“เลขาโจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผย เตรียมแผนสำรองหากเกิดกรณีที่แย่ที่สุด อย่าง “นิชิโนะ” กุนซือใหญ่ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ไว้แล้ว
ความเคลื่อนไหว “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดเตรียมลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก กลุ่ม จี ในอีก 3 นัดที่เหลือ ที่ ประเทศสหรัฐอาเอมิเรสต์ ในช่วงระหว่างวันที่ 3-15 มิถุนายน 2564 ซึ่งเจอปัญหา “นักเตะทีช่าติไทย” ชุดแรก และ “เจ้าหน้าที่” ในทีม ถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 รวม 6 คน ระหว่างอยู่ในแคมป์ฝึกซ้อม จากการตรวจรอบ 2 เมื่อวันที่ 7 พ.ค.64 แบ่งเป็นนักกีฬา 2 คน และ เจ้าหน้าที่ 4 คน พร้อมกับได้มีการแยกนักกีฬา และ เจ้าหน้าที่ ที่ติดเชื้อไปเข้ารับการรักษา และสั่งให้นักกีฬาทุกคนกักตัวเพื่อการตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง
ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยววันที่ 12 พ.ค. 64 มีรายงานงานทีมงานนักเตะชุดแรก ได้เดินทางไปเข้ารับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำ ตามกำหนดที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้กำหนดไว้แล้ว และจะมีการแจ้งผลตรวจให้ทราบในวันที่ 13 พ.ค.นี้ ว่าจะมีนักกีฬาหรือเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทย คนใดติดเชื้อเพิ่มหรือไม่ต่อไป
ส่วนนักเตะชุด 2 ที่ยังไม่ได้เข้าแคมป์นั้น จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 12 พ.ค.64 และตรวจหาเชื้ออีกครั้งวันที่ 13-14 พ.ค. ก่อนจะแยกจากชุดแรก ไปเก็บตัวที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เทรนนิ่งแคมป์ (บางบ่อ) จ.สมุทรปราการ ซ้อมแบบเว้นระยะห่าง จนถึงวันที่ 19 พ.ค. ตรวจหาเชื้ออีกครั้งเช่นกัน ก่อนเดินทางวันที่ 21 พ.ค.
ด้าน “เลขาโจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงแผนสำรองหาหากเกิดกรณีที่แย่ที่สุด คือ หาก อากิระ นิชิโนะ เฮดโค้ชทีมชาติไทย ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ผ่าน “กีฬาเดลินิวส์” ว่า “ทางทีมงานวางแผนข้ามชอตเอาไว้แล้ว เพราะมีโอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ แค่ให้รู้ว่าถ้าเกิดขึ้นจะต้องทำอะไรต่อ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการติดต่ออะไรอย่างเป็นทางการเอาไว้เท่านั้นเอง”
“ส่วนเรื่องของการตัดตัวนักเตะ จะดูจากผลตรวจที่จะออกทั้งวันที่ 12 พ.ค. กับ 19 พ.ค. ตั้งใจจะเอาไปให้มากที่สุด ยังไม่มีนโยบายที่จะตัดใครออก และ นิชิโนะ เองก็ให้ทำงานเสมือนว่าทุกคนจะเดินทางไป ส่วนแผนสำรองที่เตรียมนักเตะอีกชุดหนึ่งไว้นั้น ได้แจ้งสโมสรขอเอกสารเพื่อมาทำวีซ่าล่วงหน้าไว้ในกรณีฉุกเฉินจริงๆ
อย่างไรก็ดี คิดว่านักเตะที่เคยเรียกเอาไว้ก่อนหน้าจะพอใช้งานแน่นอน อย่างไรก็ตามถ้ามีคนติดเพิ่ม ก็อาจจะต้องเรียกมาสมทบจริงๆ โดยผลตรวจวันที่ 12 กับ 19 พ.ค. จะเป็นตัวชี้วัดว่าต้องใช้คนสมทบหรือไม่” พาทิศ ศุภะพงษ์ กล่าว