หงส์ลุ้นเหนื่อย

สาวก “เดอะ ค็อป” คงยังนั่งปวดใจไม่หายกับฟอร์มการเล่นของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมรักของตัวเองหลังกลับมาโชว์ฟอร์มได้ย่ำแย่อีกครั้ง นัดล่าสุดโดน “สาลิกา” นิวคาสเซิล ทีมท้ายตารางยิงตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย

ซึ่งถือว่าเป็นการพลาดท่าโดนตีเสมอในช่วงท้ายเกมเป็นนัดที่สองติดต่อกัน หลังก่อนหน้านี้เพิ่งจะโดน “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด ยิงตีเสมอท้ายเกมเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูลก็กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งชนะมา 3 นัดติดทำให้มีความหวังที่จะลุ้นท็อปโฟร์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าอีกครั้ง

โดย 2 นัดล่าสุด ลิเวอร์พูลก็ฟอร์มไม่ได้แย่เท่าไหร่ แต่ก็ยังมีปัญหาที่เจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมันที่ยังแก้ไม่ตก

นั่นคือจังหวะการจบสกอร์ของทั้งโมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และ โรแบร์โต ฟีร์มิโน หรือแม้กระทั่ง ดิโอโก โชตา นัดกันฟอร์มฝืดแบบสุดๆ

แม้ว่า 2 นัดล่าสุด มาเนและซาลาห์จะยิงได้คนละเม็ด แต่มันก็สมควรจะยิงได้มากกว่านี้

โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่เสมอนิวคาสเซิล “หงส์แดง” มีโอกาสยิงถึง 20 ครั้ง แต่ก็ได้มาแค่ประตูเดียวเท่านั้น

เชื่อว่าแฟน “เดอะ ค็อป” คงนั่งเซ็งซาลาห์ ได้ยิงเหน่งๆไม่รู้กี่ครั้ง เช่นเดียวกับมาเนที่มีโอกาสเดี่ยวๆหลายครั้ง ก็ยิงออกซะงั้น

จนสุดท้ายโดนทีเด็ดนิวคาสเซิลช่วงท้ายเกมทำให้ทีมได้แค่เสมอเท่านั้น

บอกตรงๆ นอกจากแนวรุกที่ย่ำแย่แล้ว แต่ที่ฟอร์ม “หงส์แดง” กลับมาสะดุดอีกครั้งก็เพราะคลอปป์จับฟาบินโญกลับไปยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเคียงข้างโอซาน คาบัค ปราการหลังชาวเติร์กอีกครั้ง

ทั้งๆที่ 3 นัดก่อนหน้านี้ ฟาบิโญได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัดคือตัวตัดเกม ซึ่งเจ้าตัวก็สร้างผลงานได้ยอดเยี่ยมจนทำให้แนวรับเล่นได้ง่ายขึ้น

แต่พอเนธาเนียล ฟิลลิปส์ ปราการหลังดาวรุ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องถอยฟาบินโญมายืนปราการหลังคู่กลางอีกครั้ง

มันจึงทำให้ผลออกมาแบบนี้ เพราะไม่มีตัวชนหน้าแผงหลัง 3 เกมก่อนหน้านี้เมื่อคู่ต่อสู้มีโอกาสรุกเร็ว “หงส์แดง” ก็ยังมีฟาบิโญเป็นตัวคอยชะลอ และมีโอกาสให้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟคอยตัดเกมจังหวะสอง

แต่พอฟาบิโญมาเล่น เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ทำให้ไม่มีคนมาชะลอบอล เมื่อบอลมาถึงแผงหลังก็ต่อด้วยประตูทันที และแนวรับ “หงส์แดง” ก็ไม่ค่อยจะสู้ดีอยู่แล้ว

ผลจึงออกมาแบบนี้ใน 2 เกมล่าสุด โดยการเก็บได้ 1 แต้มในนัดล่าสุดทำให้ “หงส์แดง” กำลังตกอยู่ที่นั่งลำบากในการลุ้นไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในซีซันหน้า หลังตอนนี้มีคะแนนตามหลัง “สิงห์บลู” เชลซี ที่รั้งอันดับ 4 อยู่ถึง 5 คะแนนและเหลือการแข่งขันอีก 5 นัดด้วยกัน

โดยนัดต่อไป ลิเวอร์พูลจะต้องออกไปเยือนของแข็งอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงที่ฟอร์มกำลังฮอต

ซึ่งถ้าหากลิเวอร์พูลสามารถบุกมาเก็บ 3 แต้มเหนือ “ปิศาจแดง” ได้ โอกาสยังได้ลุ้นบอลยุโรปต่อ

แต่ถ้าหากแพ้แมนฯ ยูไนเต็ดในเกมนัดต่อไป

โอกาสแม้กระทั่งจะไปเล่นยูฟ่า ยูโรปา ลีก ก็คงจะไม่มี!!

มะระหวาน