สงครามดอกกุหลาบ! เปิดบอลผู้ดี หงส์เช็ค’ฟานไดจ์ค’คัดท้ายบุกน้องใหม่ ‘ลูกากู’รีเทิร์น!ซบรังสิงห์บลูส์4พันล้าน – หนังสือพิมพ์แนวหน้า

วันเสาร์ ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลใหม่ 2021-22 ได้ฤกษ์เปิดสนามอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 หลังจากที่ดวลแข้งไป 1 เกมเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยจะมีการดวลแข้งกัน 7 คู่

เกมแรกที่ลงประเดิมในเวลา 18.30 น.“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด ในเกมสงครามดอกกุหลาบ โดยที่ แมนยูฯ ปีนี้เสริมทัพได้อย่างดุดันทั้ง จาดอน ซานโช่ และราฟาเอล วาราน รายหลังน่าจะยังไม่พร้อมเพราะมีข่าวเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ทำให้การเปิดตัวล่าช้า รวมถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด และอเล็กซ์เตลลิส ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วน เอดินสัน คาวานี่ และดีน เฮนเดอร์สัน ที่ไม่ฟิต นอกจากนี้ พวกที่ไปรับใช้ชาติอย่าง เอริค ไบญี่ และอาหมัด ดิยัลโล่ อยู่ในช่วงพักร้อน

คาดว่าเกมนี้จะใช้ระบบ 4-2-3-1 หัวใจหลัก คือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ยืนคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เหมือนเดิม ส่วนแผงกองกลางใช้ เนมานย่า มาติช จับคู่กับ ปอล ป็อกบาโดยมี บรูโน่ เฟอร์นานเดส บัญชาการเกมรุกขนาบข้างไปด้วย จาดอน ซานโช่ และเมสัน กรีนวู้ด โดยมี อองโตนี่มาร์กซิยาล ยืนหน้าเป้า

ทางฝั่งผู้มาเยือน “ยูงทอง” ภายใต้การคุมทีมของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ชุดนี้ที่ย้ายออกไปคือ เอซยาน อลีออซสกี้ตำแหน่งอื่นๆ ถือว่าอยู่กันครบ แบ๊กซ้ายถอยเอาสจ๊วร์ต ดัลลาส ไปเล่น เพราะตัวใหม่อย่าง จูเนียร์ ฟีร์โป้ยังไม่ฟิต เช่นเดียวกับ ดิเอโก้ ญอเรนเต้ และเจมี่แช็คเคลตัน คาดว่าจะยึดระบบการเล่นเดิม 4-5-1 โรบิน ค็อคขยับขึ้นมาเล่นมิดฟิลด์ตัวรับคอยตัดเกมอยู่หน้าแผงหลัง ปล่อยให้ มาเตอุซ คลิค คอยขับเคลื่อนเกมรุกร่วมกับโรดริโก้ โมเรโน่ ริมเส้นสองฝั่งใช้ ราฟินญ่า และแจ็คแฮร์ริสัน ที่ซื้อขาดมาจาก แมนฯซิตี้ โดยมี พาทริคแบมฟอร์ด เป็นตัวจบสกอร์

จากนั้นในเวลา 21.00 น. “สิงห์บลูส์” เชลซี เจ้าของแชมป์ยุโรป ที่เพิ่งผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ จากการดวลจุดโทษเอาชนะบียาร์เรอัล จากสเปน และล่าสุดทำการคว้าตัว โรเมลู ลูกากู หัวหอกจาก “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นสถิติค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร 97.5 ล้านปอนด์

ความพร้อมเกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล จะยึดระบบ 3-4-2-1 จอร์จินโญ่ น่าจะเบียดมัตเตโอ โควาซิซ ลงตัวจริงคุมแดนกลางร่วมกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เช่นเดียวกับ เมสัน เม้าท์ ที่จะเสียบแทน ฮาคิม ซีเย็ค ประสานงานกับ ติโม แวร์เนอร์ และไค ฮาแวร์ตซ์ ส่วน ลูกากู แม้จะเพิ่งย้ายมา แต่ในช่วงที่ผ่านมาก็เรียกความฟิตกับต้นสังกัดเก่ามาแล้ว อย่างน้อยน่าจะมีชื่อในม้านั่งสำรอง

ทางฝั่ง “ปราสาทเรือนแก้ว” เปลี่ยนแปลงทีมหลายจุดเริ่มตัวจากตัวกุนซือได้ ปาทริซ วิเอร่า ตำนานมิดฟิลด์ของ อาร์เซน่อล เข้ามาคุมทัพแทน รอย ฮ็อดจ์สัน ตัวผู้เล่นโละแข้งแก่อย่าง แกรี่ เคฮิลล์, เจมส์ แม็คคาร์ธีย์,มามาดู ซาโก้, แพทริค ฟาน อานโฮลท์ และสก็อตต์ แดนน์ออกจากทีม พร้อมดึง ไมเคิ่ล โอลิเซ่ 8 ล้านปอนด์, มาร์ค เกฮี 21 ล้านปอนด์ และ โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น เข้ามาเสริมทีม แต่ไม่มี เอเบเรซี่ เอเซ่ แนวรุกดาวรุ่งที่มีอาการบาดเจ็บข้ามซีซั่น

ทางด้าน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี ลงเล่นคู่ดึกสุดด้วยการบุกไปเยือนถิ่นแคร์โรว โรด ของ “นกขมิ้น” นอริชซิตี้ ทีมน้องใหม่หน้าเก่า ในเวลา 23.30 น. โดยเจ้าบ้านชุดนี้ยังคุมทัพโดย ดาเนี่ยล ฟาร์เค่ ที่พาทีมคว้าแชมป์ลีกรองเลื่อนชั้นขึ้นมาได้สำเร็จ ความพร้อมเกมนี้รอลุ้นว่าแข้งใหม่อย่าง มิล็อต ราชิก้า และโจชัว ซาร์เจ้นท์ สองแนวรุกที่ได้มาจากแวร์เดอร์ เบรเมน จะฟิตพร้อมหรือไม่ ซึ่งดูแล้วรายแรกน่าจะพร้อม ส่วน ซาร์เจ้นท์ เพิ่งเซ็นมาต้องให้เวลาปรับตัว คาดว่าจะเล่นในระบบ 4-2-3-1 บิลลี่ กิลมอร์ ที่ยืมมาจากเชลซี จะลงคุมแดนกลางร่วมกับ เคนนี่ แม็คลีน แนวรุกใช้ มิล็อต ราชิก้า ประสานงานกับ คีแรน โดเวลล์, ท็อดด์ แคนท์เวลล์ และตีมู ปุ๊กกี้

ฟากผู้มาเยือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซัมเมอร์นี้เสริมทัพไปเพียงแค่รายเดียวได้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ จากแอร์เบ ไลป์ซิก ค่าตัว 36 ล้านปอนด์ เกมนี้ไม่มีแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ๊กซ้ายที่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บจากเกมอุ่นเครื่อง ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เพิ่งกลับมาจากพักร้อนน่าจะยังไม่ฟิต เจอร์เก้น คล็อปป์ ใช้ระบบเดิม 4-3-3 ลุ้นเข็น เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค ที่เจ็บพักเป็นนานกว่าครึ่งปี กลับมายืนคู่กับ โฌเอล มาติ๊ป ส่วนแบ๊กซ้ายใช้ คอสตาส ซิมิกาส แผงมิดฟิลด์น่าสนใจวาง ติอาโก้อัลคันทาร่า เล่นร่วมกับ ฟาบินโญ่ และนาบี เกอิต้า โดยมีโมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่ เป็นสามประสานหน้าเดิม