ฟุตบอลยุคใหม่ถูกตั้งคำถามมากมายจากบรรดานักเตะ เนื่องจากปริมาณของเกมการแข่งขัน หนักหนาไม่น้อยกับการรักษาสภาพร่างกายให้อยู่ในระดับสูงสุด เพื่อที่จะอยู่รอดในเล่นระดับสูงสุดให้กับสโมสร
การแข่งขันต่างๆรวมถึงฟุตบอลทีมชาติ ทำให้บรรดาผู้เล่น จะต้องมีรักษาสภาพตัวเองทั้งจิตใจและร่างกาย เพื่อรับมือกับจำนวนแมตช์สุดถี่ของเกม ดังนั้นการดูแลต่างๆจะส่งผลต่อร่างกายนักเตะจึงถูกนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นดูแล
การบริโภค ไปจนถึงการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีต่างๆที่แต่ละสโมสรนำมาใช้ดูแลนักเตะ ซึ่งแม้จะดูแลกันอย่างดีก็ไม่วายที่นักเตะบางคนรับสภาพไม่ไหว ต้องบาดเจ็บหรือความฟิตไม่ถึงจากความอ่อนล้า จนต้องหายไปบางเกม
อย่างไรก็ตามก็ยังมีผู้เล่นบางคน ที่เราเห็นเขาปรากฏตัวลงสนามอยู่ตลอดเวลา ทั้งสโมสรและทีมชาติ เราดูกัน ใครบ้าง 5 แข้ง โคตรแกร่งในยุคนี้
1 ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (เอซี มิลาน)
หนึ่งในกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคปัจจุบัน เส้นทางการค้าแข้งที่ยืนยาวของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ในเกมระดับสูง สร้างความประหลาดใจให้กับแฟน ๆ และนักวิจารณ์มากมาย
นักเตะวัย 39 ปีมีความสุขและประสบความสำเร็จกับสโมสรชั้นนำ มากมายอย่าง อาแจ็กซ์, อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน, ปารีส แซงต์ – แชร์กแมง และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากไปอยู่กับ แอลเอ แกแลคซี่ ใน เมเจอร์ลีก ได้ไม่
นาน ดาวเตะทีมชาติสวีเดน ก็อยู่กับ เอซี มิลาน อีกครั้งในเดือนมกราคมปี 2020 และเป็นตัวรุกหลักของทีมตั้งแต่นั้นมาอิบราฮิโมวิช ลงเล่นไป 44 นัดในทุกรายการ ให้กับ เอซี มิลาน นับตั้งแต่ย้ายกลับมาอีกครั้ง โดยทำประตูได้ 28 ประตู ก่อนมีชื่อกลับไปเล่นทีมชาติสวีเดนอีกครั้ง ในช่วงฟุตบอลยูโรปีนี้
2 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)
ลิเวอร์พูล โชคร้ายอย่างมากกับอาการบาดเจ็บของนักเตะในฤดูกาลนี้ แต่ผู้เล่นคนหนึ่งที่ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ก็คือ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
หลัง ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญากับ โรเบิร์ตสัน จากฮัลล์ ซิตี้ในปี 2017 ด้วยราคา 8 ล้านปอนด์ หลายคนตั้งคำถามถึงการเซ็นสัญญาในครั้งนั้น แต่เกือบสี่ฤดูกาลต่อมา นักเตะทีมชาติสก็อตต์ผู้นี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแบ็กซ้าย
ที่ดีที่สุดในลีก และเป็นหนึ่งในนักเตะที่ผลงานสม่ำเสมอคนหนึ่งในแบ็คโฟร์ของ ลิเวอร์พูลแข้งวัย 27 ปีลงเล่นไปแล้ว 40 นัดในทุกรายการในฤดูกาลนี้ โดยมักจะทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาเกมรับของลิเวอร์พูล ในช่วงที่ไม่มี เวอร์จิล ฟานไดค์ โดยเขาลงเล่นไปแล้ว 167 นัดในทุกรายการให้กับ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่เปิดตัว
3 โรเมลู ลูกากู (อินเตอร์ มิลาน)
เวทมนต์ของเขา อาจจะไม่มีผลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่าไหร่นัก แต่ ลูกากู แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเขา ยามที่ลงเล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน ของ อันโตนิโอ คอนเต้
ลูกากู เข้าร่วมกับ อินเตอร์ มิลาน หลังออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2019 ด้วยค่าตัว 67 ล้านปอนด์ของสโมสร นักเตะทีมชาติเบลเยียม พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คุ้มค่ากับเส้นทางการคว้าแชมป์ของทีม โดยได้ลงสนามไปแล้ว 86
นัดในการแข่งขันทั้งหมดให้กับสโมสรและยิงได้ 60 ประตู
4 อดาม่า ตราโอเร่ (วูล์ฟส์)
อดาม่า ตราโแเร่ มีชื่อเสียงในด้านร่างกายและฝีเท้าเป็นอย่างยิ่ง ความสามารถในการเลี้ยงบอล และความแข็งแกร่งที่แท้จริง ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ วูล์ฟส์
ผลผลิตของ ลามาเซีย สถาบันปั้นเด็กเยาวชนที่มีชื่อเสียงของบาร์เซโลน่า ตราโอเร่ ใช้เวลาอยู่กับ แอสตัน วิลล่า และ มิดเดิ้ลสโบรช์ ก่อนย้ายมาอยู่กับ วูล์ฟส์ ในปี 2018 ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์
ก่อนกลายเป็นส่วนสำคัญของทีมนับตั้งแต่นั้น โดย ซานโต มักใช้งานเขาในฐานะปีก อยู่บ่อยๆ แม้ว่าแข้งทีมชาติสเปน ยังยิงไม่ได้ในฤดูกาลนี้ แม้ว่าจะลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 28 นัดก็ตาม แต่ชื่อของเขาก็ถูกเชื่อมโยงกับการ
กลับไปที่ บาร์เซโลน่า เช่นเดียวกับการย้ายไป ลิเวอร์พูล อยู่เสมอ
5 คริสเตัยโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส)
หนึ่งในนักกีฬาที่แกร่งที่สุดในโลก ความทุ่มเทของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ไม่มีขอบเขตที่จะนิยาม
โรนัลโด้ ถือได้ว่าเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง นักเตะวัย 36 ปี เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของ เซเรีย อา และ เป็นแข้งแนวรุกที่สำคัญที่สุดของ ยูเวนตุส
ในวัย 36 ปีเขาทำลายสถิติมามากมาย กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด ก่อนที่จะมาอยู่กับ ยูเวนตุส และยังไม่หยุดทำลายสถิติในอิตาลี ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสลงเล่น 35 นัดในทุกรายการในฤดูกาลนี้ ยิงได้ 31 ประตู
ซึ่งหลังจบซีซั่น โรนัลโด้ จะรับบทแม่ทัพคนสำคัญของโปรตุเกส ในศึกยูโรต่อไป
Add friend ที่ @Siamsport