-
#1 2010/11 และ 2012/2013 | แกเร็ธ เบล (สเปอร์ส)
ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ของไก่เดือยทอง โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น นับตั้งแต่ขยับจากแบ็กซ้ายขึ้นมาเล่นในแนวรุก ก่อนย้ายซบเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลก
ปัจจุบันในวัย 31 ปี เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บรบกวนต่อเนื่อง จนต้องย้ายกลับมาเล่นให้สเปอร์สเมื่อฤดูกาลก่อนด้วยสัญญายืมตัว และคืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง ด้วยผลงาน 11 ประตู 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 20 นัด
-
#2 2011/12 | โรบิน ฟาน เพอร์ซี (อาร์เซนอล)
ฟาน เพอร์ซี ยิงไปถึง 30 ประตู จากการลงสนามครบ 38 นัดให้อาร์เซนอล พร้อมพ่วงรางวัลรองเท้าทองคำไปครอง ก่อนย้ายซบแมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลถัดมา
ปัจจุบันในวัย 37 ปี เจ้าตัวทำงานเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมเฟเยนูร์ด
-
#3 2013/14 | หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล)
กองหน้าชาวอุรุกวัย คือจอมล่าตาข่ายคนใหม่ของหงส์แดง หลังเฟร์นันโด ตอร์เรส อำลาทีมไป โดยในฤดูกาล 2013/14 เขากดไปถึง 31 ประตู จากการลงสนาม 33 นัด ซิวรางวัลรองเท้าทองคำของทั้งพรีเมียร์ลีก และทวีปยุโรป
ปัจจุบันในวัย 34 ปี เจ้าตัวก็ยังไม่ทิ้งลายดาวยิง เพราะเพิ่งพาแอตฯ มาดริด คว้าแชมป์ลาลีกา ได้ในฤดูกาลล่าสุด
-
#4 2014/15 | เอเด็น อาซาร์ (เชลซี)
อาซาร์ คือนักเตะที่สิงห์บลูจะขาดไม่ได้ ด้วยผลงานสุดเด่น ลงเล่นครบทุกนัด ซัด 14 ประตู 10 แอสซิสต์ พาต้นสังกัดผงาดคว้าดับเบิลแชมป์ ทั้งพรีเมียร์ลีก และลีกคัพ
ปัจจุบันในวัย 30 ปี เจ้าตัวไม่ได้ลงสนามให้เรอัล มาดริดมากนัก เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ตามรบกวนอยู่บ่อยครั้ง
-
Getty
#5 2015/16 | ริยาด มาห์เรซ (เลสเตอร์)
ปีกจอมลากเลื้อย ผู้พาจิ้งจอกสยามหักปากกาเซียนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ด้วยผลงานส่วนตัวระดับสุดยอด 17 ประตู 10 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 37 นัด
ปัจจุบันในวัย 30 ปี เจ้าตัวย้ายมาสานต่อความยิ่งใหญ่กับแมนฯ ซิตี้ และฤดูกาลล่าสุด ก็ยึดสัมปทานทางกราบขวาได้อย่างเหนียวแน่น
-
#6 2016/17 | เอ็นโกโล ก็องเต้ (เชลซี)
ในฤดูกาลที่เลสเตอร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก นอกจากมาห์เรซแล้ว ก็องเต้ก็เป็นอีกคนที่เล่นได้อย่างโดดเด่น ทำให้ถูกเชลซีดึงตัวมาร่วมทัพ และเขาก็ไม่ทำให้แฟนสิงโตคำรามผิดหวัง ด้วยการพาทีมผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดไปครองในฤดูกาลแรกที่ย้ายมา
ปัจจุบันในวัย 30 ปี เจ้าตัวก็ยังเป็นนักเตะคนสำคัญของสิงห์บลูไม่เปลี่ยนแปลง และเพิ่งคุมเกมแดนกลางแบบอยู่หมัด พาต้นสังกัดคว้าถ้วยยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย
-
#7 2017/18 | โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
ดาวเตะชาวอียิปต์รายนี้ เข้ามาเติมเต็มแนวรุกของหงส์แดงได้อย่างลงตัว จนสามประสาน ซาลาห์-ฟีร์มิโน-มาเน กลายเป็นแนวรุกระดับท็อปของทวีปยุโรป พ่วงสถิติส่วนตัว ยิงกระจาย 32 ประตู จาก 36 นัด ซิวรองเท้าทองคำไปครอง
ปัจจุบันในวัย 28 ปี เจ้าตัวก็ยังเป็นซูเปอร์สตาร์ของลิเวอร์พูล และผลงานในฤดูกาลล่าสุดก็ยังคงร้อนแรง 22 ประตู จากการลงสนาม 37 นัด
-
#8 2018/19 | เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล)
ปราการหลังค่าตัวแพง ที่แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่า ผลงานในสนามของเขาคุ้มค่าแค่ไหน เพียงแค่ฤดูกาลแรกก็พาพลพรรคเรด แมชชีน ชูถ้วยยูฟาแชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างยิ่งใหญ่ แถมยังมีชื่อลุ้นเข้าชิงบัลลงดอร์ ด้วยการมีคะแนนเป็นอันดับ 2 รองจากลิโอเนล เมสซี
ปัจจุบันในวัย 29 ปี เจ้าตัวยังคงสวมเสื้อลิเวอร์พูล แต่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักตั้งแต่เดือน ต.ค. และไม่ได้ลงเล่นอีกเลยจนจบฤดูกาล
-
#9 2019/20 | เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้)
จอมทัพตัวเก่งของแมนฯ ซิตี้ ถูกยกย่องว่าเป็นจอมถวายพานระดับท็อปของโลก และผลงานของเขาก็เป็นเครื่องยืนยัน 20 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 35 นัด ทาบสถิติแอสซิสต์สูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกที่ทำไว้โดย เธียร์รี อองรี
ปัจจุบันในวัย 29 เจ้าตัวก็ยังเป็นนักเตะคนสำคัญของเรือใบสีฟ้า และผงาดคว้าแข้งแห่งปี PFA เป็นปีที่สองติดต่อกัน ทำให้กลายเป็นนักเตะคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ได้รางวัลนี้ 2 สมัยติดต่อกัน ต่อจาก เธียร์รี อองรี และ คริสเตียโน โรนัลโด้