เข้มงวด! ส.บอลแจงกฎในแคมป์ทีมชาติ, เจอสิ่งเสพติดส่งกลับสโมสร | Goal.com ภาษาไทย

สมาคมฯ ชี้แจงเรื่องกฎระเบียบในแคมป์ทีมชาติไทย พร้อมกำชับสตาฟฟ์โค้ชเพิ่มความเข้มงวด

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชี้แจงกฎระเบียบให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ขณะเก็บตัวฝึกซ้อมกับทีมชาติไทย วางกฎเหล็กหากพบสิ่งเสพติด ส่งตัวกลับสโมสรทันที

ก่อนหน้านี้ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกมาประกาศจุดยืนชัดเจนในงานเปิดตัวผู้สนับสนุนของทีม เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2565 ว่าทีมจะไม่ส่งผู้เล่นอายุต่ำกว่า 19 ปี ของสโมสร ไปให้กับทีมชาติไทยชุดเยาวชน เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องพฤติกรรมและวินัยที่หย่อนยาน ทำให้มีปัญหาตามมาถึงสโมสรฯ

ล่าสุดหลังมีกระแสข่าวดังกล่าว ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงเรียกสตาฟฟ์โค้ชในทีม U16 และ U19 เข้ามาหารือ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกในแคมป์ทีมชาติไทย

ตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีภารกิจ ในการเตรียมทีมชาติไทย ทุกชุดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทุกการแข่งขัน นั้น

ทางสมาคมฯ ได้มีการออกกฏระเบียบไว้อย่างชัดเจน ที่นักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ชจะต้องปฏิบัติตามกฏดังนี้

1. ทำหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในทุกกิจกรรมของทีม

2 .เคารพให้เกียรติทีมงานทุกคนรวมถึงเจ้าหน้าที่ของแคมป์เก็บตัว

3. แต่งกายเรียบร้อยตลอดเวลาที่อยู่ในแคมป์ (ฝึกซ้อม, ประชุมทีม, ทานอาหาร)

4. ตรงต่อเวลาในทุกกิจกรรมของทีม

5. ห้ามใช้โทรศัพท์ในกิจกรรมของทีม (สามารถใช้ได้แค่ในห้องพักขณะพัก)

6. ผู้เล่นต้องรายงานอาการบาดเจ็บและป่วยให้ทีมแพทย์, นักกายภาพ หลังการซ้อมทุกมื้อ

*กฎสำคัญหากละเมิดจะส่งกลับสโมสรทันที

7. ห้ามออกนอกแคมป์เก็บตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นหรือไม่ได้แจ้งทีมงาน

8. ห้ามสั่งอาหารจากภายนอกหรือทานอาหารที่ทีมไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้

9. ห้ามมีสิ่งเสพติดมึนเมาทุกชนิด

10. ห้ามทะเลาะวิวาท

ทั้งนี้ด้วยกระแสข่าวที่ออกมา ทาง พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้เรียกสตาฟฟ์โค้ช รวมถึงฝ่ายเทคนิคทีมชาติทุกคนมาหารือ พร้อมกำชับสตาฟฟ์โค้ชทุกคน ที่ได้เข้าร่วมการเก็บตัวและดูแล นักกีฬาในการเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อทำการแข่งขันให้เข้มงวด ปลูกฝังทัศนคติที่ดียามที่นักกีฬามารับใช้ชาติให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในชุดเยาวชน ที่กำลังอยู่ในวัยที่ต้องมีผู้ให้คำแนะนำ เพื่อให้อยู่ในเส้นทางการเป็นนักกีฬาอาชีพต่อไปในอนาคต

โดย ซัลบาดอร์ บาเลโร่ การ์เซีย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U19 กล่าวว่า “ที่ผ่านมา เรามีการชี้แจงกฏระเบียบ สำหรับนักกีฬาตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามารายงานตัวเสมอ ในการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ร่วมกัน ทั้งยามอยู่ในสนามและนอกสนาม พร้อมทั้งบทลงโทษที่ชัดเจนหากมีการละเมิด”

“การทำงานเรานอกจากเรื่องซ้อมแท็คติก ปรับสภาพร่างกายและเพิ่มความฟิตแล้ว ทีมงานได้มีการพูดคุยกับนักกีฬาทั้งแบบกลุ่ม และแยกพูดคุยตัวต่อตัวกับนักเตะอยู่เสมอ เราพยายามยื่นมือช่วยเหลือเขาเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวต่างๆ เพื่อทุกคนได้มีสมาธิกับการซ้อมฟุตบอลมากที่สุด รวมถึงพยายามปลูกฝังเรื่องทัศนคติให้กับนักกีฬาอยู่ตลอดเวลา แต่แน่นอนว่าทั้งโค้ชและนักฟุตบอลต้องให้เชื่อใจกันและเคารพกันและกัน เพื่อยกระดับความเป็นมืออาชีพ ซึ่งหลังจากที่ได้ทราบข่าว ทางเราก็จะต้องเตรียมตัวในการเข้าสู่ทัวนาเมนต์สำคัญของทวีป อย่างเข้มงวดทุกมิติ ทั้งในและนอกสนาม”

ด้าน พิภพ อ่อนโม้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U16 กล่าวว่า “ทุกๆครั้งที่มีการเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อม เราจะเริ่มต้นด้วยการพูดคุย ตกลงกับนักเตะเพื่อแจ้งให้ทราบถึงกฎระเบียบในการเข้าแคมป์ของทีมชาติ เนื่องจากพวกเรารู้ดีว่าการทำงานในทีมชาติไทยรุ่นอายุนี้ ต้องมีความเข้าใจเรื่องของช่วงอายุ โดยเฉพาะอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการอยากรู้อยากเห็นสิ่งใหม่ๆ ซึ่งการจะเป็นนักฟุตบอลระดับที่สูงขึ้นไป จะต้องได้รับการแนะนำ และเข้าใจความคิดของนักฟุตบอลด้วย”

“ถึงอย่างไรเพื่อการเตรียมทีมสำหรับรายการสำคัญอย่างเอเอฟซี ที่จะถึงนี้ ผมได้พูดคุยกับทีมงานให้ยกระดับการทำงานให้เข้มงวด และอบรมให้ทุกคนมีความมุ่งมั่น มีวินัยกับการได้รับการเรียกติดทีมชาติ”

สำหรับทีมชาติไทยชุด U19 โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2023 รอบคัดเลือก ที่โอมาน ช่วงเดือนกันยายน ขณะที่ ทีมชาติไทย U16 จะมีโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2023 รอบคัดเลือกที่ เวียดนาม ช่วงเดือนตุลาคมนี้