“ซิโก้” ไขคำตอบ เวียดนามคุมโควิดอย่างไร แฟนบอลถึงเข้าชมได้เป็นหมื่นคน

สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ยังคงน่าเป็นห่วง ซึ่งส่งผลให้การแข่งขันฟุตบอลในช่วงโค้งสุดท้ายในประเทศไทย ต้องแข่งขันแบบไม่มีแฟนฟุตบอล แต่ขณะเดียวกัน ที่ฟากฝั่งของเวียดนาม สถานการณ์การแข่งขันฟุตบอลที่นั่น ได้รับความนิยมอย่างมาก ส่วนสำคัญคือ กระแสความตื่นตัวของฟุตบอล วี-ลีก และบุคคลที่ถือว่ามีส่วนสำคัญ คือ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่สามารถยกระดับการแข่งขันได้แบบก้าวกระโดด

“ซิโก้” ได้เปิดเผยเรื่องราวที่สำคัญของการแข่งขันฟุตบอล วี-ลีก ที่ในขณะนี้มาตรฐานจัดการแข่งขันแทบไม่ต่างจากไทยลีก พร้อมทั้งชื่นชมมาตรการป้องกันโควิด-19 ของประเทศเวียดนาม ผ่านทางบทสัมภาษณ์ในสื่อของ Sport Hero โดยมีเหตุการณ์สำคัญดังนี้ 

ไม่กี่ลีกในโลกให้แฟนเข้าชมเต็มสนาม 

“ก่อนอื่นต้องบอกว่า พี่เคยให้สัมภาษณ์ไว้แล้วว่า เวียดนามน่าจะเป็นไม่กี่ลีกในโลก ที่สามารถให้คนเข้าชมฟุตบอลได้เต็มสนาม มาตรการสาธารณสุขของเขาเข้มงวดและรวดเร็วมาก”

เราจะเห็นว่า จากเกมวี-ลีก ที่ฮองอันห์ยาลาย เล่นในบ้านพบกับ ฮานอย เอฟซี เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา แฟนฟุตบอลเข้าไปให้กำลังใจ “ซิโก้” เต็มความจุสนาม “เปรกู สเตเดี้ยม” จำนวน 7,000 ที่นั่ง อีกทั้งแฟนฟุตบอลยังมาเข้าคิวรอซื้อตั๋วกันจำนวนมาก ส่วนสำคัญก็คือ แฟนฟุตบอลเหล่านี้เอง ก็มีความมั่นใจในมาตรการโควิด-19 ของประเทศของเขาด้วย 

มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด

โค้ช “ซิโก้” กล่าวด้วยว่า มาตรการที่เวียดนามนั้น ค่อนข้างรวดเร็ว เพราะถึงแม้ว่า ประเทศเวียดนามจะผ่านสถานการณ์โควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมาแล้ว 3 ระลอก แต่ก็สามารถควบคุมได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้ทุกภาคส่วนกลับมาทำธุรกิจได้ตามปกติ หนึ่งในนั้น ก็คือ ธุรกิจฟุตบอลที่ได้รับความนิยมจากแฟนฟุตบอลอย่างมาก

“อย่างในช่วงระลอกที่สองที่ดานัง ตอนนั้นมีนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อแล้วแพร่กระจาย ตอนนั้นติดเชื้อประมาณวันละ 40-50 คน เขาก็เลือกล็อกเมืองเป็นจุดๆ แล้วก็ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถควบคุมได้”

“ขณะที่ระลอกล่าสุด มีผู้ติดเชื้อกลับมาจากญี่ปุ่น ที่เมือง “หายเยือง” ทางตอนเหนือของเวียดนาม ก่อนขะขยายวงไปที่ประมาณ 100 คนที่ติดเชื้อ ในช่วงนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะล็อกดาวน์เมืองนั้นแล้วถ้าขยายไปเมืองอื่นๆ ก็ล็อกดาวน์เมืองนั้นเพิ่ม ก็ใช้เวลาไม่นานก็ควบคุมได้ โดยมีคนติดเชื้อรวมกันทั้งประเทศประมาณ 700 คน”

This image is not belong to us

“วินัย” สิ่งสำคัญของการอยู่รอด

“รัฐบาลของเวียดนามยังได้ออกกฎที่เข้มงวดเช่นมาตรการติดตามตัว อย่างเวลาไปในสถานที่สำคัญ ก็จะมีมาตรการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเหมือนเมืองไทย แต่จะมีเจ้าหน้าที่คุมเข้มให้กรอกข้อมูล ถ้าไม่มีแอปฯ ก็จะต้องกรอกข้อมูลที่ตรงนั้นเลย โดยตัวแอปก็จะตรวจสอบได้ว่าไปที่ไหนมาบ้าง แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่ก็จะจับกุมทันที ถือว่าเข้มงวดมากในเรื่องนี้”

“ตอนนี้ที่เวียดนาม ผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์มาพักใหญ่แล้ว ร้านค้า, การใช้ชีวิต, การท่องเที่ยวทำได้ปกติ แต่รัฐบาลก็ยังกำชับให้สวมหน้ากาก อย่างในช่วงที่ต้องมีล็อกดาวน์เมือง ประชาชนของเมืองนั้นก็จะปิดบ้านอยู่แต่ในบ้านตัวเองไม่ออกไปไหน อย่างตอนนั้นเมืองยาลาย มีคนติดเชื้อแค่คนเดียว แต่ประชาชนก็ปฏิบัติตามมาตรการไม่ออกไปปาร์ตี้นอกบ้านหรือพบปะกันเลย ก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้เขาคุมโรคได้เร็ว

เขาล็อกพื้นที่เร็วมาก แล้วพอหลังครบกำหนด 14 วันหรือ 21 วัน ถ้าพื้นที่นั้นไม่มีคนติดเชื้อ เขาก็เปิดพื้นที่ให้คนมาทำมาค้าขายกันอย่างรวดเร็ว”

This image is not belong to us

หยุดแข่งเพื่อปลอดภัย จากนั้นรันต่อ

โค้ช “ซิโก้” กล่าวว่า ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด ฟุตบอลเวียดนามก็ตัดสินใจหยุดแข่ง ด้วยรูปแบบการแข่งขันและช่วงเวลาที่สามารถเลื่อนแข่งได้เล็กน้อย จนกระทั่ง เมื่อมั่นใจจริงๆ ฟุตบอลเวียดนามจึงกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง

“ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาด ฟุตบอลลีกเวียดนามก็ตัดสินใจหยุดการแข่งขันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พอควบคุมสถานการณ์ได้ก็ยังไม่ได้แข่งขันทันที ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากคุมสถานการณ์ได้ จึงกลับมาแข่งขันอีกครั้ง ซึ่งในช่วงแรก ก็ได้เพิ่มมาตรการบังคับใส่แมสก์เข้าชม อย่างในเมืองใหญ่ๆ ถ้าละเมิดกฎก็จะมีค่าปรับมากหน่อย เช่น ฮานอย, โฮจิมินห์ ถ้าละเมิดก็จะโดนปรับ 3 ล้านดอง ส่วนในเมืองเล็กๆ ก็จะลดระดับลงมา”

ส่วนการเข้าชมการแข่งขัน ตอนกลับมาใหม่ๆ ก็จะจำกัดแฟนบอลก่อน 20 เปอร์เซ็นต์ ก่อนเพิ่มเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อไม่มีผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง ก็เพิ่มเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ที่เข้าสนามได้”

This image is not belong to us
This image is not belong to us
This image is not belong to us

จากสาเหตุที่กล่าวมาทั้งหมด ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟุตบอลเวียดนาม เดินหน้าในยุคโควิด-19 แพร่ระบาดทั่วโลก นั่นมีที่มาจากนโยบายการควบคุมโรคที่ทำให้สถานการณ์ในประเทศถือว่าดีที่สุดในย่านอาเซียน และตอบคำถามที่ว่า เพราะอะไร ฟุตบอลเวียดนามถึงกล้าให้แฟนฟุตบอลสามารถเข้าสนามได้เต็มความจุ

ไม่แน่ว่า โมเดลของฟุตบอลลีกเวียดนาม จะเป็นโมเดลสำคัญ ที่ชาติอื่นๆ อาจต้องเรียนรู้ ในยุคที่เราเองก็ไม่รู้ว่า โควิด-19 จะหมดไปจากโลกนี้เมื่อไหร่