วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล พบ เชลซี 28 ส.ค.64 – PPTVHD36

วิเคราะห์ พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล พบ เชลซี

ปรีวิว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2564

(3) ลิเวอร์พูล– เชลซี (2)  

สนาม : แอนฟิลด์ เวลาคิกออฟ :  23.30 น.

ผู้ตัดสิน :   แอนโธนี่ เทย์เลอร์

ผลงานการพบกันในฤดูกาลที่ผ่านมา

5 มี.ค.2564 ลิเวอร์พูล 0-1 เชลซี  (พรีเมียร์ลีก)

20 ก.ย.2563 เชลซี 0-2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

ลิเวอร์พูล

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

21 ส.ค.2564    ชนะ เบิร์นลี่ย์              2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

14 ส.ค.2564    ชนะ นอริช                 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

9 ส.ค.2564      ชนะ โอซาซูน่า           3-1 (เหย้า) อุ่นเครื่อง

ผลบอลสดวันนี้ ! พรีเมียร์ลีก “ลิเวอร์พูล” พบ “เชลซี” 23 ก.ค. 63

วิเคราะห์บอล !! บิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล พบ เชลซี 4 มี.ค. 64

วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล พบ เชลซี  28 ส.ค.64

8 ส.ค.2564      เสมอ แอธ.บิลเบา        1-1 (เหย้า) อุ่นเครื่อง

29 ก.ค.2564    แพ้ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน       3-4 (กลาง)  อุ่นเครื่อง

สภาพทีมลิเวอร์พูล

เจอร์เก้น คล็อปป์  พาทีมเก็บชัยชนะมาแล้วทั้ง 2 นัดตั้งแต่ออกสตาร์ตโดยไม่เสียคลีนชีต เกมนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายจอมบุกสลัดอาการเจ็บที่ข้อเท้า พร้อมทวงตำแหน่งคืนจาก คอสตาส ซิมิคาส ด้าน ฟาบินโญ่ กลับมาซ้อมแล้ว หลังจากเกมที่ชนะ เบิร์นลี่ย์ ไม่มีชื่อเนื่องจากคุณพ่อเสีย และพร้อมมีชื่อในเกมนี้ เช่นเดียวกับ  อเล็กซ์ อ็อกซ์เลต-แชมเบอร์เลน ที่เกมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่มีชื่อเพราะภรรยาคลอดลูก เจมส์ มิลเนอร์ แข้งจอมเก๋าสารพัดประโยชน์ยังเจ็บ เช่นเดียวกับ เคอร์ติส โจนส์ ดาวรุ่งที่ต้องรอเช็คฟิต ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น่าจะได้สตาร์ตเหมือนในสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมรุกยังใช้ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ เล่นร่วมกับ ดีโอโก้ โชต้า และ ซาดิโอ มาเน่ โดยมี โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ รอโอกาสที่ม้านั่งสำรอง

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์,โฌเอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน; ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,นาบี เกอิต้า; โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า, ซาดิโอ มาเน่

วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล พบ เชลซี  28 ส.ค.64

เชลซี

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

22 ส.ค.2564         ชนะ อาร์เซน่อล             2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

14 ส.ค.2564         ชนะ คริสตัล พาเลซ        3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

11 ส.ค.2564          เสมอ บียาร์เรอัล            1-1 (กลาง,ชนะจุดโทษ 6-5) ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ

4 ส.ค.2564            เสมอ สเปอร์ส               2-2 (เหย้า) อุ่นเครื่อง

1 ส.ค.2564             ชนะ อาร์เซน่อล            2-1 (เยือน) อุ่นเครื่อง

สภาพทีมเชลซี

โทมัส ทูเคิ่ล พาทีมเก็บชัยชนะในลีกมาทั้ง 2 นัด พร้อมกับไม่เสียคลีนชีต เกมนี้พร้อมส่ง โรเมลู ลูกากู ลงล่าตาข่ายต่อไป หลังเกมประเดิมชนะ อาร์เซน่อล นั้นทำประตูได้เลย ฮาคิม ซิเย็ค แม้สัปดาห์ที่แล้วลงช่วงท้ายเกมได้ แต่สภาพร่างกายยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย  เช่นเดียวกับรูเบน ลอฟตัส-ชีค และคริสเตียน พูลิซิช ที่ยังคงพักรักษาอาการโควิด-19 แดนกลางจะได้เห็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กลับมาฟิตสตาร์ทตัวจริง ร่วมกับ จอร์จินโญ่ ที่เพิ่งคว้ารางวัลแข้งแห่งปีของยูฟ่า ไปสดๆ ร้อนๆ  เกมฝั่งขวาซ้าย จะเป็น รีซ เจมส์ ที่กำลังฟอร์มดี และ มาร์กอส อลอนโซ่ เช่นเดิม โดยมี เมสัน เม้าน์ท กับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ทำเกมรุก

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้; เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รือดิเกอร์; รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์กอส อลอนโซ่;เมสัน เม้าน์ท, ไค ฮาแวร์ตซ์; โรเมลู ลูกากู

เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม

-พบกันในพรีเมียร์ลีก มาแล้วทั้งหมด 58 นัด  ลิเวอร์พูล ชนะ 23 เชลซี ชนะ 21 เสมอกัน 14 นัด

-ชัยชนะ 1-0 ของเชลซีที่บุกมาชนะแอนฟิลด์นัดล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเป็นชัยชนะนัดที่ 7 ของทีม “สิงห์บูลส์”ในพรีเมียร์ลีกกับลิเวอร์พูล โดยมีเพียงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเท่านั้นที่ทำได้ดีกว่า (ชนะ 12 ครั้ง)

-เชลซี ยิงได้ทั้งหมดใน 12 เกมหลังที

-12 เกมหลังทั้งในบอลลีกและบอลถ้วย ที่บุกไปเยือนที่แอนฟิลด์ มีเพียงเกมเดียวเท่านั้นที่พวกเขาทำประตูไม่ได้

-เชลซี ชนะมาแล้วทั้งหมด 599 นัดในพรีเมียร์ลีกและหากชนะอีกเกม ก็จะเป็นทีมที่ 2 ต่อจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ชนะ 600 นัดขึ้นไป

-หาก ลิเวอร์พูล ชนะในวันนี้จะกลายเป็นทีมแรก ในลีกสูงสุด ที่ชนะ 3 นัดติดกันนับตั้งแต่เกมเปิดสนาม 4 ฤดูกาลติดต่อกัน

-ลิเวอร์พูล หากชนะในนัดนี้และไม่เสียประตู จะเป็นการชนะ 3 เกมแบบไม่เสียคลีนชีท เหมือนที่เคยทำได้ในปี 2013-2014 และ ปี2018-2019

-ดีโอโก้ โชต้า จะกลายเป็นผู้เล่นคนที่ 4  ต่อจาก ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (1994-95),ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (2013-2014) และ ซาดิโอ มาเน่ (2017-2018).ที่ทำประตู 3 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล หากยิงประตูในเกมนี้ได้

-เชลซี หวังจะเก็บชัยชนะ 3 นัดติดในพรีเมียร์ลีก แบบไม่เสียคลีนชีต เป็นครั้งที่ 4 หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเคยทำมาได้แล้วในฤดูกาล 2004-2005, 2005-2006 และ 2010-2011.

-เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ที่จะอายุครบ 32 ปี ในวันนี้และหากได้ลงสนามจะเป็นเกมที่ 300 ในลีก มีเพียง จอห์น เทอร์รี่,แฟรงค์ แลมพาร์ด และ ปีเตอร์ เข็ก ที่ลงเล่นในสีเสื้อเชลซี มากกว่า อัซปิลิกวยต้า