ผ่าเส้นทางลูกหนัง ‘สุพร ปีนะกาตาโพธิ์’ แบ๊กขวาจอมบุก อนาคตช้างศึก

This image is not belong to us

ผ่าเส้นทางลูกหนัง ‘สุพร ปีนะกาตาโพธิ์’ แบ๊กขวาจอมบุก อนาคตช้างศึก

แฟนลูกหนังไทยที่ติดตามศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020 ในตอนนี้ คงจะได้เห็นลูกยิงไกลสวยๆ จาก “เจ้าต้าร์” สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ แบ๊กขวาจอมบุกของทัพ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่โชว์ผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ตกเป็นที่จับตามองอย่างมาก…

สำหรับ ต้าร์ เกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2538 ที่ จ.จันทบุรี ปัจจุบันอายุ 25 ปี โดยเขาเริ่มเข้าสู่วงการฟุตบอลครั้งแรก ด้วยการคัดตัวติดทีม เจเอ็มจี อะคาเดมี่ และเมื่อจบการศึกษาวิชาลูกหนังจากอะคาเดมี่แห่งนี้แล้วก็โอกาสได้เซ็นสัญญากับทีมเยาวชนของ เอสซีจี เมืองทองฯ เมื่อปี 2012 ในวัยเพียง 12 ปีเท่านั้น

สุพร ลงเล่นในนามเยาวชนของทัพ “กิเลนผยอง” รวมถึงในนามทีมโรงเรียนโพธินิมิตรวิทยาคมกวาดแชมป์ฟุตบอลระดับนักเรียนมากมาย จนกระทั่งปี 2013 ได้รับโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ด้วยการถูกคัดเลือกจากสโมสรให้เป็นหนึ่งในแข้งเยาวชนกิเลนผยอง ที่ได้ไปฝึกฝีเท้าที่ประเทศสเปน กับสโมสร “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด ยอดทีมแห่งศึกลาลีก้า สเปน เพื่อเก็บตัวฝึกซ้อมในเมืองกระทิงดุ และได้โอกาสลงเล่นให้ทีมตราหมีในฟุตบอลระดับเยาวชน ซึ่งถือเป็นการได้พัฒนาฝีมือตัวเองอย่างดี

This image is not belong to us

หลังจากที่ไปบ่มเพาะฝีเท้า ที่สเปนมา เส้นทางลูกหนังอาชีพของเจ้าต้าร์ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อฤดูกาล 2013 โดยเมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสรต้นสังกัด ได้ส่งทีมเยาวชน รุ่นอายุ 17 ปี ไปลงเล่นให้กับทีม นนทบุรี เอฟซี ในดิวิชั่น 2 ซึ่งเจ้าต้าร์ก็ถือเป็นกำลังหลักของทีมในเวลานั้น

นับเป็นจุดเริ่มต้นในการเก็บประสบการณ์ สั่งสมกระดูกการค้าแข้งอาชีพ และจากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของต้าร์ ทำให้สต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี เมื่อปลายปี 2013 เรียกตัวติดทีมชาติไทย พร้อมกับยึดตำแหน่งแบ๊กขวาตัวจริง และพาทีมผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย 2013 รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รอบสุดท้ายได้สำเร็จ

ต่อมาเมื่อปี 2014 หนุ่มเมืองจันท์รายนี้ ได้มาโชว์ฝีเท้าอยู่ที่ นครนายก เอฟซี ในดิวิชั่น 2 และเป็นกำลังหลักในการพาทีมจบอันดับ 4 ของโซนภาคกลางและตะวันออก ทำให้ต้นสังกัดที่แท้จริงอย่าง เมืองทอง เรียกตัวกลับมาสู่ทีมชุดใหญ่เต็มตัว ในช่วงเลกสองของศึกไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014

อีกทั้งในช่วงปลายปีนั้น ต้าร์ก็ติดทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 19 ปีอีกครั้ง พร้อมพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2014 และเกือบจะได้ไปฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในปี 2015 ที่ประเทศนิวซีแลนด์แล้ว แต่ดันพ่ายให้กับ อุซเบกิสถาน 1-2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้พลาดตั๋วไปฟุตบอลโลกไปอย่างน่าเสียดาย

This image is not belong to us

เมื่อประสบการณ์เริ่มมี ดีกรีเริ่มมา ทำให้ สุพร มีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่ของเมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2015 และได้ประเดิมในศึกไทยลีกนัดแรกในชีวิตกับเกมที่ เปิดบ้านชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 2-0 ขณะเดียวกัน เจ้าตัวยังเป็นกัปตันทีมเยาวชน 19 ปีของกิเลนผยอง พาทีมเถลิงแชมป์ฟุตบอลโค้ก คัพ อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการชนะคู่ปรับสำคัญอย่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศอีกด้วย!

This image is not belong to us This image is not belong to us

จากนั้นในปี 2016 จากความสามารถของเจ้าต้าร์ตอนนั้นในวัยเพียง 21 ปี ถือว่าโดดเด่น และยอดเยี่ยมเลยทีเดียว เพียงแต่ในทัพกิเลนผยองช่วงเวลานั้นเต็มไปด้วยแข้งซุปเปอร์สตาร์มากมาย โดยเฉพาะตำแหน่งแบ๊กขวาที่มี ทริสตอง โด ดีกรีทีมชาติไทย จึงเป็นเรื่องยากที่ต้าร์จะเบียดขึ้นมายืนเป็นแบ๊กขวาตัวจริงได้

ส่งผลให้เขาถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับ โปลิศ เทโร เอฟซี ในปี 2016 และปี 2017 ก่อนจะกลับมาอยู่กับ “กิเลนผยอง” ในปี 2018 ซึ่งแม้จะได้กลับมาที่สู่ถิ่นเอสซีจี สเตเดียม อีกครั้ง แต่ในฤดูกาลนั้น ต้าร์ก็มีโอกาสลงสนามเพียงแค่ 6 เกมเท่านั้น เพราะยังคงเป็นสำรองของ ทริสตอง โด อยู่

This image is not belong to us

จนกระทั่งปี 2019 ทริสตอง โด ย้ายไปอยู่กับ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แต่ สุพร ก็ยังไม่ได้โอกาสเป็นตัวจริง เพราะ “กิเลนผยอง” ได้ไปยืมตัวเด็กเก่าอย่าง “เจ้าเซฟ” ศุภนันท์ บุรีรัตน์ จากสมุทรปราการ ซิตี้ ซึ่งทำให้ ต้าร์ ยังคงเป็นสำรองอยู่เหมือนเดิมไปอีก 1 ปี โดยได้ลงสนามไปเพียง 11 เกม และในจำนวนนี้ ก็เป็นตัวสำรองถึง 4 เกมด้วยกัน

This image is not belong to us

เส้นทางลูกหนังของแบ๊กขวาชาวจันทบุรีเริ่มเฉิดฉายในฤดูกาล 2020 นี้ เมื่อเขาได้แสดงฝีเท้าให้ทุกคนเห็นแล้วว่า มีดีมากพอที่จะเป็น 11 ตัวจริงของ “กิเลนผยอง” โดยยึดตำแหน่งตัวของทีม แถมยังซัดประตูชัยสุดสวยให้ทีมได้อีกด้วย

สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ นับเป็นนักเตะแบ๊กขวาแบบยุคสมัยใหม่ ที่วิ่งขึ้นลง ฟิตแบบที่ไม่มีหมด ไล่บดเพรสซิ่งฝั่งตรงข้ามได้ดี และสามารถแก้เพรสซิ่งด้วยการจ่ายบอลเท้าสู่เท้ากับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถหุบเข้ากลางมาเชื่อมเกมได้ดี แถมยังเติมเกมรุกได้ โดยเฉพาะจังหวะสอดขึ้นมาหาพื้น และลูกยิงที่หนักหน่วง จนกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเขา

จากฟอร์มที่โดดเด่นของเจ้าต้าร์ ทำให้เขาถูก อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย เรียกเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อม ภายใต้ปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว และด้วยฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นในฤดูกาลนี้กับสโมสร เชื่อว่า “ต้า” สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ แบ๊กขวาจอมบุกของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะมีโอกาสติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ และยึดตำแหน่งตัวหลักต่อไปในอนาคตได้อย่างแน่นอน…

This image is not belong to us