราะการเก็บได้แค่ 2 แต้มจาก 2 เกมแรกยิ่งจะทำให้พวกพรี่ๆ เขาต้องเน้นหนักแบบ ‘เอาตาย’ ในศึกแดงเดือดเข้าไปใหญ่

และที่สำคัญคือ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้นอกจากจะไม่มีสภาพแล้วแม่งเล่นเกมรับกันไม่เป็น ดูอย่างไรก็รอดยาก ขออนุญาต…ออกตัว ฮรี่ๆๆๆๆ