มทร.รัตนโกสินทร์ วิจัยน้ำมันมะพร้าว เพิ่มมูลค่าเป็นเครื่องสำอางคุณภาพสูง – หนังสือพิมพ์แนวหน้า

วันพฤหัสบดี ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

ผศ.ดร.ธเนศวร นวลใย อาจารย์ประจำภาควิชาศึกษาทั่วไป คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล กล่าวว่า แม้มะพร้าวจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ก็ต้องประสบปัญหาความผันผวนด้านราคาอย่างมากโดยเฉพาะช่วงที่ราคาตกต่ำ จะอยู่ที่ลูกละ0.25-0.50 บาท ทำให้วิสาหกิจในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์หลายแห่งเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นมะพร้าวสกัดเย็นเพื่อเพิ่มราคา แต่ก็ยังพบปัญหาคือทุกแห่งทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นแบบเดียวกันหมด จึงได้เริ่มการวิเคราะห์เพื่อหาทางเพิ่มมูลค่า ก็พบว่าน้ำมันมะพร้าวทุกแห่งมีกรดไขมันได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน แต่มีสารประกอบฟีนอลิกในปริมาณน้อยมาก จึงได้นำกระบวนการหมักเข้ามาช่วยเสริม โดยใช้กรดเอนไซม์ 4 ตัวทั้งเซลลูเลสโปรติเอส อัลฟาอะไมเลส และวิสโคไซม์ใช้เวลาหมักประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติที่ดีขึ้นจึงเป็นที่มาของงานวิจัย “การพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผมจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพ สำหรับวิสาหกิจชุมชน 100 พันมะพร้าวไทย อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์” ขึ้นมา และผลจากการศึกษาพบว่า มะพร้าวเพื่อทำเป็นน้ำมันที่ทำให้มีกรดฟินอลิกมากขึ้น มีประสิทธิภาพในการใช้เป็นเครื่องสำอางได้มากขึ้น นำมาบำรุงเส้นผม ผิวหน้าได้เป็นอย่างดี สามารถปรับปรุงแต่งกลิ่นได้ เช่น กลิ่นซากุระกลิ่นมะลิ สามารถปรับนำมาใช้ได้หลากหลายช่วงวัย ขยายกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

ผศ.ดร.ธเนศวรกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่เลือกวิสาหกิจชุมชน 100 พันมะพร้าวไทย อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีโครงการนำร่องในการพัฒนาผลิตภัณฑ์มะพร้าวมาก่อนแล้ว ทั้งในรูปแบบครีม โลชั่นทาร่างกาย ซึ่งช่วยเพิ่มการแข่งขันทางการตลาด เพิ่มรายได้มากขึ้น ประกอบกับวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ ต้องการแบ่งเกรดน้ำมันมะพร้าวให้ชัดเจนขึ้น ทั้งชนิดที่รับประทานได้ หรือนำมาทำเป็นเครื่องสำอาง จึงได้เริ่มต้นร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นขึ้นมา เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำมาขายได้กับลูกค้าทุกวัยที่สนใจ โดยได้เข้ามามีส่วนร่วม ช่วยพัฒนาทักษะการตลาดให้กับผู้ประกอบการช่วยขายผลิตภัณฑ์ผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น เช่น การไลฟ์สด

ผ่านเฟซบุ๊ค ทำคลิปลงยูทูบ หรือขายสินค้าผ่านไลน์แอด เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายได้อีกทางหนึ่ง จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ประมาณร้อยละ 15-20 ซึ่งหลังจากนี้จะต่อยอดงานวิจัยไปสู่วิสาหกิจชุมชนแห่งอื่นในจังหวัดต่อไป


ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์หรือตัวสินค้าจากวิสาหกิจชุมชน 100 พันมะพร้าวไทย สามารถค้นหาได้ที่แฟนเพจ

เฟซบุ๊ค “วิสาหกิจชุมชน 100 พัน มะพร้าวไทย” หรือสามารถซื้อได้ที่ตลาดโอท็อปหัวหิน หรือตลาดโอท็อปจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บริเวณด้านข้างศาลากลางจังหวัด