โทษฐานที่แปลงร่างเป็นเครื่องจักรถล่มตาข่าย ด้วยการยิงแบบไม่ยั้งหยุดถึง 22 ประตูจากการลงสนาม 19 นัดล่าสุด เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ สถาปนาตัวเองเป็นดาวเตะที่เนื้อหอมที่สุดในเมืองมนุษย์และนาทีนี้ – วันก่อน ซูเปอร์เอเย่นต์ของเขาอย่าง
มิโน่ ไรโอล่า จึงออกมาทำอะไรที่วัยรุ่นสมัยใหม่นิยมใช้คำว่า “ปั่น” อีกครั้ง
บุคคลที่ครั้งหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยมอบชื่อเล่นให้อย่างน่ารักว่า “ไอ้ถุงขี้” ออกโรงมาปั่นว่าตอนนี้มีอยู่เพียง 10 สโมสรที่มีศักยภาพทางการเงินเพียงพอที่จะกระชากตัวหัวหอกวัย 20 ปีผู้นี้ไปร่วมทีม โดยเป็นสโมสรฟุตบอลที่มาจากเมืองหลวงแห่งลูกหนังถึง 4 ทีมด้วยกัน
อืมมมมม…นะ
ลองมาเดากันดูดีกว่าครับว่าไอ้ 10 สโมสรที่มีปัญญาคว้าตัวเขาไปร่วมทีมนั้นมีใครบ้าง
เข้าใจว่าน่าจะมี 2 ทีมจาก ลา ลีกา ของ สเปอน คือ เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า
1 ทีมจาก ลีก เอิง ของ ฝรั่งเศส คือ เปแอสเช
1 ทีมจาก บุนเดสลีกา ของ เยอรมัน 1 คือ บาเยิร์น มิวนิค
จาก กัลโช่ เซเรีย อา ของ อิตาลี น่าจะมีแน่ๆ 1 ทีมคือ ยูเวนตุส ขณะที่อีกทีมหนึ่งก็อาจเป็นได้ทั้ง อินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน
ส่วนจาก พรีเมียร์ลีก ของ อังกฤษ 4 ทีมตามคำบอกเล่าของ “เสี่ยอ้วน” น่าจะประกอบไปด้วย แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี และ ลิเวอร์พูล
นอกนั้นไม่น่าจะมีทีมใดในยุโรปที่ศักยภาพสูงเพียงพอที่จะกระชากตัว เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ ไปร่วมทีม
ย้อนเวลากลับไปในเดือนธันวาคม 2019 ก่อนตลาดหน้าหนาว ประจำปี 2020 จะเปิดทำการ
บุตรชายของ อัล์ฟ อิงเก้ ฮาแลนด์ ตกเป็นข่าวพัวพันกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอดจนทำเอาเด็กผีแทบทุกหมู่เหล่าซอยบั้นเด้าด้วยความเร็วยิกๆๆๆๆๆ พลางครวญครางเสียงกระเซ่าว่า…
เอานะ-เอานะ
ทันใดฟ้าก็ผ่าลงมากลางกบาล
จำได้แม่นยำดีนักแลว่าตอนนั้นผมกำลังนั่งคลอดลูกทางตูดอยู่ในห้องน้ำของสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านเรียบด่วน ขณะปฏิบัติภารกิจก็เอามือถือขึ้นมาไถเล่นเพลินๆ แล้วก็เจอกับอะไรที่เรียกว่า “Breaking News”
มันเป็น “ข่าวด่วน” ที่ทำให้ผู้มีจิตศรัทธาในปีศาจแดงอย่างผมแทบตกลงไปในโถส้วม
เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวแค่ประมาณ 20 ล้านยูโร เท่านั้นเอง
เรียนตามตรงว่าผมก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังหรือเบื้องลับอะไรในการย้ายทีมแบบหักมุมครั้งนี้หรอกครับ เพียงแต่พอจะสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่าเขาเลือกที่จะสับตีนไปข้างหน้าทีละก้าวมากกว่าการเขย่งก้าวกระโดด
คือจากทีมในลีกของประเทศออสเตรีย หากเขย่งก้าวกระโดดรวดเดียวไปอยู่กับทีมระดับพญายักษ์ในสมรภูมิแข้งระดับศักดินาเลย มันอาจจะเสี่ยงเกินไปหน่อย และมีโอกาสก้าวพลาดจนเสียหลักศีรษะกระแทกพื้นจนสมองเสื่อม เพราะต้องแบกรับความกดดันอย่างหน่วงหนัก
ดาวรุ่งพุ่งกระฉูดแตกผู้นี้จึงเลือกที่จะไปพักตัวเองในลีกที่ไม่ได้เล่นยากเกินไปนักอย่าง บุนเดสลีกา เสียก่อน
ไม่จำเป็นต้องรีบครับ อายุยังน้อย ค่อยๆ ก้าวทีละก้าวแบบพี่ตูนดีกว่า เพราะถึงอย่างไรเขาย่อมได้ไปอยู่กับทีมที่มีขนาดใหญ่กว่า ดอร์ทมุนด์ อยู่แล้วในชาตินี้
ล่าสุด เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ ลงเล่นให้ทีมเสือเหลืองไปแล้วทั้งหมด 43 นัดในทุกรายการ โดยกระหน่ำไป 43 ประตู ค่าเฉลี่ยคือนัดละ 1 ประตู
เขาเซ็นกับ ดอร์ทมุนด์ 4 ปีครึ่ง ยังเหลือสัญญาอีกประมาณ 3 ปีครึ่ง แต่ด้วยความร้อนแรงแบบเกินห้ามใจ มันมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะอยู่ในถิ่น “เวสต์ฟาเล่น” ไม่ครบกำหนด
เฉพาะอย่างยิ่งหลังหมดโควิดแล้วโลกลูกหนังกลับคืนสู่ภาวะปกติ – น่าจะถึงเวลาสยายปีกแล้วบินไปอยู่กับทีมที่ยิ่งใหญ่และไฉไลกว่าเดิม
คำถามคือทีมไหนเหมาะกับหัวหอกสายพันธุ์ไวกิ้งผู้นี้มากที่สุด ???
ถ้าเขาเลือก เปแอสเช
แน่นอนว่าย่อมได้รับค่าเหนื่อยอย่างสาสม อีกทั้งยังรับประกันความสำเร็จระดับแชมป์ลีก (ส่วนแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ต้องลุ้นเอา) แถมบางทีอาจได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุด ทว่าความท้าทายอาจจะน้อยไปหน่อย
เช่นเดียวกับการเลือก บาเยิร์น มิวนิค
นอกจากจะไม่ต้องย้ายไปไหนไกลแล้ว การอยู่ในถ้ำเสือย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จและค่าเหนื่อยมหาศาลในฐานะผู้เล่นของทีมอันดับหนึ่งตลอดกาลแห่งบุนเดสลีกา
เวที กัลโช่ เซเรีย อา ก็น่าสนใจมิใช่น้อย
หากเลือก ยูเวนตุส ก็เหมือนเป็นตัวแทนของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่อายุ 36 แล้ว
แต่จะย้ายทีมทั้งทีก็เอาให้มันตูมตามกว่านี้ดีกว่า เพราะ กัลโช่ เซเรีย อา คุณสามารถย้ายมาตอนอายุ 30 ไปแล้วก็ได้
ว่าแล้วขอแนะนำว่าสมรภูมิแข้งที่อุดมด้วยคุณภาพและได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองมนุษย์อย่างพรีเมียร์ลีกนี่แหละ…เหมาะสมที่สุด
หากเลือก แมนฯ ซิตี้ สโมสรที่คุณพ่อของเขาเคยเป็นผู้เล่น แถมเป็นทีมที่เพียบพร้อมทั้งขุมกำลังและผู้จัดการทีม รวมถึงเจ้าของทีม
ลองจินตนาการถึงทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์ชุดปัจจุบันที่มีศูนย์หน้าตัวเป้าอย่าง เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ ดูนะครับ
บอกได้เลยครับว่า “เหี้ยนะคะ”
หากเลือก เชลซี
อันดับแรก คือคุณจะได้ฝังหนอกในราชธานีที่มีสโลแกนว่า “ผู้ใดเบื่อ ลอนดอน ผู้นั้นเบื่อชีวิต”
อันดับต่อมา มันทำให้ผมนึกถึงดาวยิงในตำนานของ สแตมฟอร์ด บริดจ์ อย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
อย่างไรก็ตาม – อย่าลืมว่าตำแหน่งกองหน้าค่าตัวแพงของสิงห์บลูส์นั้นมักจะมีอาถรรพย์ติดตัว คือถ้าบุญบารมีไม่ถึงจริงๆ คุณก็จะไม่ต่างอะไรจาก อังเดร เชฟเชนโก้, เออร์นัน เครสโป, เฟร์นานโด ตอร์เรส และติโม แวร์เนอร์ ที่ถูกวิญญาณสากกะเบือเข้าสิงร่างแบบไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น
หากเลือก ลิเวอร์พูล ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาอาจทำลายสถิติการซื้อผู้เล่นค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรอีกครั้ง
ลองนึกถึงพลพรรคเครื่องจักรสีแดงผู้อหังการที่มีหัวหอกตัวเป้าขนานแท้อย่าง เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ แล้วขนาบข้างด้วย ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ดูนะครับว่ามันน่าสะพรึงมากขนาดไหน
ความสำเร็จในรูปแบบของถ้วยรางวัลไม่ใช่เรื่องไกลตัว ปัญหาคือคุณอาจได้รับค่าเหนื่อยน้อยกว่าที่จะได้รับจาก แมนฯ ซิตี้, เชลซี และแมนฯ ยูไนเต็ด
อืมมมมม…แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ???
บารมีของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อาจไม่เบ่งบวมเท่าผู้จัดการทีมอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, โธมัส ทูเคิ่ล หรือ เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่กุนซือไวกิ้งผู้นี้เคยเป็นเจ้านายเก่าของ เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ และมีความผูกพันกันตอนคุม โมลด์ ใน นอร์เวย์
บางทีการเลือกขายวิญญาณให้ปีศาจแดงนี่แหละท้าทายและพิสดารที่สุดเหมือนวรรณคดีไทยเรื่อง “สังข์ทอง”
ตอน “รจนาเลือกคู่”
เมื่อ “ท้าวสามนต์” คิดว่าผู้ชายที่นำมาให้นาง “รจนา” เลือกทั้งหมดนั้นยังไม่ถูกใจสักเท่าไหร่ พี่แกจึงปรึกษากับอำมาตย์ว่าผู้ชายที่เธอชอบ มันต้องไม่ใช่คนธรรมดา มันต้องมีอะไรที่พิเศษ หรือแตกต่างจากคนทั่วไป
อำมาตย์จึงทูลว่า “ถ้าอย่างนั้นก็มีแค่เจ้าเงาะป่าบ้าใบ้เท่านั้นแหละที่แปลกกว่าใครพะย่ะค่ะ”
แล้วก็เชิญเสด็จไปดูด้วยกัน
พลันที่เห็นความน่าเกลียดน่ากลัวตัวละ 3 บาทของเจ้าเงาะ เจ้าเมืองพาราณสีก็ทำหน้าเหมือนอมชักโครกในลำคอ แต่ใจหนึ่งก็อยากจะแกล้งประชดลูกสาวตัวเอง จึงสั่งอำมาตย์ให้พาเจ้าเงาะมาให้นางรจนาดูตัว
แม้นยังไม่อยากมีผัว แต่ก็อยากเห็นตัวประหลาดอย่างเจ้าเงาะ เธอจึงยอมออกไปดูให้เห็นกับตา
“สังข์ทอง” ในร่างของ “เงาะป่า” เห็นนางรจนาเข้าก็เกิดอาการ “ปิ๊ง-ปิ๊ง-ปิ๊ง” จนกังวานในใจว่า “เอาน้ำมะพร้าวมากินหน่อย” ว่าแล้วก็อธิฐาน ขอให้นางรจนาเห็นรูปทองที่ซ่อนอยู่ข้างใน
เมื่อ เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ เอ๊ย!…ไม่ใช่ เมื่อ รจนา เห็นร่างที่แท้จริงของเจ้าปีศาจแดง เอ๊ย! ของเจ้าเงาะ เธอจึงโยนมาลัยไปให้เขาทันที
ท้าวสามนต์ทั้งโกรธและแค้นจนแทบจะพ่นไฟบรรลัยกัลป์ออกมาทางรูตูด ครั้นจะฆ่าเจ้าเงาะป่าทิ้งเสียก็กลัวชาวบ้านจะครหาและนินทา
ว่าแล้วจึงขับไล่นางรจนากับเจ้าเงาะป่าให้ไปปลูกกระท่อมอยู่ด้วยกันที่ปลายนา อิอิอิ
บอ.บู๋
Add friend ที่ @Siamsport