ซีอีโอ แมนยู พูดเรื่องสโมสรใช้เงินฟุ่มเฟือย, สองแข้งสาวไส้ให้กากินและความคืบหน้าดีล เดอ ยอง

ริชาร์ด อาร์โนลด์ ซีอีโอของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ตัดสินใจเดินทางมานั่งพูดคุยกับแฟนบอลที่ผับแห่งหนึ่งใกล้บ้านของเขาหลังจากที่เจ้าตัวทราบถึงแผนการรวมตัวกันประท้วงจากแฟนบอลกลุ่มดังกล่าว

โดยในระหว่างการสนทนา อาโนลด์ ได้พูดถึงหลายประเด็นที่น่าสนใจ ตั้งแต่การใช้เงินที่ฟุ่มเฟือยในยุคของ เอ็ด วู้ดเวิร์ด ไปจนถึงการระบุว่า ป็อกบา และ เจสซี่ ลินการ์ด เป็นสองผู้เล่นที่คอยปล่อยข่าวจากห้องแต่งตัวให้สื่อมวลชนอีกด้วย

“สิ่งที่เกิดขึ้นคือเราเสียเงินไปเปล่าๆ – คุณไม่สามารถไปที่สนามฝึกซ้อมแล้วมองเห็นเงินหนึ่งพันล้านปอนด์ที่เสียไปได้เลย เพราะว่ากันตามตรงเราใช้เงินได้ไม่เข้าท่าเอามากๆ” เขากล่าวถึงประเด็นที่สโมสรใช้เงินไปกว่าพันล้านปอนด์ในช่วงเกือบทศวรรษที่ผ่านมาโดยที่ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้แม้แต่ใบเดียว

แต่ อาร์โนลด์ ยืนยันว่า “เรามีเงินเพียงพอสำหรับการเสริมทัพตามที่ผู้จัดการทีมและผู้อำนวยการ จอห์น เมอร์ทัฟ ต้องการอย่างแน่นอน”

นอกจากนี้ หนึ่งในแฟนบอลที่เข้าร่วมวงสนทนายังบอกกับเว็บไซต์ โจ เพิ่มอีกว่า “เขาบอกเราว่า [จอห์น] เมอร์ทัฟฟ์ ทำงานตั้งแต่หกโมงเช้าจนถึงสี่ทุ่มเพื่อพยายามทำข้อตกลงกับ เดอ ยอง พร้อมกล่าวว่าสโมสรมีงบ 200 ล้านปอนด์ให้ใช้ในช่วงซัมเมอร์นี้”

เขากล่าวว่าตนเองจะไม่ใช่คนที่เข้าไปเจรจาเรื่องการเสริมทัพด้วยตัวเองเพราะตัวอย่างมีมาให้เห็นแล้วจากกรณีของ วู้ดเวิร์ด นั่นเอง

ไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะ อาโนลด์ ยังกล่าวกับกลุ่มแฟนๆเพิ่มอีกด้วยว่า “ตอนนี้ผู้เล่นสองคนที่คอยส่งข่าวภายในไปให้กับสื่อได้จากสโมสรไปแล้ว” และแม้จะไม่ได้กล่าวชื่อตรงๆว่าเป็นใคร แต่ตลอดช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่ผ่านมาชื่อของ ป็อกบา และ เจสซี่ ลินการ์ด ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากว่าว่าอาจจะเป็นสองคนที่สาวไส้ให้กากินมาโดยตลอด

ท้ายสุดกับเรื่องการตลาดและแผนพัฒนาสโมสร อาโนลด์ ยืนยันว่าเขาไม่ได้ออกหน้าปกป้องครอบครัว เกลเซอ์ เจ้าของทีมอย่างแน่นอน กระนั้นการจะลงทุนพัฒนาสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, สนามซ้อมและระบบภายในต่างๆจำเป็นต้องใช้เงินและเงินนั้นจะได้มาก็จากการลงทุนของผู้สนับสนุนต่างๆนั่นแหละ