ตลาดซื้อขายฟุตบอลในลีกยุโรป ช่วงซัมเมอร์ ทั้ง 5 ลีกใหญ่ ปิดลงไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการซื้อขายในครั้งนี้ ถือว่ามีบิ๊กดีล และซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ย้ายทีมชนิดที่วงการฟุตบอลต้องสั่นสะเทือน ย้อนไปดูกันว่ามีดีลอะไรที่น่าสนใจและเป็นที่พูดถึงกันบ้าง
ลิโอเนล เมสซี บาร์เซโลน่า ไป ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา กลายแป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ หลังอยู่กับยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน มาถึง 21 ปี สาเหตุหลักในการโยกย้าย เนื่องมาจากอุปสรรคทางการเงิน และกฎข้อบังคับของลา ลีกา ส่งผลให้ เมสซี่ ไม่สามารถหาข้อสรุปในการต่อสัญญาใหม่ในถิ่น คัมป์ นู ก่อนจะถูก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ดึงไปด้วยสัญญา 2 ปี พร้อมเงื่อนไขขยายสัญญา 1 ปี
ตลาดซื้อขายนักเตะ 5 ลีกยุโรปซัมเมอร์ มูลค่าลดลงต่อเนื่องหลังโควิดระบาด
“โซลชาร์” ใช้เงินเสริมทัพรวม 441 ล้านปอนด์
เจ้าของบัลลงดอร์ 6 สมัย วัย 34 ปี พาทีม บาร์เซโลน่า เป็น แชมป์ ลา ลีกา 10 สมัย, โกปา เดล เรย์ 7 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย ลงเล่นไปทั้งหมด 778 นัด ทำไป 672 ประตู 305 แอสซิสต์
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยูเวนตุส ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัย วัย 36 ปี ย้ายแบบสายฟ้าแลบกลับมาอยู่ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้ง ชนิดที่มี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นกุญแจสำคัญ และหวังจะเขียนตำนานบทใหม่ โดยเซ็นสัญญาเป็นเวลา 2 ปี พร้อมอ็อปชั่นขยายเพิ่มอีกปี ด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร บวกแอดออนส์ 8 ล้านยูโร
โรนัลโด้ ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาอยู่กับ ยูเวนตุส เมื่อปี 2018 ลงเล่นไปทั้งหมด 134 นัด ทำไป 101 ประตูพร้อมกับคว้าแชมป์ เซเรีย อา และ ซูเปอร์ โคปปา อิตาเลียน่า อย่างละ 2 สมัย บวกด้วย โคปา อิตาเลีย 1 สมัย
ส่วนสมัยอยู่กับ แมนเเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครั้งแรก ช่วงปี 2003-2009 โรนัลโด้ ลงเล่น 292 นัด 118 ประตู 69 แอสซิสต์ ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัย,เอฟเอ คัพ 1 สมัย,ลีก คัพ 2 สมัย,ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย ,คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย
โรเมลู ลูกากู อินเตอร์ มิลาน ไป เชลซี
ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยม วัย 28 ปี ย้ายกลับมายังในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นหนที่ 2 เพื่อพิสูจน์ตัวเอง โดย “สิงห์บูลส์” ดึงมาจาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัว 115 ล้านยูโร เป็นสถิติสโมสร พร้อมสัญญาเป็นเวลา 5 ปี
ตลอด 2 ฤดูกาล ที่ ลูกากู อยู่กับ”เนรัซซูรี่” ทำไป 47 ประตู จาก 72 เกมในเซเรีย อา ที่สำคัญในซีซั่นที่ผ่านมาเพิ่งจะพาทีม “งูใหญ่””คว้า สคูเดตโต้ เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี
อย่างไรก็ตามครั้งแรกสมัยอยู่กับ เชลซี เมื่ออายุ 18 ปี ลูกากู ลงเล่นไป 15 นัดทุกรายการ ไม่สามารถทำประตูได้ ตลอด 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ปี 2011-2014
อองตวน กรีซมันน์ บาร์เซโลน่า ไป แอตเลติโก มาดริด
ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส คืนถิ่นเก่า ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี พ่วงออฟชั่นซื้อขาด 40 ล้านยูโร ในปี 2022 ซึ่งทาง แอตเลติโก มาดริด จะจ่ายค่าเหนื่อยของนักเตะทั้งหมด
ศูนย์หน้าวัย 30 ปี เพิ่งย้ายจาก ว๋านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ มาอยู่ที่ คัมป์ นู เมื่อปี 2019 ด้วยค่าตัวสูงถึง 120 ล้านยูโร แต่ไม่สามารถทำผลงานได้ตามเป้า อีกทั้ง “บาร์ซ่า”เองกำลังมีปัญหาเรื่องการเงินด้วย ทำให้ต้องปล่อย กรีซมันน์ ออกมาเพื่อลดค่าใช้จ่าย
ในฤดูกาล 2014-2019 กรีซมันน์ ลงเล่นให้ “ตราหมี” ไป 257 นัด ทำไป 133 ประตู คว้าแชมป์ ซูเปอร์โคปา เดอ เอสปันญ่า,ยูโรป้า ลีก และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ อย่างละ 1 สมัย
เซร์คิโอ รามอส เรอัล มาดริด ไป ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
กัปตันทีม “ราชันชุดขาว” เลือกที่จะไม่ต่อสัญญา และย้ายไปอยู่กับ เปแอสเช แบบไม่มีค่าตัว ด้วยสัญญา 2 ปี ดาวเตะวัย 35 ปีดีกรีทีมชาติสเปน คว้าแชมป์ลาลีกา 5 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย และยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย ตลอดเวลา 16 ปี ในถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว โดยลงเล่นไป 671 นัด ทำได้ 101 ประตู
เซร์คิโอ อเกวโร่ แมนฯ ซิตี้ ไป บาร์เซโลน่า
ยุติเส้นทาง 10 ปีกับทีม “เรือใบสีฟ้า”ไม่ได้สัญญาฉบับใหม่จากสโมสร โดยย้ายมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า แบบไม่มีค่าตัว พร้อมสัญญา 2 ปี และถูกตั้งค่าฉีกสัญญาไว้สูงถึง 100 ล้านยูโร
กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา เป็นเจ้าของสถิติดาวซัลโตลอดกาลของแมนฯ ซิตี้ ด้วยจำนวน 257 ประตู จากการลงเล่น 384 นัดทุกรายการ นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ ซิตี้ เมื่อปี 2011 พร้อมกับคว้าแชมป์ไปไปถึง 15 รายการ คือ แชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย ลีกคัพ 6 สมัย รวมถึง คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 3 สมัย เอฟเอ คัพ 1 สมัย
แจ็ค กรีลิช แอสตัน วิลล่า ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ย้ายจาก แอสตัน วิลล่า มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์ ถือเป็นนักเตะสหราชอาณาจักรที่แพงที่สุด ทำลายสถิติเดิมของแกเร็ธ เบล ที่ย้ายจากสเปอร์ส ไปเรอัล มาดริด เมื่อปี 2013 ด้วยค่าตัว 83 ล้านปอนด์ นอกจากนี้ยังทุบสถิติค่าตัวการย้ายทีมลีกอังกฤษ ของ พอล ป็อกบา ที่ย้ายจากยูเวนตุส กลับมาเล่นให้ แมนฯยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 89 ล้านปอนด์
ดาวเตะทีมชาติอังกฤษวัย 25 ปี ที่ยังไม่เคยสัมผัสโทรฟี แบบเป็นชิ้นเป็นอัน แต่การมายังถิ่น เอติฮัต สเตเดี้ยม ก็ถือเป็นข่าวใหญ่ในตลาดรอบนี้ ซึ่งทาง เป๊ป กวาดิโอล่า ได้ซื้ออนาคต ด้วยการเซ็นสัญญา กรีลิช เป็นเวลา 6 ปี หรือถึงปี 2027
กรีลิช เติบโตมาจากทีมเยาวชน แอสตัน วิลล่า ก่อนจะขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เมื่อปี 2012 โดยลงเล่นไป 185 นัดทำไป 29 ประตู