จากเบสต์ถึงเบ็คแฮม : 18 สุดยอดผลผลิตอะคาเดมี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | Goal.com

GOAL คัดเลือกสุดยอดนักเตะจากผลผลิตของหนึ่งในอะคาเดมีที่ที่สร้างดาวดังให้ฟุตบอลอังกฤษมากที่สุดอย่าง แมนฯยูไนเต็ด

  • Duncan Edwards | Man Utd's 20 greatestOffside Sports

    ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์

    เอ็ดเวิร์ดส์ คือนักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลผลิตจากอะคาเดมีที่ดีสุดของ แมนฯยูไนเต็ด แต่โชคร้ายที่ต้องมาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่ มิวนิค

    เขาเล่นได้เกือบทุกตำแหน่งและเล่นได้ยอดเยี่ยมด้วย ครั้งหนึ่ง เซอร์บ็อบบี ชาร์ลตัน ตำนานนักเตะทีมชาติอังกฤษเคยยกย่องว่า เอ็ด เวิร์ดส์ คือนักเตะที่ดีกว่าเขาเสียอีก

  • เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน

    เซอร์บ็อบบี้ คือหนึ่งในนักเตะที่ดีสุดตลอดกาลของโลก เขาเป็นขุนพล แมนฯยูไนเต็ด ชุดคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนส์คัพปี 1968 รวมถึงเป็นกำลังสำคัญพาทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1966

    นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ในปี 1966 อีกด้วย

  • Nobby Stiles Bobby Charlton Manchester UnitedGetty

    น็อบบี้ สไตล์ส

    อีกหนึ่งตำนานของ แมนฯยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ ผู้มาจากผลผลิตของสโมสร

    แม้จะมีรูปร่างเล็กแต่ สไตล์ส มีการเล่นที่ดุดัน, แข็งแกร่ง เป็นกำลังหลักของปีศาจแดงในการคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนส์คัพ ปี 1968 และแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1966 กับทีมชาติอังกฤษ

  • จอร์จ เบสต์

    เบสต์ คือนักเตะที่โด่งดังที่สุดในรุ่นของเขาและเป็นตำนานของสโมสร ด้วยสไตล์การเล่นที่พริ้วไหวและภาพลักษณ์ที่มีส่วนผสมของป๊อปสตาร์กับร็อคแอนด์โรล

    เขาเป็นกำลังหลักในทีมของ เซอร์แม็ต บัสบี้ ในการช่วยปีศาจแดงไล่ล่าความสำเร็จ น่าเสียดายที่การติดแอลกอฮอล์ทำให้เขามีเส้นทางค้าแข้งที่สั้นเกินกว่าที่ควร

  • Sammy McIlroyGetty

    แซมมี แม็คอิลรอย

    แม็คอิลรอย เข้ามาอยู่กับทีมเยาวชนของ แมนฯยูไนเต็ด เมื่อปี 1969 โดยเขาเป็นนักเตะคนสุดท้ายที่ เซอร์แม็ตต์ บัสบี้ เซ็นสัญญามาร่วมทีม ก่อนจะก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ 1971 และเป็นหนึ่งในสตาร์ดังของทีมในยุค 70

  • Norman Whiteside Manchester UnitedGetty

    นอร์แมน ไวท์ไซด์

    ไวท์ไซด์ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในฟุตบอลโลก ด้วยวัยเพียง 17 ปี กับ 41 วัน เมื่อปี 1982 ทำลายสถิติของเปเล

    นอกจากนี้ยังเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ทำประตูได้ในนัดชิงชนะเลิศลีกคัพเมื่อปี 1983 และยังเป็นนักเตะอายุน้อยที่ยิงประตูได้ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ปีเดียวกันด้วย

  • Mark HughesGetty

    มาร์ค ฮิวจ์

    มาร์ค ฮิวจ์ เติบโตกับอะคาเดมีของ แมนฯยูไนเต็ด ก่อนจะก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ และถูก บาร์เซโลนา ดึงตัวไปร่วมทีม

    หลังจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เข้ามาคุมทีมเขาดึง ฮิวจ์ กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง และกลายเป็นหนึ่งในกำลังหลักในยุคแรกของเฟอร์กี้ พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 3 สมัย และ ยูโรเปี้ยนส์ ซูเปอร์ คัพ

  • Mark RobinsGetty

    มาร์ค โรบินส์

    มาร์ค โรบินส์ เป็นเด็กสร้างของ แมนฯยูไนเต็ด อย่างแท้จริง แม้จะไม่ได้โด่งดังมากแต่เขาคือนักเตะที่ได้ชื่อว่าเซฟเก้าอี้ของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไว้เมื่อปี 1990

    เขาทำประตูชัยช่วยให้ ปีศาจแดง เอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 ซึ่งช่วยให้’เฟอร์กี้’ที่กำลังจะถูกไล่ออกหากแพ้เกมนี้ได้ไปต่อ และคว้าแชมป์ได้ในบั้นปลาย และกลายเป็นจุดเริ่มต้นยุคแห่งความสำเร็จของ ยูไนเต็ด

  • ไรอัน กิ๊กส์

    กิ๊กส์ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่สุดตลอดกาลของ แมนฯยูไนเต็ด คว้าไป 25 แชมป์ตลอดอาชีพค้าแข้ง ซึ่งรวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 13 สมัย

    เขาเป็นหนึงในกำลังสำคัญในความสำเร็จของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และรับใช้สโมสรไปถึง 963 นัด

  • เดวิด เบ็คแฮม

    เบ็คแฮม คือหนึ่งในขวัญใจตลอดกาลของแฟนบอล แมนฯยูไนเต็ด ที่ประสบความสำเร็จทั้งในสนามและชีวิตนอกสนาม

    มิดฟิลด์จอมฟรีคิก เติบโตจากอะคาเดมีของปีศาจแดง ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีสุดในโลกในยุคของเขา รวมถึงได้เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษด้วย

  • Paul ScholesGetty

    พอล สโคลส์

    ครั้งหนึ่ง เป๊ป กวาร์ดิโอลา เคยยกย่อง สโคลส์ ว่าเป็น “มิดฟิลด์ที่ดีสุดในรุ่นของเขา” เช่นเดียวกับ ซีเนดีน ซีดาน ที่เรียกเขาว่า “untouchable” และ ชาบี เอร์นันเดซ ที่บอกว่าเขาเป็น “มิดฟิลด์ที่สมบูรณ์แบบ”

    สโคลส์ สามารถเปลี่ยนเกมด้วยการจ่ายบอลเพียงครั้งเดียว รวมถึงลูกยิงไกลที่หวังผลได้เสมอ โดยเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 11 สมัยในชีวิตค้าแข้ง

  • Gary Neville Manchester United Juventus 1999Getty

    แกรี เนวิลล์

    เนวิลล์ เป็นอีกหนึ่งผลผลิตอันยอดเยี่ยมของ คลาสออฟ 92 เป็นหนึ่งในแบ็คขวาที่ดีสุดตลอดกาลของสโมสร

    ฟูลแบ็คทีมชาติอังกฤษลงเล่นให้ปีศาจแดงไปถึง 602 นัด คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ในถึง 17 รายการ

  • Rio Ferdinand Wes Brown Manchester United 2008 Champions LeagueGetty

    เวส บราวน์

    บราวน์ ได้รับการจับตามองอย่างมากตอนที่ถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของ แมนฯยูไนเต็ด จากสไตล์การเล่นที่ดุดันและนิ่งเกินวัย

    อย่างไรก็ตาม ปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังทำให้เส้นทางอาชีพของเขาไปไม่สุดเท่าที่ควร แต่เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไว้ใจ และคว้าแชมป์ไปถึง 11 รายการ ซึ่งเขาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2008 ด้วย

  • ดาร์เรน เฟลทเชอร์

    อีกหนึ่งผลผลิตชั้นยอดของอะคาเดมี แมนฯยูไนเต็ด ที่ไม่ถูกพูดถึงมากนัก แต่เขามีบทบาทสำคัญอย่างมากกับทีมของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่

    เฟลทเชอร์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย และการที่เขาถูกแบนในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2009 เฟอร์กี้ ยกให้เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทีมของเขาแพ้ต่อ บาร์เซโลนา

  • Gerard Pique Manchester UnitedGetty

    เคราร์ด ปิเก้

    ปิเก้ ย้ายจาก บาร์เซโลนา มาอยู่กับทีมเยาวชนของ แมนฯยูไนเต็ด เมื่อปี 2004 และใช้เวลาไม่นานในการก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่

    แนวรับชาวสเปน อาจไม่ได้ลงเล่นให้ปีศาจแดงมากนัก แต่หลังจากย้ายกลับไป บาร์ซา เขากลายเป็นหนึ่งในกองหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอาซูลกรานา และช่วยทีมคว้าแชมป์ได้ทุกรายการ

  • ปอล ป็อกบา

    ป็อกบา โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในทีมเยาวชนของ แมนฯยูไนเต็ด ทำให้ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถึงกับหัวเสียตอนที่สโมสรปล่อยให้กองกลางรายนี้ย้ายไปร่วมทัพ ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัว

    มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ยูเว ก่อนที่ปีศาจแดงจะดึงเขากลับมาร่วมทีมอีกครั้งด้วยค่าตัว 89 ล้านปอนด์ แต่ทีมต้องเสียเขาไปแบบไร้ค่าตัวอีกครั้งในช่วงซัมเมอร์นี้ให้กับไอ้ม้าลายเช่นเคย

  • Ravel Morrison Manchester United 2011Getty

    ราเวล มอร์ริสัน

    มอร์ริสัน ได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์คนใหม่ของ แมนฯยูไนเต็ด จากผลงานอันโดดเด่นในทีมเยาวชน

    เขาได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในรุ่น แต่ปัญหาเรื่องระเบียบวินัยทำให้ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คนที่คาดหวังในตัวเขามากที่สุดตัดสินใจปล่อยตัวให้ เวสต์แฮม เมื่อปี 2012

  • Marcus RashfordGetty

    มาร์คัส แรชฟอร์ด

    แรชฟอร์ด เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ของ แมนฯยูไนเต็ด ในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล และก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองมากสุดในยุโรป รวมถึงก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษ

    แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บและการเปลี่ยนแปลงภายในทีมบ่อยครั้งทำให้ผลงานของเขายังไม่ดีเท่าที่ถูกคาดหวัง อย่างไรก็ตามในวัยเพียง 24 ปี เขายังมีเวลาในการพิสูจน์ตัวเอง โดยเฉพาะในฤดูกาลใหม่ภายใต้การทำทีมของ เอริค เทน ฮาก