9 ผู้พิชิตบัลลงดอร์หากโลกฟุตบอลไร้ซึ่งเมสซี่&โรนัลโด้ – บทความฟุตบอลต่างประเทศ

เมื่อลิโอเนล เมสซี่ พลาดไม่ได้เข้าชิง และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตกที่นั่งตัวสำรองที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่นอนว่า เราจะได้เห็นผู้ที่ชนะรางวัลบัลลงดอร์เป็นครั้งแรกในปี 2022 นี้

         หลังจากหลายปีที่ลิโอเนล เมสซี่ และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ครองรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้ที่เจ้าของบัลลงดอร์ในปี 2022 นี้จะเป็นหน้าใหม่ โรนัลโด้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงหลังจากทำประตูสูงสุดให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่เจ้าตัวกำลังตกที่นั่งลำบากภายใต้ผู้จัดการคนใหม่อย่างเอริค เทน ฮาก ทำให้โอกาสในการคว้าบัลลงดอร์ตัวที่ 6 ของเขาน้อยลง ขณะที่ เมสซี่ ที่คว้ารางวัลนี้มา 7 ครั้ง ไม่ได้รับการเสนอชื่อหลังทำผลงานในฤดูกาลแรกในฐานะนักเตะปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต่ำกว่ามาตรฐาน บัลลงดอร์ 12 จาก 13 ครั้งหลังสุดตกเป็นของเมสซี่และโรนัลโด้ โดยลูก้า โมดริช เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่เบียดแทรกเข้ามาคว้ารางวัลนี้ได้ในปี 2018 ตอนนี้เราจะพาไปดูว่า จาก 13 ครั้งดังกล่าว ใครที่ควรจะได้รางวัลบัลลงดอร์ถ้าไม่มีเมสซี่หรือโรนัลโด้

2008 – เฟร์นันโด ตอร์เรส

         ย้อนกลับไปในปี 2008 เฟร์นานโด ตอร์เรส ได้รับการยกย่องให้เป็นหมายเลข 9 ที่ดีที่สุดในโลก ดาวเตะชาวสเปนทำประตูชัยให้กับประเทศของเขาในนัดชิงชนะเลิศยูโร 2008 และเกือบจะทำได้เกิน 15 ประตูต่อฤดูกาลให้ลิเวอร์พูลถึง 3 ฤดูกาลติดต่อกัน แน่นอนว่าปัญหามาจากผู้เล่นที่เขาต้องต่อสู้ด้วย 24 ประตูในลีกในฤดูกาล2007-08 นั้นน้อยกว่า 31 ประตูของโรนัลโด้ และสตาร์ชาวโปรตุเกสก็จบฤดูกาลในฐานะแชมป์พรีเมียร์ ลีก และแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในขณะเดียวกันเมสซี่ทำได้ห้าประตูจากหกเกมแชมเปี้ยนส์  ลีกในฤดูกาล 2008-09  ในขณะที่เขาและบาร์เซโลน่าของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ถีบตอร์เรสร่วงไปอยู่อันดับ 3 ด้วยคะแนนห่างมากกว่า 100 คะแนน แม้ว่าจะเป็นโรนัลโดที่ได้อันดับหนึ่งไปครอง

2009 และ 2011 – ชาบี

         ปัญหาเกี่ยวกับสมมติฐานเรื่องการไม่มีเมสซี่และโรนัลโด้ไม่ได้หายไปจากเรา แน่นอนว่าฟอร์มของเมสซี่ในบาร์เซโลน่ามีส่วนไม่น้อยต่อเพื่อนร่วมทีมที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของเขา และยังสามารถติด 1 ใน 3 ด้วยซ้ำ แน่นอนว่านั่นไม่ได้หมายความว่าชาบี ไม่ได้ดีที่สุดในเวลานั้น มิดฟิลด์รายนี้เป็นนักเตะคนสำคัญของสเปนและบาร์เซโลน่า และมีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกและยุโรปของประเทศ รวมถึงความสำเร็จของสโมสรภายใต้การคุมทีมของกวาร์ดิโอล่า ชาบีติดท็อป 3 ของรางวัลดังกล่าว 3 ครั้งระหว่างปี 2009 ถึง 2011 โดยจบอันดับตามหลังอันเดรส อิเนียสต้า เพื่อนร่วมสโมสรและเพื่อนร่วมทีมชาติในปี 2010 แม้ว่าในปี 2011 เขาจะเป็นอันดับ 3 ด้วยคะแนนโหวตน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์


2010 และ 2012 – อันเดรส อิเนียสต้า

         อันเดรส อิเนียสต้า ถูกปฏิเสธรางวัลแม้ว่าจะทำประตูชัยในฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศและเล่นให้กับหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21 หากนั่นไม่ได้บอกคุณถึงความยากของการแข่งขันรายการนี้ ทั้งหมดที่เราทำได้คือชี้ให้เห็นถึงความจริงที่ว่า ปาสกัล แฟร์เร บรรณาธิการนิตยสาร ฟร้องซ์ ฟุตบอล ถึงขั้นต้องขอโทษดาวเตะชาวสเปนที่พลาดเกียรติยศส่วนตัวรางวัลนี้ “สำหรับเรา (อิเนียสต้า) ไม่ใช่แค่ผู้เล่นคนนึง” แฟร์เร กล่าว “ความเอื้ออาทร, การเล่นเพื่อทีม และการเห็นแก่ประโยชน์ผู้อื่นของเขา ทำให้เขาพลาดการได้รับการจดจำอันสวยงาม (รางวัลบัลลงดอร์)” มิดฟิลด์รายนี้ซึ่งย้ายออกจากบาร์เซโลน่าไปค้าแข้งกับวิสเซล โกเบ ในปี 2018 มีรายชื่อติดท็อป 3 ในปี 2012 หลังมีบทบาทสำคัญในรายการชิงแชมป์ยุโรปของสเปน ในโอกาสนั้น เขาเข้าใกล้กับรางวัลมากๆ โดยที่โรนัลโด้ทำได้ 60 ประตูในฤดูกาล 2011-12 และเมสซี่ทำไปถึง 73 ประตูในฤดูกาลเดียวกัน

2013 – ฟร็องค์ ริเบรี่

         “ผมไม่ได้เศร้า แต่มันเจ็บหัวใจ” ฟร็องค์ ริเบรี่ กล่าวหลังจากพลาดบัลลงดอร์ ในปี 2013″ “อย่าเข้าใจผมผิด ผมภูมิใจที่ได้อยู่ตรงนั้น” “ผมรู้สึกว่าผมสมควรได้รับรางวัลนี้” เขากล่าวต่อ “มีการเมืองมากมาย” ริเบรี่เป็นคีย์แมนของบาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาล 2012-13 โดยช่วยให้ยอดทีมแห่งบุนเดสลีกาคว้าทุกถ้วยรางวัล รวมถึงแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย นั่นยังไม่เพียงพอสำหรับการจบสองอันดับแรก แม้ว่าจะมีคะแนนโหวต 23 เปอร์เซ็นต์ แต่คะแนนของเขาก็ใกล้เคียงกับสองอันดับแรกมากๆ

2014 – มานูเอล นอยเออร์

         คุณไม่ได้ตาฝาด หากไม่ใช่สำหรับโรนัลโด้และเมสซี่ เราคงได้เห็นผู้รักษาประตูคว้าบัลลงดอร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เลฟ ยาชิน ในปี 1963 ปี 2014 เป็นช่วงที่มานูเอล นอยเออร์ สร้างความจดจำต่อสาธารณะในฐานะผู้รักษาประตู มือกาวทีมชาติเยอรมันรายนี้คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับบาเยิร์น มิวนิค ในปี 2013 และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ในอีก 12 เดือนต่อมา ขณะที่ยอดทีมแห่งบาวาเรียคว้าแชมป์ลีกโดยทำแต้มเหนืออันดับ 2 ถึง 19 คะแนนในฤดูกาล 2013-14 เหนือสิ่งอื่นใด เขาเป็นผู้รักษาประตูชุดที่เยอรมนีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก โดยเสียแค่ 4 ประตูจาก 7 นัด เขาเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของการลงคะแนนบัลลงดอร์ แต่โรนัลโด้เป็นผู้ชนะในปีนั้น

2015 และ 2017 – เนย์มาร์

         ในปี 2015 และ 2017 ก็ยังคงเป็นยุคของโรนัลโด้ และ เมสซี่ เนย์มาร์ได้รับคะแนนเสียงไม่ถึงแปดเปอร์เซ็นต์ในปี 2015 แม้ว่าจะมีฤดูกาลที่น่าประทับใจควบคู่ไปกับเมสซี่ที่บาร์เซโลน่าก็ตาม ฤดูกาลนั้นเนย์มาร์ยิงได้ 39 ประตู ซึ่งรวมถึงนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก เรียกว่าน่าจะเพียงพอสำหรับอันดับสูงสุดในปีอื่นๆ แต่ไม่ใช่สำหรับในปีนี้ซึ่งนั่นบ่งบอกได้ดีถึงคุณภาพของผู้ที่อยู่ในสองอันดับแรก ดาวเตะชาวบราซิลกลายเป็นอันดับสามและห่างค่อนข้างชัดเมื่อปี 2015 เช่นเดียวกับในปี 2017 ที่เขามาในอันดับ 3 ตามหลังสองคนเดิมเช่นกัน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ตามหลังเนย์มาร์มาติดๆ แต่ไม่มีใครเข้าใกล้การท้าทายตำแหน่งของเมสซี่และโรนัลโด้ เนื่องจากทั้งคู่คว้ารางวัลบัลลงดอร์คนละ 1 สมัยในช่วงเวลาดังกล่าว

2016 – อองตวน กรีซมันน์

         อองตวน กรีซมันน์ กลายเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่แพงที่สุดในโลกเมื่อเขาย้ายออกจากแอตเลติโก้ มาดริดไปบาร์เซโลน่า ในปี 2019 อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เขาติดท็อป 3 ของบัลลงดอร์ก็คือช่วงกลางที่เขาค้าแข้งสมัยแรกในเมืองหลวงของสเปน 32 ประตูของกรีซมันน์ ในฤดูกาล 2015-16 ยังคงเป็นประตูที่สูงที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขา ในขณะที่เขาทำไป 26 ประตูในฤดูกาลต่อมา เมื่อเขาคว้าอันดับสาม ประตูของเขาพาทัพตราหมีไปถึงช่วงดวลจุดโทษเพื่อหาแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และจากแค่ท็อป 3 มันอาจจะเปลี่ยนไปอีกแบบหากแชมป์ตกเป็นของแอต.มาดริด ปี 2016 ยังเป็นปีที่กรีซมันน์ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสในศึกยูโร 2016 ที่บ้านเกิด โดยทำได้ 6 ประตู สูงสุดในทัวร์นาเมนต์ และเป็นอีกครั้งที่เขาชวดแชมป์เมื่อโปรตุเกสของโรนัลโด้เอาชนะทัพตราไก่ในรอบชิงชนะเลิศ


2019 – เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค

         หลังชัยชนะของโมดริชในปี 2018 เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เริ่มแสดงให้เห็นว่าเขามีสิทธิ์เบียดเมสซี่และโรนัลโด้ตกขอบเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ดาวเตะดัตช์แมนเป็นกุญแจสำคัญของทีมลิเวอร์พูลซึ่งคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2018-19 และกำลังจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ครั้งแรกให้กับทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ เขาไม่ได้ได้รับรางวัลบัลลงดอร์ในปีนั้น แต่เรียกว่าใกล้เคียงสุดๆ กับการได้มันมาครอบครอง เขาได้คะแนนน้อยกว่าคนที่ได้รางวัลอย่างเมสซี่แค่ 7 คะแนน ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ได้ไป 686 คะแนน ส่วนฟาน ไดจ์ค ได้  679 มาเป็นอันดับ 2 “มันเป็นปีที่น่าทึ่ง แต่มีผู้เล่นสองคนที่ค่อนข้างผิดธรรมชาติ” เซ็นเตอร์แบ็คกล่าวถึงเมสซี่และโรนัลโด้ “ดังนั้นคุณต้องเคารพในความยิ่งใหญ่นั้นด้วย ผมทำได้ใกล้เคียง แต่มีคนที่ดีกว่านิดหน่อย”

2021 – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

        หากการประกาศรางวัลบัลลงดอร์ในปี 2020 ไม่ได้ถูกยกเลิกท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็คงจะคว้ารางวัลนี้ไป ดาวเตะแข้งทีมชาติโปแลนด์คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก กับทีมบาเยิร์น มิวนิค ที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ และทำประตูสูงสุดในทัวร์นาเมนต์นั้นคือ 15 ประตูและ 55 ประตูรวมทุกรายการ เขายังคงทำผลงานได้ดีในปีถัดมาเช่นกัน ทำให้บาร์เซโลน่ายอมจ่ายเงินก้อนโตให้กับบาเยิร์น เพื่อใช้บริการของเขา แต่ก็เป็นเมสซี่ที่อยู่เหนือเขาหนึ่งอันดับและคว้ารางวัลไปครอง ส่วนนึงเป็นผลมาจากการมีส่วนร่วมของเขาในการเล่นให้อาร์เจนติน่าที่คว้าแชมป์โคปาอเมริกา “การที่ใกล้เคียงสุดๆ ในการแข่งขันกับเมสซี่ แน่นอนว่า ผมเคารพวิธีการเล่นของเขาและสิ่งที่เขาทำสำเร็จ” เลวานดอฟสกี้ ซึ่งจบอันดับสองรองจากเมสซี่ในปี 2021 ขณะที่จอร์จินโญ่อยู่อันดับ 3 กล่าว “ความจริงที่ว่าผมสามารถแข่งขันกับเขาได้แสดงให้ผมเห็นถึงระดับที่ผมสามารถไปถึงได้”