36 ปีที่รอคอย!! “อาร์เจนตินา” ดับฝัน “ฝรั่งเศส” ดวลจุดโทษคว้าแชมป์โลก “เอ็มบัปเป้” ได้รองเท้าทองคำ | สยามรัฐ | LINE TODAY

36 ปีที่รอคอย!! “อาร์เจนตินา” ดับฝัน “ฝรั่งเศส” ดวลจุดโทษคว้าแชมป์โลก “เอ็มบัปเป้” ได้รองเท้าทองคำ

ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่าง “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา แชมป์ทวีปอเมริกาใต้ที่หวังคว้าแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี พบกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส แชมป์เก่าที่ลุ้นเป็นทีมแรกในรอบ 60 ปี ในการป้องกันแชมป์โลกที่สนาม ลูซาอิล ไอคอนิก สเตเดี้ยม เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง True4U และ CH7

เริ่มเกมเป็น อาร์เจนตินา ที่ต่อบอลทำเกมได้อย่างหน้ากลัว และมีโอกาสจบสกอร์หลายครั้ง ขณะที่ ฝรั่งเศส ยังหาบอลไม่เจอ ได้แต่ตั้งรับและรอจังหวะสวนกลับเท่านั้น

กระทั่งนาทีที่ 20 อาร์เจนตินา มาได้จุดโทษ โดย ลิโอเนล เมสซี่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ยิงประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากนั้นอาร์เจนตินา มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 36 จากอังเคล ดิ มาเรีย ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก

เริ่มครึ่งหลัง ยังคงเป็นอาร์เจนตินา ที่ทำเกมได้ดีกว่า ฝรั่งเศส อย่างเห็นได้ชัด แม้จะมีการแก้เกมมาแล้วก็ตาม โดยตลอดทั้งเกมนักเตะอาร์เจนตินาพยายามวิ่งไล่กดดันฝรั่งเศสตลอดทั้งเกม จนอดีตแชมป์โลก ทำอะไรไม่ได้ กระทั่งนาทีที่ 78 ฝรั่งเศสมาได้จุดโทษ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สังหารไม่พลาด ไล่ตามมาเป็น 2-1 จากนั้นอีก 2 นาที ฝรั่งเศสตีเสมอเป็น 2-2 จากคนเดิมคีลิยัน เอ็มบัปเป้ นำเป็นดาวซัลโว 7 ประตู ก่อนหมดเวลา ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

เริ่มครึ่งแรกช่วงต่อเวลาพิเศษ เป็นฝรั่งเศสที่ทำได้ดีกว่า อาร์เจนตินา ที่พยายามพาบอลบุกกดดันอย่างหนัก แต่ยังทำอะไรกันไม่ได้ หมดครึ่งแรกช่วงต่อเวลาพิเศษ เสมอ 2-2

เริ่มครึ่งหลัง เป็นอาร์เจนตินา ที่บุกใส่อย่างหนัก และมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 จากลิโอเนล เมสซี่ กระทั่งช่วงท้ายเวลา คีลิยัน เอ็มบัปเป้ มายิงจุดโทษตามตีเสมอสำเร็จ เป็น 3-3 และเป็นแฮตทริกของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ในเกมนัดชิงชนะเลิศ และนำเป็นดาวซัลโว 8 ประตู จากนั้นทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมเสมอกัน 3-3 ต้องไปดวลลูกจุดโทษวัดดวงกัน และเป็นอาร์เจนตินา ที่ยิงประตูได้แม่นกว่าคว้าแชมป์ไปครอบครองได้สำเร็จ ในรอบ 36 ปี

รายชื่อ 11 นักเตะที่จะลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้ออกมาแล้ว ดังนี้

อาร์เจนตินา (4-3-1-2) : เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ – นาอวล โมลีน่า, คริสเตียน โรเมโร่ (ลิซานโดร มาร์ติเนซ), นิโกลัส โอตาเมนดี้, นิโกลัส ตาญาฟีโก้ – โรดรีโก้ เด ปอล, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – อังเคล ดิ มาเรีย – ลิโอเนล เมสซี่, ฮูเลียน อัลวาเรซ

ฝรั่งเศส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส – ฌูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ – โอเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์ – อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

ผู้ตัดสิน : ซีมอน มาร์ซีเนียค (โปแลนด์)