ยูกิ ล่ามใหม่ นิชิโนะ รับแทบไม่รู้ศัพท์ฟุตบอล แต่พร้อมซึมซับเพื่อช้างศึก – ข่าวสด

ยูกิ ธีรเนตร ทานากะ ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ล่ามคนใหม่ของ อากิระ นิชิโนะ กุนซือทัพช้างศึก ยอมรับแทบไม่มีความเรื่องฟุตบอล แต่พยายามศึกษาเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เพิ่มเพื่อน

ยูกิ ธีรเนตร ทานากะ เปิดใจถึงการเข้ามาทำหน้าที่เป็นล่ามคนใหม่ของ อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย ที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม ลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)

โดยอดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่น เข้ามาคุมทัพช้างศึก ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019 โดยมี ณฐกร เทียมกีรกุล เป็นล่ามคนแรก ก่อนที่ล่าสุดเจ้าตัวจะโยกย้ายไปเป็นล่าม ส่วนตัวให้ สิทธิโชค ภาโส ที่เอฟซี ริวกิว ทีมในเจ 2 ลีก ญี่ปุ่น ทำให้ นิชิโนะ ตัดสินใจดึง ธีรเนตร ทานากะ เข้ามาเป็นล่ามคนใหม่แทน และเริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่ 23 เมษายน 2564 มาถึงปัจจุบัน

  • เดอะแรบบิท เผยกุนซือใหม่เดินทางถึงไทยแล้ว รอเปิดตัวเป็นทางการ

“ผมชื่อ ธีรเนตร ทานากะ หรือเรียกสั้นๆ ว่ายูกิ เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น พ่อเป็นคนญี่ปุ่น ส่วนแม่เป็นคนไทย ส่วนตัวผมเกิด และโตที่กรุงเทพฯ ตอนเด็กผมเคยไปอยู่ฟิลิปปปินส์ด้วยช่วงหนึ่ง และกลับมาไทย เรียนที่โรงเรียนญี่ปุ่น ถ้าจำไม่ผิด ตั้งแต่อายุประมาณ 5-13 ขวบ”

“จากนั้นไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย จนถึง 18 แล้วมีโอกาสไปเรียนที่ญี่ปุ่น 2 ปี เกี่ยวกับด้านดนตรี และกลับมาเรียนที่ไทยต่อจนจบ และทำธุรกิจที่บ้าน รวมๆ แล้วชีวิตของผมอยู่ที่ไทยเป็นส่วนใหญ่ และพูดได้ 3 ภาษา ไทย ญี่ปุ่น และ อังกฤษ”

“อย่างที่บอกผมทำธุรกิจกับที่บ้าน ที่บ้านผมทำเกี่ยวกับอสังหาฯ ช่วยหาห้องพักให้คนญี่ปุ่นเช่า และผมมีโอกาสหาห้องเช่าให้คุณนิชิโนะ ในช่วงปีที่ 2 ที่อยู่ในไทยด้วย ผมเลยสนิทกับคุณนิชิโนะเป็นพิเศษ ประจวบเหมาะกับล่ามคนเก่าของคุณนิชิโนะ ไม่อยู่แล้ว คุณนิชิโนะ เลยบอกผมว่าหาล่ามค่อนข้างยาก เขาอยากได้คนที่รู้จัก และสนิทใจกันด้วย เขาก็เลยชวนผมให้เข้ามาช่วย”

“ตอนนั้นผมบอกเขาว่าขอพิจารณาก่อน เพราะทำธุรกิจช่วยที่บ้านด้วย แต่ลึกๆ ส่วนตัวอยากเข้ามาทำ จากนั้นผมตอบตกลงกับคุณนิชิโนะ และผมจ้างอีกคนมาช่วยทำงานแทนผมที่บ้านเลย”

“จริงๆ แล้วผมเคยทำหน้าที่ล่ามมาก่อนให้ศิลปินญี่ปุ่น แต่สำหรับฟุตบอล ผมเคยเล่น แต่ผมไม่เคยทำกับมืออาชีพเลย ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีหรือเปล่า และที่ผมขอเวลาพิจารณา ส่วนหนึ่งเพราะคิดเรื่องนี้ด้วย”

“ผมไม่รู้ศัพท์ฟุตบอล ไม่รู้จักนักฟุตบอล ผมอาจจะรู้ภาษาญี่ปุ่น แต่ไม่รู้ไทย หรือผมอาจจะรู้ภาษาไทย แต่ไม่รู้ญี่ปุ่น พอแปลตามตัวบางทีมันไม่ได้ ไหนจะเป็นเรื่องอารมณ์การสื่อสารที่เข้ามาอีก แต่คุณนิชิโนะ ให้กำลังใจ และบอกว่ามีแต่ยูกินี่แหละที่ต้องเข้ามาช่วย”

“ผมทำการบ้านของตัวเองหนัก ผมลิสต์ชื่อนักฟุตบอล พยายามท่องจำทั้งชื่อเล่น และชื่อจริง อย่างเช่น บอย-ฉัตรชัย หรือ ตังค์-สารัช และพอเข้ามาที่แคมป์ทีมชาติต้องจำชื่อ จำหน้าไปด้วย ค่อยเป็นค่อยไป บางทีศัพท์เฉพาะของฟุตบอลยากเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้ใช้ในชีวิจประจำวันเลย แน่นอนกดดันอยู่แล้ว อย่างที่รู้นี่เป็นทีมชาติ ไม่ใช่ฟุตบอลทีมเด็กๆ ที่เตะเล่นกัน ถ้าแบบนั้น คงไม่ยาก”

“แต่คุณนิชิโนะให้กำลังใจตลอด เขาบอกว่าไม่ต้องซีเรียส หรือคิดมาก ค่อยๆ ฝึก เดี๋ยวจำได้เองแหละ และระหว่างที่แปลสื่อสารกับนักฟุตบอล ได้พี่จุ่น (อนุรักษ์ ศรีเกิด) กับ พี่หระ (อิสสระ ศรีทะโร) คอยช่วยด้วย”

“อย่างคำไหนที่ผมอาจจะแปลแปลกๆ พี่ๆ ทั้งสองคน ช่วยแปลเป็นศัพท์เฉพาะ ใช้บอกนักฟุตบอลให้ โดยรวมเริ่มปรับตัวได้แล้ว มีแค่บางอย่างในแต่ละวันที่ต้องจำให้ได้ เพราะแผนแต่ละวันไม่เหมือนกัน เช่นเล่นอันนี้ เรียกว่าแบบนี้นะ หรือคนไทยเรียกแบบนี้”

“ตอนเด็กผมเคยมีประสบการณ์พูดต่อหน้าจักรพรรดิญี่ปุ่นมาแล้ว แต่สั้นๆ อย่างมีเวลา 2 นาที พูด 2 นาที แต่อันนี้ทุกวัน ทุกวัน และสถานการณ์ไม่เหมือนกันด้วย รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ท้าทายสุดในชีวิตแล้ว”

“อีกอย่างผมคิดว่าการเป็นล่ามไม่ใช่แค่ต้องคอยแปลภาษา แต่การจับอารมณ์ของโค้ชก็สำคัญ อย่างคนไทยผมเข้าใจว่าไม่ค่อยชอบเวลาโดนต่อว่า หรือโมโหเท่าไหร่ พอโค้ชพูดแรง ผมอาจจะต้องแปลให้เบาลง เพราะเดี๋ยวถ้าแปลออกไปตรงๆ บางคนอาจจะไม่พอใจ และส่งผลต่อทีมได้”

“อย่างสถานการณ์ที่โค้ชพูดแซวนักฟุตบอล ซึ่งโค้ชชอบพูดเล่น พูดแซวอยู่แล้ว ผมเองต้องสื่อสารให้นักฟุตบอลดูสนุก ผ่อนคลายที่สุด และต้องพยายามสนิทกับนักฟุตบอลมากขึ้นด้วย”

“ก่อนเข้ามาทำงานได้ปรึกษากับกร (ณฐกร เทียมกีรกุล) ล่ามคนเก่า อย่างศัพท์เทคนิคมีอะไรบ้าง ผมลิสต์ก่อนเข้ามา และเขาแนะนำว่าควรทำอะไรบ้าง เช่นควรจำชื่อจริงนักฟุตบอลให้ได้ เพราะโค้ชนิชิโนะ มักจำชื่อเล่น อีกอย่างนักฟุตบอลไทย คุ้นชินกับการเรียกชื่อจริงด้วย เวลาผมเรียกชื่อนักฟุตบอลแทนโค้ช อาจจะเรียกว่า บอย-ฉัตรชัย อะไรแบบนี้ และทุกวันนี้ กร ยังทักมาให้กำลังใจกัน”

“มีไม่กี่คนที่มีโอกาสเข้ามาตรงนี้ ส่วนตัวภูมิใจมาก แต่ต้องทำการบ้านเรื่อยๆ ทำให้ดีที่สุด เพราะเหมือนแบกความหวัง ความฝันของคนไทยไว้ข้างหลัง ต้องตั้งใจ อาจจะมีเครียดๆ บ้างบางเวลา แต่โดยรวมสนุก และรู้สึกชอบตรงนี้ ส่วนพอจบรายการนี้ (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก) คุณนิชิโนะ บอกว่าอยากให้ช่วยต่อ ผมเลยตอบตกลง”

“ขอฝากเนื้อฝากตัวกับแฟนบอลทีมชาติไทยด้วย และขอบคุณแฟนๆ ที่สนับสนุนทีมชาติไทยมาตลอด ทั้งทีมงานสต๊าฟโค้ช และนักเตะ รวมถึงตัวผมเองด้วย เวลาผมเห็นใครลงไอจีเกี่ยวกับผม ผมก็ดีใจ ผมอยากบอกว่า ผมจะพยายามทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด และเต็มที่ ผมอยากเห็นฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลก เหมือนกับทุกคน หรืออย่างน้อย เราจะไปที่ ยูเออี เพื่อแสดงให้เห็นว่าทีมชาติไทยเก่งเหมือนกัน”

นอกจากนี้ ธีรเนตร ทานากะ ยังเคยรับบทบาทในภาพยนต์ไทยเรื่อง 5 แพร่ง มาแล้ว โดยเล่นเป็นพระเอกในตอนแบ๊กแพ็ค