น้าลูกอม…ก็มีเหมือนกัน

ก่อนแมนฯยูไนเต็ด ลงทำศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรก ตกเป็นข่าวอีกแล้ว

    นั่นคือลิเวอร์พูล+แมนฯยูไนเต็ด กับตัวแทนฟีฟ่า คุยกันในเบื้องต้นเรื่องแผนการจัดตั้งลีกใหม่ที่ชื่อ  European Premier League….

    หลังจาก project big picture โดนทีมในพรีเมียร์ลีกล้มแผนการณ์

    ล่าสุดมีโปรเจกต์ใหม่มาอีกแล้ว…

    สรุปสั้นๆคือว่า ฟีฟ่า จะจัดลีกขึ้นมาพร้อมมูลค่าลิขสิทธิ์ 4,600 ล้านบาท

    มีการพูดคุยกับแหล่งเงินทุนอย่าง  JP Morgan (สถาบันการเงิน, ธนาคาร) 

    หลักการคือ “ลีกยุโรป 18 ทีม” แต่เหย้าเยือนเหมือนบอลลีกทั่วไป

    เป็นทัวร์นาเม้นต์ที่จะทับซ้อนกับยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก

    นั้นหมายความว่าถ้าเป็นจริง มันคือการเทก โอเวอร์ ทัวร์นาเม้นต์ ยูฟา โดย ฟีฟา

    นักข่าวฝรั่งใช้คำว่า usurp หมายถึง ช่วงชิง กุมอำนาจแทน อะไรประมาณนี้

    เป็นคำแง่ลบอะครับ ….

    นี่พึ่งเริ่มต้น…เกิดขึ้นหรือไม่ “รอดู” เพราะกรอบเวลาของฟีฟา จะจัดให้เกิดปี 2022โน่น 

    ตอนนี้สหภาพแฟนบอลอังกฤษ “โจมตี” อย่างหนักว่า 

    เจ้าของสองสโมสรนี้”คิดเรื่องธุรกิจ” มากเกิน

    รอดูความคืบหน้า…นะครับ

    ส่วนเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่าง เปแอสเช กับ แมนฯยูฯ น่าสนใจอย่างยิ่ง

    เนยมาร์, เอ็มบัปเป, ดิ มาเรีย พลังรุกรองแชมป์ เจอกับ ปีศาจแดง ของโซลชา

    ก่อนแข่งตามหน้าเสื่อผู้สันทัดกรณีก็มองไปยังเจ้าบ้าน เปแอสเช 

    ด้วยเพราะ แมนฯยูฯ ขาดเสาหลักในเกมรับ แฮร์รี แมกไกวร์ แถมไบยี รวมทั้ง กาวานี ไม่ได้ไปปารีสด้วย…โซลชา ต้องจัดทีมของเขา

    ตามสภาพ และฟอร์มก็พึ่งมาดีนัดล่าสุด 

    ยังคงอยู่บนความไม่แน่ใจของทั้งแฟนและผู้สันทัดกรณี

    ทูเคิ่ล….ไหวมั้ย

    โทมัส ทูเคิล กำลังอยู่ในสถานะการณ์ที่ต้องบอกว่า “กดดัน”

    แหล่งข่าวจากปารีสรายงานว่า “นายใหญ่” อัล เคไลฟี ไม่แฮปปี้เท่าไหร่

    เตรียมหาตัวแทนเผื่อไว้แล้ว…แว่วๆว่าอาจอยู่ไม่ครบซีซั่น 

    แทกติกเกมนี้ของ ทูเคิล คือ  4-3-3 

    ประตู นาบาส อดีตมือกาวจากเรอัล มาดริด

    คู่เซนเตอร์ ดิยาลโล กับ คิมเพนเป้ แบ็กสองข้าง ซ้าย คูร์ซาวา ขวา ฟลอเรนซี

    กลางสามคน เอร์เรรา เด็กเก่าผี ดานิโล และ กานา เกย์ (จากทอฟฟี)

    หน้าสามคนก็ เนย์มาร์, เอ็มบัปเป้ และ ดิ มาเรีย 

    ส่วนแมนฯยูฯ นั้น…โซลชา จัดระบบ 3-4-1-2

    ตวนเซเบ-ลินเดอเลิฟ-ชอว์ ยืนเซนเตอร์สามคน 

    วิงแบ๊กซ้าย เปิดตัว อเลกส์ เตลลิส ด้านขวา วาน บิสซาก้า

    กลางรับคู่ เฟรด-แมกโทมิเนย์ โดย บรูโน กัปตันทีมเป็นตัวรุก

    หน้าคู่ แรชฟอร์ด กับ มาร์กซิยาล 

    ครึ่งแรก…ทีมโซลชา มีทรง

    รูปแบบ 3-4-1-2 ก็เหมือนกับ 3-5-2 นั่นแหละ วิงแบ๊ก 2 บวกกลางรับ 2 และกลางรุก 

    พอรับหลังเป็นห้าคนกลางสามคนถอนลงมาช่วยหน้าอีกสอง 

    วิธีการเล่นโซลชา รอเพรสแดนกลาง ไม่ไล่แดนบน 

    จากนั้นถอยต่ำลงมากองข้างล่างหน้าเขตโทษ 

    ที่เห็นชัดคือ “วินัย” ในการจัดระเบียบเกมรับ และมีรูปทรง (shape)ของทีม

    ไม่กระจัดกระจาย…ไม่มีพื้นที่ให้ สามตัวรุก เปแอสเช มากนัก

    ดูรัดกุม แน่น แมคโทมิเนย กับ เฟร็ด ใครใกล้เนย์มาร์, เอ็มบับเป้ ไล่แย่งบอลทันที

    แถมงัดลูกหนักมาตัดเกม ไม่ให้ไปง่ายๆ การเล่นดุดันในแดนกลางทำให้ เปแอสเช ทำเกมรุกไม้่ได้ ยิ่ง เนย์มาร์ กับ เอ็มบัปเป พยายามใช้ความสามารถเฉพาะตัว ยิ่งยาก

    โดนรุมสองตลอด… ถือว่าจัดการเบรกความเก่งของกองหน้าเปแอสเชได้เยอะ

    พอเล่นเกมรุก…เล่นง่าย ให้บอลแม่น บุกมาแต่ละครั้ง กดดันเปแอสเช ได้

    ที่สำคัญได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะ จุดโทษ ที่ ดิยาลโล เสียท่า

    เข้าบอลโฉ่งฉ่าง อัด มาร์กซิยาล ที่พลิกบอลร่วง…จุดโทษอยู่แล้ว

    แม้ บรูโน ยิงพลาดจังหวะแรก นาบาส เซฟ แต่เขาขยับออกมาจากเส้นก่อนชัด

    พอยิงใหม่คราวนี้มุมเดิมไม่พลาด…ประตูนำ 1-0 ยิ่งเล่นตามแผนอย่างมั่นใจ

    ผมมองว่าเกมนี้วางแผนมาดี เล่นได้ตามแผน โดยเฉพาะ “รัดกุม” และ “วินัย” 

    ในการเล่นทั้งแดนกลางและแดนหลัง …

    เป็น 45 นาทีที่ แมนฯยูฯ ใช้ความเป็นทีม ใช้แทกติกสู้ทีมที่เล่นด้วย “ความสามารถเฉพาะตัว” ของสามตัวรุก ซึ่งไม่มีพื้นที่ให้เลี้ยงมาก และหนีไม่ค่อยออก โดนพัวพันตลอด

    แนวรับทุกคนเล่นได้ดี…. วาน บิสซากา, ลุค ชอว์ ที่เคยเหวอๆ มาก่อนหน้านี้ 

    ไม่มีเกิดขึ้นง่ายๆ เล่นอย่างมีโฟกัส ตั้งใจมาก

    ครึ่งหลัง…ทูเคิล ปรับแทกติก

    ทูเคิล ถอด กานา เกย์ มิดฟิลด์ตัวรับออก แล้วส่ง มอยเซ คีน กองหน้าลงไป

    เท่ากับว่าเอาไปค้ำข้างหน้า เนย์มาร์, เอ็มบัปเป้ และดิ มาเรีย เป็นตัวสนับสนุน

    เหมือน 4-2-3-1  โดยเกมเปแอสเช กดดันมากขึ้น บีบให้แมนฯยูฯ ตั้งรับ จนไม่ได้บุก 

    แล้วก็โดนตีเสมอจากลูกเตะมุมที่มาร์กซิยาล โหม่งเข้าประตูตัวเอง น.54

    จากนั้น…ทีมโซลชา เน้นความรัดกุมมากขึ้น แต่ เปแอสเช เหมือนฉลามได้กลิ่นคาวเลือด

    โจมตีอย่างหนักเพื่อขอประตูขึ้นนำ…แต่เกมรับผีไม่เพลี่ยงพล้ำให้ง่ายๆ 

    ประเภทจะหลุดเดี่ยว และบอลตามช่อง แทบไม่เห็น 

    หลังยืนกันดี มีความรัดกุม ไม่เปิดช่องให้เลย

    จนเวลาผ่านไปถึงนาทีที่ 70 เปแอสเช เริ่มอ่อนแรง พยายามเปลี่ยนตัวลงมา

    แต่ แมนฯยูฯ ไม่เสียหายอะไรหากเสมอ จึงเล่นตั้งมั่นในแดน แล้วรอสวนกลับ

    จะได้หลายครั้ง ดีแต่ว่า นาบาส ยังเหนียวเหมือนเดิม เซฟได้

    จนเจอลูกยิงของ แรชฟอร์ด ที่คมกริบ เบียดเสาสองเข้าไปงดงาม

    เป็นประตูชัยที่มาถูกที่ ถูกเวลา….ส่งให้ทีมได้มากกว่าหนึ่งแต้มกลับบ้าน 

    ผมว่าภาพรวมๆเกมนี้แมนฯยูไนเต็ด เล่นใช้ได้ 

    ดูมุ่งมั่น, เล่นตามแทกติก, ไม่กลัวตัวรุกเปแอสเช 

    เหมือนเริ่มดีขึ้น อาจจะเป็นอย่างที่โซลชาให้สัมภาษณ์ว่า…

    “ซีซั่นของพวกเราพึ่งเริ่มต้น” …หลังถล่มนิวคาสเซิล 4-1

    เหตุผลตามการวิเคราะห์ของผมเอง..

    1 แมตช์ ฟิตเนส มาแล้ว…

    ต้องยอมรับว่าแมนฯยูฯซ้อมน้อย มีเวลาแค่ 10 วันก่อนเปิดซีซั่น

    มีอุ่นเครื่องกับวิลล่า แล้วเตะนัดแรกเลย มันดูไม่ค่อยฟิต 

    ดูสะเปะสะปะ ไร้รูปทรงไปหน่อย โดยเฉพาะนัดเตะกับสเปอร์ส

    แต่เมื่อผ่านมาถึงวันนี้ ถ้านับการเตรียมตัวซ้อมพร้อมกันวันแรก 9 ก.ย. 

    ถึงเกมล่าสุดนี้ 20 ต.ค. นี่ก็ประมาณ 6 สัปดาห์ โดยเล่นเกมไปสี่นัดในลีก 

    รวมแชมเปี้ยนส์ ลีกล่าสุด…เท่ากับได้ลงเกมและได้ฟิตเนส เพิ่มขึ้น

    ดังนั้นเกมเล่นกับเปแอสเช เห็นชัด…มีพลังวิ่งไล่บอล..แรงไม่มีตก

    แผนการณ์หยุดเปแอสเช ต้องใช้พลัง ไม่งั้น โดนหลอกล่อหัวปั่น

    แต่นี้…เนย์มาร์ และเพื่อนทำไม่ค่อยชัดนัก หนีไม่ออกเท่าไหร่ 

    2 เปแอสเช ไม่มีแผนสอง…

    คือถ้าหน้าสามคนทำอะไรไม่ได้ ก็ไม่มีเกมแบบอื่น

    ทีมพึ่ง เนย์มาร์, เอ็มบัปเป้ มากเกินไป หลายครั้งพื้นที่เกมรับผีแน่น..

    เจาะไม่ได้ เลี้ยงกินตัวก็ไม่ค่อยผ่าน เพราะเจอเข้าคนซ้อนคน

    ที่ว่างมีให้ใช้น้อย เพราะแนวรับผีไม่ขึ้นสูงมาก รักษาไลน์เกมรับดี

    3 วาน บิสซาก้า vs เอ็มบัปเป

    เกมนี้พระเอกเกมรับคนหนึ่ง ทั้งบลอค และตาม เอ็มอยู่หมัด

    หนีไม่ออก บล็อคได้หลายครั้ง ถือว่าเป็นเกมที่ดีของเขา 

    ส่วนหนึ่ง..ก็คือว่าร่างกายของเขาพร้อมมากขึ้นนั่นเอง

    4 เฟร็ด-แมกโทมิเนย์ คู่ขวัญ

    สองนัดต่อเนื่องที่เล่นด้วยกันแล้วทำหน้าที่ได้ดี 

    ก็ไม่แปลกอะไร เพราะช่วงที่สองคนนี้เล่นกลางรับ ด้วยกัน

    คือช่วงที่แมนฯยูฯ เล่นได้ดีเมื่อปีก่อน….

    ช่วยกันซ้อน ช่วยกันตัดเกม ไล่แย่งบอลจากตัวรุกเปแอสเช

    

    มีความดุดัน กัดไม่ปล่อย ทำให้เจ้าบ้านเล่นยาก

    ที่สำคัญทำให้ บรูโน ทำเกมรุกอย่างอิสระ 

    โดยเฉพาะครึ่งหลังจังหวะสวนกลับงามๆ หลายครั้ง 

    5 เตลลิส ตัวเตะลูกนิ่ง..

    อเล็กส์ เตลลิส เล่นวิงแบ๊กซ้าย เกมนี้ 

    ไม่มีอะไรบกพร่อง เล่นเข้าแผนหลังห้าได้กลมกลืน

    แถมเป็นตัวเตะมุม ทั้งซ้ายและขวา ก็ทำได้ดีพอตัว 

    ก่อนโดนเปลี่ยนออกแล้วส่ง ปอล ป๊อกบา แทนครึ่งหลัง น.67

    6 นาบาส และ เด เคอา..

    ประตูสองฝั่ง โชว์ฟอร์มเซฟ จนทำให้สกอร์ไม่ไหล

    ไม่มีใครฉวยโอกาสได้ขึ้นนำหรือได้ประตูง่ายๆ 

    จังหวะยากๆทั้งนั้นเลย…ที่ นาบาส และ เดเคอา ป้องกันได้

    ทำให้ทีมยังอยู่ในเกมการเล่น 

    บทสรุป….

    เกมนี้ให้เครดิต โซลชา ที่วางแผน 3-4-1-2 

    พร้อมวิธีการเล่นที่สยบเกมรุก เปแอสเช ลงได้

    รับมีวินัย เล่นมีทรง กลางตัดเกมได้ดี หน้าค่าตัวแพงของโลกก็ไปไม่เป็น

    พร้อมจังหวะสวนกลับอันตราย 

    ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจเพราะเปแอสไช “บ่ มิ ไก๊” 

    จนได้ประตูชนะจาก แรชฟอร์ด ยิงอย่างเฉียบขาด….

    ดูแล้ว การออกฟอร์มยอดเยี่ยมสองนัดติดต่อกันของผีแดง

    ย่อมลดความกดดันและเสียงวิจารณ์ลงได้เยอะ

    ส่วนจะต่อเนื่องขนาดไหนนั้น…รอติดตาม 

    แต่มันมีวี่แววว่าจะไปได้ดี  

    เหมือนอย่างที่ โซลชา บอกวันก่อน

    ซีซั่นของพวกเราพึ่งจะเริ่มต้น…..

    “JACKIE”