ท่ามกลางความล้มเหลวของเวทีสนทนาทางการเมืองของลิเบีย (LPDF) ซึ่งล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวในลิเบียที่ถูกแบ่งออกผลของการเจรจาเมื่อวันพุธระหว่างสถาบันทางเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของทั้งสองฝ่ายต่อความขัดแย้งนั้นประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง Bloomberg รายงาน
สเตฟานีวิลเลียมส์รักษาการผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติและหัวหน้าปัจจุบันของภารกิจสนับสนุนแห่งสหประชาชาติในลิเบีย (UNSMIL) ยอมรับเมื่อวันอังคารว่า LPDF อับจนเนื่องจากการเจรจาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนล้มเหลวในการจัดตั้งหน่วยงานชั่วคราวในประเทศ ผลลัพธ์เดียวคือวันที่กำหนดสำหรับการเลือกตั้งใหม่ในเดือนธันวาคม 2021
ดังที่วิลเลียมส์ตั้งข้อสังเกตว่า UN ถูกบังคับให้จัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อเชื่อมความแตกต่างระหว่างผู้เข้าร่วมในเวทีสนทนาทางการเมืองของลิเบีย
อย่างไรก็ตามในวันพุธข่าวที่ให้กำลังใจมาจากสวิตเซอร์แลนด์ ตัวแทนจากสองสาขาของธนาคารกลางลิเบีย (แห่งหนึ่งใน Tobruk และอีกแห่งในตริโปลี) สำนักตรวจสอบกระทรวงการคลังและบรรษัทน้ำมันแห่งชาติตกลงที่จะรวมสถาบันการธนาคารและกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเดียว
สเตฟานีวิลเลียมส์ กล่าวในการแถลง ว่า “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ชาวลิเบียทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีบทบาททางการเมืองของประเทศแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญความมุ่งมั่นและความเป็นผู้นำที่คล้ายคลึงกันในการละเว้นผลประโยชน์ส่วนตนและเอาชนะความแตกต่างเพื่อประโยชน์ของชาวลิเบียเพื่อกอบกู้อำนาจอธิปไตยของประเทศและ ความชอบธรรมทางประชาธิปไตยของสถาบัน “.
ด้วยเหตุนี้เธอจึงตระหนักดีว่าเส้นทางสู่สันติภาพในลิเบียเพียงสายเดียวที่ประสบความสำเร็จนั้นอยู่ในกรอบที่กำหนดไว้ไม่ใช่โดยนักแสดงภายนอก แต่เป็นชาวลิเบียเองเนื่องจากการเจรจาเกี่ยวกับเศรษฐกิจลิเบียเริ่มต้นจากการริเริ่มอย่างกล้าหาญของ Ahmed Maiteeq รองนายกรัฐมนตรีของตริโปลี – ตามรัฐบาลแห่งชาติตามข้อตกลง
LPDF ตรงกันข้ามเป็นเพียงความคิดริเริ่มของวิลเลียมส์เองและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักแสดงชาวลิเบียหลายคน
แนวทางของ Maiteeq
หนึ่งในผลลัพธ์หลักของปี 2020 คือการเริ่มต้นใหม่ของกระบวนการสันติภาพในลิเบีย เริ่มต้นด้วยการเจรจาในมอสโกในเดือนมกราคม 2020 และการประชุมระหว่างประเทศเต็มรูปแบบในเบอร์ลินการค้นหาวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติยังคงดำเนินต่อไปพร้อมกับปฏิญญาไคโรในเดือนมิถุนายน ในที่สุดในเดือนสิงหาคมฝ่ายของความขัดแย้ง: รัฐบาลแห่งชาติตามข้อตกลง (GNA) ในตริโปลีและกองทัพแห่งชาติคาลิฟาฮาฟตาร์ของลิเบียได้หยุดยิง
อย่างไรก็ตามการริเริ่มของ Ahmed Maiteeq ทำให้เกิดแรงผลักดันที่ชัดเจนต่อกระบวนการสันติภาพ ในเดือนกันยายนเขาได้บรรลุข้อตกลงกับ Khalifa Haftar เพื่อกลับมาส่งออกน้ำมันของลิเบียและจัดตั้งคณะกรรมการร่วมซึ่งเป็นตัวแทนของทั้งสองฝ่ายของความขัดแย้งเพื่อดูแลการกระจายรายได้จากการส่งออกน้ำมันที่เป็นธรรม
ในเวลานั้น Ahmed Maiteeq ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากตัวเลข GNA จำนวนมาก คาลิดอัลมิชรีประธานสภาสูงของรัฐพยายามประณามด้วยซ้ำ เวลาแสดงให้เห็นว่าแนวทางของ Maiteeq ถูกต้อง ความคิดริเริ่มของเขาทำให้สามารถเริ่มต้นเศรษฐกิจลิเบียได้อีกครั้งเพื่อเริ่มต้นการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้อยู่อาศัยทั้งหมดในประเทศโดยไม่มีข้อยกเว้นเพื่อสร้างข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับการพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืนและเพื่อรักษาบาดแผลของสงคราม แนวทางของเขาครอบคลุม (ไม่มีใครใน GNA ไม่ต้องการพูดคุยกับ Haftar) และเป็นประโยชน์
ดังนั้น ข้อตกลง Maiteeq-Haftar ยังเป็นก้าวแรกที่แท้จริงในการรวมประเทศ มันทำให้เป็นไปได้ที่จะตระหนักถึงการรวมกันของหน่วยพิทักษ์สิ่งอำนวยความสะดวกปิโตรเลียมโดยแบ่งตามฝ่ายของความขัดแย้งในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ข้อตกลงในปัจจุบันที่จะรวมสถาบันการเงินเป็นเพียงผลทางตรรกะของข้อตกลงในเดือนกันยายนเนื่องจากน้ำมันเป็นปัจจัยหลัก แหล่งรายได้ในลิเบีย
ความพยายามของ Ahmed Maitig ได้รับการยอมรับในระดับสากล ตามรายงานล่าสุดของ Konrad-Adenauer-Stiftung (KAS) กล่าวว่า:
“ในด้านเศรษฐกิจ Ahmed Maiteeq รองนายกรัฐมนตรียังคงหาแนวทางแก้ไขเพื่อสร้างความสำเร็จที่สัมพันธ์กันของข้อตกลงในการเปิดสินทรัพย์น้ำมันของลิเบียที่ทำกับจอมพลคาลิฟาฮาฟตาร์ในเดือนกันยายน ในช่วงเดือนที่ผ่านมาMaiteeq พยายามเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่จากรัฐบาล National Accord (GNA) และรัฐบาลชั่วคราวที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเพื่อดำเนินโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจใหม่โดยมีความจำเป็นในการรวมสถาบันการเงินของประเทศเข้าด้วยกัน “
เส้นทางสู่สันติภาพ
เป็นที่น่าสังเกตว่าท่ามกลางการทะเลาะวิวาทของนักการเมืองที่ไม่สามารถตกลงกันเองได้สถาบันทางเศรษฐกิจของลิเบียกำลังพิสูจน์ให้เห็นถึงการทำสัญญาอย่างน่าทึ่ง ข้อสังเกตนี้เพียงอย่างเดียวแสดงให้เห็นว่าการแก้ปัญหาวิกฤตลิเบียส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตทางเศรษฐกิจ ข้อตกลงทางเศรษฐกิจเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการเมือง
ในทางกลับกันเจตจำนงทางการเมืองเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อผลักดันผ่านข้อตกลงทางเศรษฐกิจ ดังนั้นความสำเร็จของกระบวนการสันติภาพในลิเบียส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับว่านักการเมืองคนใดจะมีบทบาทหลัก: นักปฏิบัติที่สนใจในการรวมประเทศหรือผู้นับถือศาสนาอิสลามที่มีอุดมการณ์เข้ากันไม่ได้กับฝ่ายตรงข้าม
Ahmed Maiteeq ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักการเมืองที่เป็นกลางทางอุดมการณ์และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับธุรกิจของลิเบีย นอกจากนี้เขายังถือเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในอนาคต เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมขณะที่เข้าร่วมในเวที Mediterranean Dialogues Maiteeq ย้ำว่าเขาเต็มใจที่จะเป็นผู้นำรัฐบาลชุดต่อไปหากชาวลิเบียเลือกเขา
หากเขาหรือคนอย่างเขาได้รับอำนาจมากขึ้นกระบวนการสันติภาพในลิเบียมีแนวโน้มที่จะได้รับแรงผลักดันใหม่เพิ่มความมั่นใจให้กับชาวลิเบียทุกคนโดยไม่คำนึงถึงความผูกพันทางการเมืองของพวกเขา