วันเสาร์ ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.
การแข่งขันฟุตบอลลีกยุโรป กลับมาดวลแข้งกันอีกครั้ง ในวันเสาร์นี้ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีเกมใหญ่2 คู่ ในเวลา 23.30 น. “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ซิตี้ เปิดบ้านดวลกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงและว่าที่แชมป์
เจ้าบ้าน “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 ของตาราง หากรักษามาตรฐานผลงานได้ดีมีโอกาสสูงจะได้โควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก เกมนี้ยังไม่มี เจมส์ จัสติน และฮาร์วีย์ บาร์นส์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ในรายของ เจมส์ แมดดิสัน และริคาร์โด้ เปเรยร่า ต้องรอเช็คความฟิต คาดว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยึดแผนเดิม 3-5-2 วีลฟรีด เอ็นดิดี้ กับ ยูรี ทีเลมานส์ คุมเกมแดนกลาง โดยมี เคเลซี่อีเฮียนาโช่ ที่กำลังฟอร์มแรงประสานงานกับ เจมี่ วาร์ดี้ ในแดนหน้า
“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงที่ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดแชมป์คงไม่หนีจากพวกเขา เกมนี้ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า ได้ทีมชุดสมบูรณ์ไม่มีนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเลย หลักๆ น่าจะเลือกจัดทีมตามความสดของนักเตะเพราะผู้เล่นหลายคนเพิ่งผ่านการรับใช้ทีมชาติมา โดยระบบการเล่นยังเป็น 4-3-3 เหมือนเดิม โรดรี้ คอยทำหน้าที่ตัดเกมและเก็บบอล ปล่อยให้ อิลคาย กุนโดกัน และเควิน เดอ บรอยน์ คอยเชื่อมเกม แนวรุกเลือก ริยาด มาห์เรซ, กาเบรี่บล เฮซุส และราฮีม สเตอร์ลิ่งเป็นสามประสาน
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-1-2): แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, คักลาร์โซยุนคู, จอนนี่ อีแวนส์, เวสลีย์ โฟฟาน่า, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ยูรี ทีเลมานส์, วีลฟรีด เอ็นดิดี้,ทีโมธี กาสตานเญ่, เจมส์ แมดดิสัน, เจมี่ วาร์ดี้ และเคเลซี่ อีเฮียนาโช่
แมนฯซิตี้ (4-3-3): เอแดร์ซอน โมราเอส,ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, ชูเอากานเซโล่, เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน,ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เฮซุส และราฮีม สเตอร์ลิ่ง
สถิติการพบกันทั้งสองทีม 5 ครั้งหลังสุดไม่เคยจบด้วยผลเสมอ แมนฯซิตี้ เอาชนะได้ 3 ครั้งและเลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 2 โดยการเจอกันเกมแรกของซีซั่นนี้ “จิ้งจอก” บุกไปถล่มถึง เอติฮัต 5-2 จากแฮททริกของ เจมี่ วาร์ดี้
ทางด้าน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เปิดสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม เจอกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี ในเวลา 02.00 น. นัดนี้ อาร์เซนอล รอเช็คความฟิตของ บูกาโย่ ซาก้า ที่ถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษ รวมไปถึง เอมิล สมิธ โรว์ ส่วน มาร์ตินโอเดการ์ด ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย กลับมาฟิตทันสำหรับเกมนี้ ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร มิเกล อาร์เตต้าใช้สูตรเดิม 4-2-3-1 โธมัส ปาร์เตย์ และกรานิตชาก้า คุมแดนกลาง แนวรุกมีแววเข็น บูกาโย่ ซาก้าลงเล่นร่วมกับ โอเดการ์ด และปีเตอร์-เอเมอริคโอบาเมยัง โดยมี อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ ยืนหน้าเป้า
ทีมเยือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ล่าสุดรั้งอันดับ 7 ของตารางมีความหวังเล็กๆ กับการแย่งท็อปโฟร์ เกมนี้ยังมีปัญหาเหมือนเดิมคือบรรดาแข้งที่บาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค,โจ โกเมซ, โฌเอล มาติ๊ป และจอร์แดน เฮนเดอร์สันในรายของ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ รอเช็คความฟิต หากลงไม่ได้ ดีโอโก้ โชต้า จะประสานงานกับ ซาดิโอมาเน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในแนวรุก ส่วนแผงมิดฟิลด์ ฟาบินโญ่ ได้กลับมาเล่นในตำแหน่งที่พวกเองถนัดขนาบข้างไปด้วย ธิอาโก้ อัลคันทาร่าและจอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม อาร์เซนอล (4-2-3-1) : แบรนด์ เลโน่, เอคตอร์ เบเญริน, ดาวิด ลุยซ์, กาเบรียล มากัลเญส, คีแรน เทียร์นีย์,โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาก้า, บูกาโย่ ซาก้า, มาร์ตินโอเดการ์ด, ปีแอร์-เอเมอริค โอบาเมยัง และอเล็กซองดร์ ลากาแซตต์
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์,เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แนต ฟิลลิปส์, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ธิอาโก้อัลคันทาร่า, ฟาบินโญ่, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม,โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า และซาดิโอ มาเน่
สถิติการพบกันทั้งสองทีม 5 ครั้งหลังสุดกลายเป็น อาร์เซนอล ที่ทำได้ดีกว่าชนะ 2 เสมอ 2และลิเวอร์พูล ชนะ 1 เจอกันในซีซั่นนี้มาแล้ว 3 ครั้งลิเวอร์พูล ชนะในเกมลีก 3-1 ส่วนอีก 2 เกมเสมอในเวลาก่อนจะดวลจุดโทษแพ้ไปทั้งสองรายการ (คอมมิวนิตี้ ชิลด์ และคาราบาว คัพ)
ทางด้านศึกบิ๊กแมทช์ บุนเดสลีกา เยอรมนี เป็นการล่าท้าบัลลังก์แชมป์ระหว่าง “กระทิงเปลี่ยว” แอร์เบ ไลป์ซิก เปิดบ้านดวลกับ “เสือใต้” บาเยิร์นมิวนิค ในเวลา 23.30 น.
เกมใหญ่ของบอลเมืองเบียร์ “กระทิงเปลี่ยว”แอร์เบ ไลป์ซิก ที่รั้งรองจ่าฝูงของตารางลงเล่นเป็นเจ้าถิ่นเกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน เควิน แคมเปิล มิดฟิลด์คนสำคัญที่ติดโทษแบน ขณะที่ มาร์เซล ฮัลเตนแบร์ก มีปัญหาเกี่ยวกับ โควิด-19 ไม่รู้ว่ากักตัวครบกำหนดหรือยัง ที่ต้องเช็คฟิตคือ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, อังเคลิโญ่ และโดมินิค โซบอสซ์ไลที่เหลือพร้อมทั้งหมด นำโดย ไทเลอร์ อดัมส์,มาร์เซล ซาบิตเซอร์, ดานี่ โอลโม่, คริสโตเฟอร์ เอ็นคูนคู และเอมิล ฟอร์สเบิร์ก
ทีมเยือน “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ที่นำจ่าฝูงหากเกมนี้ชนะพวกเขาจะทิ้งเพิ่มไปเป็น 7 คะแนนแต่ ฮานซี่ ฟลิ๊ค ต้องเจอปัญหาในการจัดทัพไม่สามารถใช้บริการของ อัลฟอนโซ่ เดวีส์ และเยโรม บัวเต็ง ที่ติดโทษแบนทั้งคู่ แถมยังต้องมาเสีย โรเบิร์ตเลวานดอฟสกี้ ที่ไปบาดเจ็บจากการรับใช้ทีมชาติโปแลนด์อีก ทำให้ต้องปรับโฉมกันพอสมควรเบนฌาแม็ง ปาวาร์ และลูก้าส์ แอร์กนองเดซ ต้องออกสตาร์ทตัวจริง แดนกลางยังใช้คู่เดิมคือ โยชัว คิมมิช และเลออน กอเร็ตซ์ก้า มี คิงสลีย์ โกมาน, โธมัส มุลเลอร์ และเลรอย ซาเน่ คอยทำเกมรุก พร้อมดัน แซร์ก นาบรี้ ไปยืนหน้าเป้า
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม แอร์เบ ไลป์ซิก(3-4-2-1) : เปตาร์ กูลาคชี่, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, วิลลี่ออร์บัน, อิบราฮิม่า โกนาเต้, นอร์ดี้ มูคิเล่, ไทเลอร์อดัมส์, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, อมาดู ไฮดาร่า, ดานี่โอลโม่, คริสโตเฟอร์ เอ็นคูนคู และเอมิล ฟอร์สเบิร์ก
บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอลนอยเออร์, เบนฌาแม็ง ปาวาร์, นิคลาส ซือเล่, ดาวิดอลาบา, ลูก้าส์ แอร์กนองเดซ, โยชัว คิมมิช,เลออน กอเร็ตซ์ก้า, คิงสลีย์ โกม็อง, โธมัส มูลเลอร์,เลรอย ซาเน่ และแซร์ก นาบรี้