3 จุดหลักที่ คล็อปป์ ปรับได้ถูกจุดนำ ลิเวอร์พูล คืนชีพ


3 จุดหลักที่ คล็อปป์ ปรับได้ถูกจุดนำ ลิเวอร์พูล คืนชีพ

     ลิเวอร์พูล สามารถเก็บชัยชนะในเกมพรีเมียร์ลีก แมตช์แรกจาก 5 เกมหลังสุด ในแมตช์ที่บุกไล่ทุบ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมได้มีการเปลี่ยนแนวคิดทำให้ “หงส์แดง” กลับมาคืนฟอร์มอีกครั้ง

     แชมป์เก่าซึ่งพยายามที่จะทำแต้มเพื่อลุ้นคว้าอันดับท็อปโฟร์ สำหรับโควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้ ต้องเดินทางไปยังถิ่นบรามอลล์ เลน ด้วยสภาพฟอร์มที่ไม่ค่อยโสภามากนัก เพราะพวกเขาเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บ และปัญหาหลายๆ อย่างที่รุมเร้าเข้ามาพร้อมๆ กัน

     การขาดเซนเตอร์แบ็กจำเป็นอย่าง ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทำให้ คล็อปป์ ต้องใช้งาน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ กับ โอซาน คาบัค ขณะที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู อาเดรียน ได้รับโอกาส เนื่องจาก อลีสซง เบ็คเกอร์ จำเป็นต้องพักหลังจากที่ต้องสูญเสียคุณพ่อไปแบบปัจจุบันทันด่วน

     อย่างไรก็ตาม นายใหญ่ชาวเยอรมัน ได้มีการปรับแนวคิค และแท็กติกในการเล่นที่แตกต่างจากช่วยต้นปีนี้ โดยที่โดดเด่นที่สุดก็คือ 3 ประเด็นสำคัญที่ทำให้ “เดอะ เร้ดส์” กลับมาคืนฟอร์มแกร่ง ส่วนเป็นประเด็นใดบ้างลองมาพิจารณากันซะหน่อย 

ให้อิสระ โรเบิร์ตสัน ได้เล่นอย่างเต็มที่

     ไม่มีอะไรต้องสงสัยว่า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เป็นหนึ่งในสตาร์ของ ลิเวอร์พูล ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ แม้ว่าทีมจะมีฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่นับตั้งแต่คริสต์มาสปีที่ผ่านมา ก่อนจะคืนฟอร์มในแมตช์ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

     จากปัญหาเซนเตอร์แบ็กบาดเจ็บทำให้ คล็อปป์ จำเป็นต้องกำชับ ฟูลแบ็กทีมชาติสกอตแลนด์ ไม่ให้ขึ้นไปเติมเกมบุกมากนักเหมือนกับที่เขาเคยทำมาตลอด เนื่องจากจะทำให้เปิดพื้นที่ว่างเวลาที่เจ้าตัวดันเกมขึ้นสูง

3 จุดหลักที่ คล็อปป์ ปรับได้ถูกจุดนำ ลิเวอร์พูล คืนชีพ

     อย่างไรก็ตามในเกมเยือน “ดาบคู่” คล็อปป์ เลิกคิดเยอะในเรื่องการเล่นแบบระมัดระวัง โดยอนุญาตให้ โรเบิร์ตสัน ได้มีอิสระในการวิ่งขึ้นไปข้างหน้า และมีโอกาสช่วยเกมรุกของทีม ขณะที่ โอซาน คาบัค จะคอยมาทำหน้าที่ดูแลทางฝั่งซ้าย เวลาที่ ดาวเตะเลือดวิสกี้ ดันขึ้นสูง

     ฟูลแบ็กชาวสกอตติช ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในเกมเยือน บรามอลล์ เลน และเจ้าตัวได้แสดงฟอร์มการเล่นที่คุ้นเคยนั่นก็คือการเดินหน้าเล่นเกมรุกอย่างดุดัน เพราะนี่คือจุดเด่นของเขามาตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ “หงส์แดง” 

     การที่ โรเบิร์ตสัน คอยทำหน้าที่เหมือนกับผู้เล่นตำแหน่งปีก ทำให้ ซาดิโอ มาเน่ กองหน้าชาวเซเนกัล มีโอกาสได้วิ่งตัดเข้าใน และสร้างจังหวะอันตรายให้กับแนวรับของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ได้อย่างต่อเนื่อง 


ศึกษาหนึ่งในแท็กติกของ เป๊ป แล้วนำมาใช้กับทีม

     คล็อปป์ มักจะใช้เวลาในการศึกษาเกมการเล่นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาแนะนำให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พยายามเล่นในแนวทางที่คล้ายคลึงกับที่ เป๊ป กวาณ์ดิโอล่า สั่งให้ ชูเอา คันเซโล่ เล่น

     แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ ซึ่งฟอร์มไม่ค่อยโดดเด่นเลยในฤดูกาลนี้ แต่ในแมตช์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายใหญ่ชาวเยอรมัน ได้ขอให้ “เจ้าหนูเทรนต์” พยายามดันเกมขึ้นไปเล่นอยู่ในแดนกลางมากกว่าที่เขาเคยทำก่อนหน้านี้

3 จุดหลักที่ คล็อปป์ ปรับได้ถูกจุดนำ ลิเวอร์พูล คืนชีพ

     มีหลายคนที่บอกว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สามารถที่จะขยับไปเล่นในแดนมิดฟิลด์ได้เนื่องจากเขามีทักษะในการผ่านบอลที่เฉียบคม และมีศักยภาพในการทำหน้าที่บริเวณแผงมิดฟิลด์ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ คล็อปป์ ตัดสินใจลองเสี่ยงปรับแท็กติกในเกมเยือน “ดาบคู่”

     ฟูลแบ็กทีมชาติอังกฤษ ถูกจับให้เล่นในบทบาทที่คล้ายๆ กับ คันเซโล่ โดย “เจ้าหนูเทรนต์” มักจะขยับเข้าไปเล่นข้างในสนามเมื่อดันเกมขึ้นสูง เพื่อเปิดพื้นที่ให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้มีโอกาสลากเลื้อยได้อย่างอิสระ และจัดการลงโทษ เอ็นดา สตีเว่นส์ แบ็กซ้ายเชฟยู จนระส่ำระส่ายเปิดตำรารับมือไม่อยู่ 

เชื่อมั่นในตัว ฟีร์มีโน่ อยู่เสมอ

     ต้องยอมรับว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เรื่องความมั่นใจ หลังจากที่เขาทำผลงานได้น่าผิดหวังในฐานะหน้าเป้าเมื่อไม่ค่อยยิงประตูให้กับทีม แต่ในเกมกับ เชฟยู เจ้าตัวยุติฟอร์มฝืดซะทีเมื่อซัดประตูได้ แม้จะเป็นจังหวะโชคช่วยก็ตาม

     สตาร์ลูกหนังชาวบราซิเลียน มักจะทำผลงานในฐานะ “พ่อพระ” ที่คอยส่งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมยิงประตู แม้ในบางจังหวะ ฟีร์มีโน่ มีโอกาสที่จะกดประตูเองด้วยซ้ำ แต่ยังเลือกที่จะถวายพานให้เพื่อน จนทำให้ทีมพลาได้ประตูไปก็หลายครั้ง

3 จุดหลักที่ คล็อปป์ ปรับได้ถูกจุดนำ ลิเวอร์พูล คืนชีพ

     อย่างในเกมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เขามีโอกาสทองถึงสองครั้งที่จะทำประตูได้ในครึ่งแรก แต่ก็พลาดไปหมด กระนั้น คล็อปป์ ยังคงไว้วางใจ และเชื่อมั่นในศักยภาพของ “บ็อบบี้” อยู่เสมอ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ ฟีร์มีโน่ ค่อยๆ มีความมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ

     ความไว้วางใจที่ คล็อปป์ มีให้กับ ฟีร์มีโน่ ทำให้เจ้าตัวสามารถตอบแทนสิ่งเหล่านี้ด้วยการทำ 1 ประตู แม้จะเป็นจังหวะแฉลบผู้เล่นคู่แข่งก็ตาม แต่อย่างน้อยๆ ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า ดาวเตะทีมชาติบราซิล ยังคงอันตรายในแดนหน้าเสมอ


ทอมเม้ง

3 จุดหลักที่ คล็อปป์ ปรับได้ถูกจุดนำ ลิเวอร์พูล คืนชีพ

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร

Add friend ที่ @Siamsport