ใครเด่น ใครดับ? ฟุตบอล ยูโร 2020 (รอบชิงชนะเลิศ) – Goal.com

  1. เด่น – จานลุยจิ ดอนนารุมมา

    ผู้รักษาประตูวัยเพียงแค่ 22 ปี คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง ด้วยฟอร์มสุดเหนียวหนึบและสุขุมเยือกเย็นเกินวัย โดยเฉพาะในนัดชิงชนะเลิศซึ่งเป็นฮีโรจัดการเซฟจุดโทษไปถึงสองครั้ง ซึ่งก็เป็นผู้สังการสองคนสุดท้ายของอังกฤษด้วยอย่าง เจดอน ซานโช และ บูกาโย ซาก้า ซึ่งนับการสถาปนาขึ้นเป็นหนึ่งในสุดยอดมือกาวของโลกลูกหนังยุคนี้โดยสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

  2. เด่น – เลโอนาร์โด้ โบนุชชี

    กองหลังจอมเก๋าวัย 34 ปี ที่นอกจากจะคุมเกมรับได้แข็งแกร่งแล้ว ยังเป็นผู้สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้ ด้วยการเติมขึ้นมายิงประตูตีเสมอให้อิตาลีในครึ่งหลัง ขณะที่ในช่วงดวลจุดโทษ ก็เป็นหนึ่งในคนที่สังหารเข้าไปไม่พลาด จนทำให้ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของนัดชิงชนะเลิศไปครอง

  3. เด่น - โรแบร์โต้ มันชินี

    Getty

    เด่น – โรแบร์โต้ มันชินี

    กุนซือวัย 56 ปี ได้รับเครดิตไปเต็ม ๆ จากการพาอิตาลีที่ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ไม่ได้ถูกคาดหมายว่าเป็นทีมเต็ง ให้สามารถก้าวมาคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ด้วยรูปแบบการเล่นเกมรุกที่ฉีกขนบเดิมของฟุตบอลสไตล์อิตาเลียนโดยสิ้นเชิง รวมถึงแม้ว่าจะไม่มีนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์อยู่ในทีม แต่เขาก็สามารถผสมผสานนักเตะจากหลากหลายสโมสรให้เข้ามารวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ดีเยี่ยม

  4. ดับ – แฮร์รี เคน

    กองหน้ากัปตันทีมตัวความหวังของอังกฤษ โชว์ฟอร์มไม่ออกโดยสิ้นเชิงในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อต้องมาดวลกับคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเขี้ยวลากดินของอิตาลีอย่าง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี และ จอร์โจ้ คิเอลลินี รวมถึงรูปแบบการเล่นของอังกฤษที่เน้นเกมรับเต็มสูบ ทำให้เขาแทบจะไม่มีโอากาสได้สับไกลุ้นยิงประตูในระยะอันตรายเลย

  5. ดับ – มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจดอน ซานโช

    สองนักเตะจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลาพิเศษ เพื่อลงมาสำหรับการดวลจุดโทษโดยเฉพาะ ทว่าดันกลับสังหารพลาดด้วยกันทั้งคู่ โดยทาง แรชฟอร์ด นั้นยิงไปชนเสา ขณะที่ ซานโช ยิงไปติดเซฟของ จานลุยจิ ดอนนารุมมา ซึ่งก็ทำให้อังกฤษต้องพ่ายแพ้ไปตามระเบียบ

  6. ดับ – แกเร็ธ เซาธ์เกต

    กุนซือวัย 50 ปี ถูกวิจารณ์มาตลอดทัวร์นาเมนต์ เรื่องการเล่นเพลย์เซฟมากเกินไป โดยเฉพาะในนัดชิงชนะเลิศที่หลังจากได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ 2 นาทีแรก พวกเขาก็เลือกที่จะเน้นเกมรับแบบเต็มสูบ จนกลายเป็นการเล่นเสียประตู ซึ่งก็โดนอิตาลีไล่ตีเสมอจนได้ ขณะที่การเปลี่ยนตัวก็น่ากังขา ทั้งการถอด ดีแคลน ไรซ์ ซึ่งถือว่ากำลังเล่นได้ดีออกไปแล้วส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาแทน

    รวมถึงการเปลี่ยนสองนักเตะอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจดอน ซานโช เพื่อลงมาดวลจุดโทษโดยเฉพาะ ซึ่งกลายเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะทั้งคู่ดันยิงพลาดเหมือนกันด้วย